CARAVAN SPIRIT 4x4 นอนนับดาวที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า-อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จ. พะเยา

โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ SPIRIT OF THE 4x4 DRIVING SCHOOL พานักเรียนสปิริทและครอบครัว เดินทางขึ้นเหนือสัมผัสอากาศหนาวเย็น เส้นทางกรุงเทพฯ-แพร่-ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า-อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จ. พะเยา เมื่อวันที่ 13-16 ธันวาคม 2560

เส้นทางไม่ยาก นอนเทนท์เย็นสบาย

คาราวานนัดรวมตัวกันที่โรงแรมภูมิไทยการ์เด้น จ. แพร่ ก่อนเดินทางสู่จุดหมายที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า มื้อเที่ยง แวะรับประทานอาหารพื้นเมืองทางเหนือขนานแท้ รสชาติอร่อยล้ำ ที่ครัววันดี จากนั้นเดินทางต่อ ผ่านถนนลูกรัง ถนนเลนเดียว และเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ชวนให้คนนั่งหลังเมารถ แต่ก็ถึงจุดหมาย ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ด้วยความปลอดภัย   คาราวานฯ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รชต ปันณะ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สารตกค้าง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ก่อนจะแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย   ที่นี่เราพักค้างคืนแบบกางเทนท์ เพื่อสัมผัสธรรมชาติรับอากาศเย็นเบาๆ แต่ละครอบครัว ต่างช่วยกันกางเทนท์ที่เตรียมมาอย่างสนุกสนาน   คืนนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะมีฝนดาวตก พวกเราทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ต่างตื่นเต้นกันมากที่จะได้เห็น รีบทำธุระส่วนตัว จัดแจงหาที่เหมาะหน้าเทนท์ของตัวเอง เพื่อรอเวลาเงยหน้ามองท้องฟ้า ชมฝนดาวตกที่ไม่มีโอกาสได้เห็นในกรุงเทพฯ แล้วพวกเราก็ไม่ผิดหวัง  

ขับ 4 ขึ้นภูลังกา สู่จุดหมายทะเลหมอก

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พวกเรานัดหมายกันตอนตี 4 เพื่อเดินทางไปชมทะเลหมอกที่ดอยภูลังกา ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ซึ่งเราจะได้ใช้วิชาสปิริทที่เล่าเรียนกันมาก็ที่นี่แหละ   ก่อนออกเดินทางเรารับ อภิสิทธิ์ อุปจักร์ พนักงานราชการพิทักษ์ป่า และกิ่ง คำดี พนักงานจ้างเหมา อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จ. น่าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่จะนำทาง และดูแลพวกเราตลอดเส้นทาง   เส้นทางที่ไปเป็นดินลูกรัง ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. แต่ต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเส้นทาง ไม่นานก็ถึงจุดจอดรถ และเดินเท้ากันต่อเพื่อขึ้นสู่ยอดดอย   จุดหมายแรก ยอดภูนม เส้นทางยังไม่ชันมาก เดินขึ้นไม่ลำบาก แต่ก็หอบใช้ได้ วิวสวยดี แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ยอดภูลังกา จะสวยกว่าตรงนี้อีก พวกเราจึงกัดฟันเดินต่อไป แต่เส้นทางไม่หมู เพราะชันกว่า   เมื่อถึงยอดดอย เป็นเวลาเดียวกับที่แสงจากดวงอาทิตย์ขึ้นมาแตะขอบฟ้าพอดี สวยงามกว่าเห็นจากภาพถ่ายเป็นไหนๆ ทำให้หายเหนื่อยไปเลย (แต่ที่ผิดหวัง คือ ไม่ได้เห็นทะเลหมอก เนื่องจากอากาศยังเย็นไม่พอ)   เมื่อลงมาจากดอย แวะส่งเจ้าหน้าที่ที่อุทยานฯ กลับมาพักอาบน้ำ ทานอาหารเช้า แล้วเดินทางต่อไปที่โรงเรียนบ้านสะเกิน ที่นี่ สุชาติ ใจมูลมั่ง ผอ. โรงเรียน พร้อมเด็กนักเรียนรอต้อนรับ ชาวสปิริทจะร่วมกับน้องๆ และครู ทาสีกำแพงโรงเรียน และปลูกผักสวนครัว รวมถึงสอนเด็กๆ แปรงฟัน ก่อนทำกิจกรรม พวกเราทานอาหารกลางวันสไตล์ลูกทุ่ง ข้าวเหนียวห่อใบตองกับไส้อั่ว และน้ำพริก แค่นี้ก็อร่อยล้ำแล้ว   ก่อนกลับ เด็กๆ โบกไม้โบกมืออำลา พร้อมบอกว่า “กลับมาหากันอีกนะครับ” ทำให้ชาวสปิริทบางคนถึงกับ น้ำตาคลอ  

มื้อค่ำ อุ่นไอรัก

หลังจากเหนื่อยกันมาทั้งวัน ก็ได้เวลามื้อค่ำสุดแสนอร่อย ฝีมือแม่ครัว ศิริพร ไชยงาม เจ้าหน้าที่คัดบรรจุศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ทีเด็ดอยู่ที่บาร์บีคิวหม่าล่า หอมอบอวลทั่วห้องอาหาร เมื่ออิ่มก็เล่นเกมส์ส่งท้ายกัน ก่อนจะแยกย้ายพักผ่อนด้วยความเหนื่อยล้า วันรุ่งขึ้นก็เดินทางกลับ และแอบนัดพบกันใหม่ในเดือนตุลาคมปีนี้   อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน มีเนื้อที่ประมาณ 15,520 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,752 เมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนวางตัวในแนวเหนือใต้คล้ายรูปตัว T พื้นที่มีทั้งป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น ปาดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ จึงเหมาะแก่การเดินป่า ชมน้ำตก และเที่ยวดอยสูงในช่วงฤดูหนาว ยอดดอยซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว คือ ดอยภูลังกา มีความสูงประมาณ 1,720 เมตร จากยอดดอยสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของแอ่งที่ราบกว้าง มีหมู่บ้านเรียงราย โดยมีภูเขาเป็นฉากหลัง หากเดินทางมาเยือนในช่วงฤดูหนาวจะได้เห็นทะเลหมอก