กิจกรรม(formula)
สัมผัส โพร์เช คาเยนน์ ที่ ดูไบ จับกบยักษ์ มาคลุกฝุ่น
ABOUT THE AUTHOR
ว
วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : กิจกรรม(formula)
"ฟอร์มูลา" ตอบรับคำเชิญจาก โพร์เช ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ โพร์เช ในประเทศไทย เข้าร่วมสัมผัส โพร์เช คาเยนน์ ใหม่ ณ เมืองฟูไจราห์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเมืองดิบบา ประเทศโอมานการเดินทางครั้งนี้ นอกจากได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของ โพร์เช คาเยนน์ แล้ว ยังตื่นตาตื่นใจไปกับภูมิประเทศที่งดงามของประเทศโอมาน ทำให้ผู้ร่วมทริพจากไทยทั้ง 4 คน ประทับใจไม่รู้ลืม วันแรกที่มาถึง เราเข้าร่วมดินเนอร์อย่างเป็นกันเองกับ คาลิสตา ทัมบาจง หัวหน้าทีมพีอาร์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค จากนั้น ชเตฟาน เลนโคว์ ผู้จัดการโมเดล เอสยูวี ของ คาเยนน์ ก็ได้ชวนนักข่าวจากประเทศต่างๆ ทั้งหมดกว่า 20 คน เดินชมตัวเป็นๆ ของ คาเยนน์ ตั้งแต่โมเดลแรก พร้อมการอธิบายถึงวิวัฒนาการตลอด 3 เจเนอเรชัน และเมื่อถึงคันสุดท้ายซึ่งเป็นโมเดลล่าสุด ผู้จัดได้เซอร์พไรส์พวกเราด้วยการบรรยากาศหมอกควัน พร้อมแสง สี เสียง อย่างยิ่งใหญ่ เป็นความประทับใจแรกของพวกเรา วันที่ 2 เป็นวันที่พวกเรารอคอย ก่อนเริ่มสัมผัสเจ้ากบยักษ์ มีการแนะนำเส้นทางและระเบียบข้อบังคับต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ คือ ข้อมูลเชิงลึก ด้านสมรรถนะของ โพร์เช คาเยนน์ รุ่นใหม่นี้ ย้อนกลับไปกว่า 15 ปีก่อน โพร์เช ตัดสินใจสร้างรถ เอสยูวี รุ่นแรกออกจำหน่าย โดยใช้ชื่อว่า "คาเยนน์" สร้างความประหลาดใจให้ผู้คลั่งไคล้ โพร์เช ทั่วโลก แต่ คาเยนน์ กลับสร้างชื่อเสียง และยอดขายให้กับ โพร์เช เป็นอย่างมาก จนปัจจุบันรถสปอร์ทสมรรถนะสูงจากหลายค่าย ต่างเดินตามรอยความสำเร็จของ คาเยนน์ คาเยนน์ รุ่นนี้ เป็นทายาทลำดับที่ 3 มีมิติตัวถังยาว 4,918 มม. (ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม 63 มม.) กว้าง 1,983 มม. (ไม่รวมกระจกมองข้าง) และสูง 1,696 มม. (เตี้ยกว่า 9 มม.) ฐานล้อเท่าเดิม 2,895 มม. ช่องเก็บสัมภาระหลัง 770 ลิตร (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 100 ลิตร) รูปทรงภายนอกคล้ายรุ่นเดิม แต่ด้านท้ายคล้ายคลึงกับ โพร์เช พานาเมรา รถสปอร์ทหรู 4 ที่นั่งคันโตเป็นอย่างมาก น้ำหนักตัวรุ่นนี้ลดลงเหลือไม่ถึง 2 ตัน (เบาลงกว่าเดิม 65 กก.) เป็นผลมาจากการใช้วัสดุช่วงล่าง และตัวถังแบบเบา และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายในออกแบบเน้นความสปอร์ทหรูหรา ปฏิวัติระบบเชื่อมต่อด้วยการลดความวุ่นวายของปุ่มควบคุมต่างๆ และหันไปใช้ระบบสัมผัส (แบบเดียวกับมือถือ) แต่ก็ยังคงเหลือไว้บางเรื่อง เช่น ปุ่มปรับระดับความแรงพัดลมแอร์ จอด้านหน้ามีขนาดถึง 12.3 นิ้ว มีความละเอียดสูง สั่งการได้ด้วยเสียง และเชื่อมกับข้อมูลสดแบบออนไลน์ คาเยนน์ ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ คาเยนน์/คาเยนน์ เอส และคาเยนน์ เทอร์โบ ต่างกันที่ขนาดเครื่องยนต์ จำนวนเทอร์โบ และความแรง คาเยนน์ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ วี 6 สูบ 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ส่วน คาเยนน์ เอส ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 6 สูบ 2.9 ลิตร ให้กำลังเพิ่มเป็น 440 แรงม้า ส่วนรุ่นแรงสุด คาเยนน์ เทอร์โบ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 8 สูบ 4.0 ลิตร ให้พละกำลังถึง 550 แรงม้า ทุกรุ่นใช้เกียร์แบบทิพทรอนิค เอส อัตโนมัติ 8 จังหวะ ตอบสนองเร็วขึ้น อัตราทดชิด ทำให้ขับสนุกทั้งถนนเรียบ และทางฝุ่น เส้นทางในครั้งนี้ เราขับลัดเลาะตามถนนในเมืองฟูไจราห์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และข้ามแดนสู่เมืองดิบบา ประเทศโอมาน ทันทีที่ข้ามแดน ต้องตะลึงกับภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ที่โอมล้อมเราอยู่ คาราวานขับผ่านเส้นทางฝุ่นที่มีแต่หินกรวด ลัดเลาะไปตามหุบเขาที่งดงาม มีเนินชัน สลับกับพื้นราบเป็นระยะๆ ช่วงล่างถุงลม และระบบกันโคลงเสริมแรงต้านไฟฟ้า ทำงานสอดคล้องกันอย่างนุ่มนวล ขณะเดียวก็ยึดเกาะถนนได้ดีทั้งบนถนนหลวง และเส้นทางทุรกันดาร ระบบขับเคลื่อนปรับได้ตามสภาพพื้นผิว 4 แบบ โคลน ทราย หญ้า และหิน ซึ่งแต่ละโหมด จะปรับแต่งการตอบสนองของช่วงล่าง ระบบถ่ายทอดกำลัง และดิฟเฟอเรนเชียล ลอค ให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ผมประทับใจรุ่น คาเยนน์ เอส ที่สุด เพราะทั้งแรง และขับสนุก โพร์เช เคลมว่ารุ่นนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาทีเท่านั้น เสียดายที่ไม่มีรุ่น คาเยนน์ เทอร์โบ ให้สัมผัส แต่ต้องยอมรับว่า คาเยนน์ เป็น เอสยูวี ที่ทรงพลังในทุกด้าน และการได้ไปจับต้องเจ้ากบยักษ์ครั้งนี้ ก็เป็นความประทับใจที่เกินบรรยายจริงๆ
บทความแนะนำ