สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) จัดเสวนา "ทศวรรษใหม่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย" ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34"

ยุทธพงษ์ ภาษี นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เปิดเผยว่า สรยท. ได้จัดกิจกรรมด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์ และเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพสื่อมวลชน รวมถึงเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่น่าสนใจ   "ปีนี้ สรยท. มองว่า ในทศวรรษใหม่ มีปัจจัย และสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป จึงได้จัดเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ "ทศวรรษใหม่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย" เพื่อสะท้อนภาพอนาคตของวงการยานยนต์ไทยผ่านมุมมองของผู้เกี่ยวข้อง"   ในการเสวนามีตัวแทนภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมเสวนาเพื่อชี้แนวทางของวงการยานยนต์ไทย ดังนี้   ณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนให้ผู้ผลิตในตลาดปรับเปลี่ยนการผลิตสู่เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งหากพิจารณาปริมาณการผลิตในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ผลิตรถเกินความต้องการอยู่มาก ขณะที่ประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา คนรุ่นใหม่ทำใบขับขี่น้อยลง เห็นได้ชัดว่าความต้องการใช้รถลดลง จึงต้องเฝ้าระวังสำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตอาจต้องปรับตัวตามความต้องการของโลก ซึ่งอนาคตอาจต้องปรับตัวใหม่ไม่ใช่เป็นเพียงฐานการผลิตเท่านั้น   โชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า บีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนทุกรูปแบบ อาจแตกต่างตรงส่งเสริมชิ้นส่วนเก่าน้อยกว่าชิ้นส่วนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา เทคโนโลยีไฮบริด มีบริษัท โตโยตา รายเดียวที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ และมีเวลาถึงสิ้นปีนี้ ส่วนพลัก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีเวลาถึงปีหน้า   ธิบดี หาญประเสริฐ นายกสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย กล่าวว่า สมาคมไม่ได้คัดค้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า แต่ต้องการให้ภาครัฐช่วยวิเคราะห์การเกิดขึ้นในภาพรวม และช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้อยู่รอด เพราะที่ผ่านมาไทยส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ปีละประมาณ 5.8 แสนล้านบาท หากรัฐก้าวผิดจังหวะ นักลงทุนต่างชาติอาจขยับไปลงทุนที่เวียดนามกับอินโดนีเซียแทน   อัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า นโยบายของภาครัฐควรมีความชัดเจน การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นตามแนวโน้มของตลาด แต่ต้องวิเคราะห์ถึงผลของการเปลี่ยนแปลงว่าจะกระทบถึงฝ่ายใดบ้าง   ดร. พิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 2561 จะดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวในระดับต่ำเป็นปีสุดท้าย และตลาดรถยนต์จะฟื้นตัวในส่วนของผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป