โค้งอันตราย
อาการยังทรง
เริ่มต้นเดือนแรกของปี 2559 ตลาดรถยนต์มีปริมาณการขาย 51,821 คัน ลดลง 13.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 30.0 % และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 2.4 % สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศยังคงฟื้นตัวช้า รวมถึงกำลังซื้อที่จำกัดจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ ประกอบกับการเร่งกำลังซื้อในช่วงปลายปี 2558 ก่อนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่
ยักษ์ใหม่แห่งวงการ ประเมินว่า ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ มีแนวโน้มทรงตัวถึงแม้ว่ารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเร่งเบิกจ่ายเงินจากภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน แต่อย่างไรก็ตามความกังวลต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทำให้ภาคเอกชนยังชะลอการลงทุน ประกอบกับกำลังซื้อที่ยังไม่ขยายตัว ส่งผลให้แนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ยังอยู่ในสภาวะทรงตัว
หันไปมองทางด้านรถจักรยานยนต์บ้าง ปี 2558 ที่ผ่านมา โดยภาพรวมของตลาด เติบโตลดลง 1.1 % เนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกลงทุกภาคส่วน และปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมือง มียอดจดทะเบียนรวม 1.68 ล้านคัน แบ่งเป็นสัดส่วนรถออโทเมทิค 36 % รถจักรยานยนต์เกียร์ธรรมดา 50 % และรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ท 14 %
เจ้าตลาดประเมินว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2559 น่าจะขายกันได้ราว 1.7 ล้านคัน พร้อมทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่กัน 10 รุ่น ภายใน 2 ปี ส่วนอันดับ 2 ก็เปิดตัวกันแบบไม่น้อยหน้าเท่าใดนัก เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในวงการ
ขณะที่รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม MPI เดือนมกราคม หดตัวอีกครั้ง 3.3 %
แต่ที่น่าดีใจเห็นจะเป็นการส่งออกรถยนต์ยังขยายตัว 1.38 % ส่งออกได้ 93,714 คัน แม้ยอดการผลิตจะลดลง 11.69 % โดยเป็นการส่งออกรถ พีพีวี จำนวน 10,521 คัน เพิ่มขึ้น 123.90 % ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในประเทศแถบแอฟริกา โอเชียเนีย และเอเชีย ขณะที่ยอดการจำหน่ายในประเทศ จำนวน 51,821 คัน ลดลง 13.23 % เนื่องจากมีการกระตุ้นยอดขายในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ในประเทศหดตัวลง
แต่สำหรับมุมมองของ ลีซิง พบว่า สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ที่ในช่วงหลายปีก่อนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เคยมีบทบาทค่อนข้างมาก แต่ในปี 2559 น่าจะเติบโตอย่างจำกัดเนื่องจากอยู่ในภาวะพักฐาน สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ที่ยังคงหดตัวลง ทั้งนี้ แม้ว่าสัดส่วนหนี้ต่อ จีดีพี จะมีแนวโน้มขยับขึ้น แต่การเติบโตของหนี้ครัวเรือนไทยได้ชะลอความร้อนแรงลงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต จากหลายปัจจัยกดดันทั้งจากฝั่งอุปสงค์และอุปทาน ไม่ว่าจะเป็นภาระหนี้สะสม ซึ่งอยู่ในระดับสูง
แต่หากเป็นมุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า โดยภาพรวมของการส่งออกสินค้าอิเลคทรอนิคส์ ในปี 2559 อาจกลับมาขยายตัวได้ในกรอบจำกัด น่าจะมีมูลค่าประมาณ 32,700-33,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการขยายตัวของการส่งออก พีซีบี และ ไอซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่ใช้ในอีเลคทรอนิคส์ยานยนต์ โดยการส่งออก พีซีบี ในปี 2559 น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1,482-1,519 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ขยายตัว 9.8-12.5 % ขณะที่การส่งออก ไอซี น่าจะมีมูลค่าประมาณ 7,915-8,085 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ขยายตัว 2.1-4.3 %
ที่เป็นอย่างนี้ เพราะนวัตกรรม และคุณลักษณะใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่ กว่า 90 % เกี่ยวข้องกับอีเลคทรอนิคส์ยานยนต์ ซึ่งกลายเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าต้นทุนของการใช้อีเลคทรอนิคส์ในรถยนต์ต่อคันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรถยนต์ในปัจจุบันมีสัดส่วนต้นทุนอีเลคทรอนิคส์ยานยนต์ต่อคันเฉลี่ย 25-30 % ทิศทางในอนาคต คาดว่าสัดส่วนมูลค่าอีเลคทรอนิคส์ยานยนต์ต่อคันในรถยนต์ทุกๆ ประเภทยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรถยนต์ และนำเสนอนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวก
ก็เป็นเรื่องน่ายินดี ที่ประเทศไทยเรา มีความรู้ด้านการผลิตสินค้าอีเลคทรอนิคส์ ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์อยู่พอสมควร ทำให้สามารถช่วงชิงคำสั่งซื้อมาได้ อันจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์โดยภาพรวม เฉพาะเรื่องการส่งออก เจริญเติบโตได้อย่างไม่น้อยหน้าใครทีเดียว
แต่อย่าเพิ่งถามเรื่องยอดขายรถยนต์ในประเทศนะครับ เพราะเพียงเดือนมกราคม เดือนเดียว หดตัวไปถึง 13.23 % ทำให้พอมองกันออกว่า ยอดขายรวมทั้งปี น่าจะใกล้เคียงกับปี 2558 ที่ผ่านมาข้อแม้เพียงว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ไม่หดตัว หรือวุ่นวายไปมากกว่านี้หรือใครจะเถียง
ABOUT THE AUTHOR
ม
มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2559
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย