ธุรกิจ
เคนเนท คาวานัฟ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการการผลิต วิศวกรรม และควบคุมคุณภาพ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เชฟโรเลต์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/TS 16949:2002 จาก บริษัท ทูฟ นอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด
เชฟโรเลต์
ได้รับ ISO/TS 16949:2002
เคนเนท คาวานัฟ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการการผลิต วิศวกรรม และควบคุมคุณภาพ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เชฟโรเลต์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/TS 16949:2002 จาก บริษัท ทูฟ นอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับมาตรฐาน ISO/TS 16949:2002 เป็นข้อกำหนดเฉพาะสำหรับการประยุกต์ใช้ ISO 9001:2000 สำหรับองค์กรผู้ผลิตด้านยานยนต์ ชิ้นส่วน และผู้ให้บริการ ซึ่งมาตรฐาน ISO/TS 16949:2002 จะมาแทนที่มาตรฐานเฉพาะด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีอยู่ทั้งหมดในอนาคต โดยมาตรฐานดังกล่าวจะเป็นมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพเพียงมาตรฐานเดียวที่จะอยู่เพื่อกำหนดมาตรฐานคุณภาพสูงสุดของอุตสาหกรรมยานยนต์
นอกจากนี้ มาตรฐาน ISO/TS 16949:2002 สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั่วทั้งซัพพลายเชน ในกระบวนการผลิตยานยนต์ รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนและโรงงานประกอบรถยนต์ด้วย ซึ่งแตกต่างจาก QS-9000 ในอดีต ที่เน้นสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เท่านั้น ทั้งนี้เป้าหมายของมาตรฐาน ISO/TS 16949:2002 คือ การพัฒนาระบบบริหารคุณภาพที่สนับสนุนให้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการป้องกันข้อบกพร่อง การลดความแปรปรวน และความสูญเปล่าในซัพพลายเชนอุตสาหกรรมยานยนต์
บาเซโลนา ฯ
ดีเลอร์ยอดเยี่ยม บีเอมดับเบิลยู
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ที่ปรึกษา บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจ CSI ในปี 2548 บาเซโลนา มอเตอร์ ฯ คือ โชว์รูมและตัวแทนจำหน่าย บีเอมดับเบิลยู ที่ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าเป็นอันดับ 1 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยสามารถคว้าอันดับหนึ่ง 2 ปีติดต่อกัน
สำหรับการวัดค่าความพึงพอใจของลูกค้า ตามมาตรฐาน CSI หรือ CUSTOMER SATISFACTION INDEX โดยการสอบถามเพื่อรับทราบข้อมูลความคิดเห็น คำติชม และข้อเสนอแนะโดยตรงจากลูกค้าที่เข้ารับบริการ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการ บีเอมดับเบิลยู ทั่วประเทศ จำนวน 19 สาขา ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้มีวิธีการให้คะแนนและประเมินผลจากคะแนนรวมทั้งหมด 100 คะแนน
"ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกฝ่ายที่ให้ความสำคัญกับการให้บริการด้วยใจอย่างมืออาชีพ จึงสามารถสร้างความโดดเด่นด้านการให้บริการ ตลอดจนโชว์รูมที่ทันสมัย และศูนย์บริการคุณภาพ ทั้งหมดนี้คือส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจสูงสุดแก่ลูกค้ามาโดยตลอด และแน่นอนว่าบริษัทจะรักษามาตรฐานนี้ไว้ พร้อมกับพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งความเป็นหนึ่งในการครองใจลูกค้า บีเอมดับเบิลยู ในปีต่อไป"
บีเอมดับเบิลยู
แนะนำ 525 ไอ
ดร. ฟรังค์ เริสเลร์ ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การแนะนำ บีเอมดับเบิลยู 525 ไอ โมเดลใหม่ครั้งนี้ เป็นการรุกตลาดรถผู้บริหาร ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่อีกมากมาย ซึ่งจะมาทั้ง รุ่น สแตนดาร์ด และรุ่นพิเศษ เอสอี
ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียงขนาด 2.4 ลิตร รุ่นพิเศษ หรือ 525 ไอ เอสอี จะผนวกกล้องที่ใช้มองภาพมุมหน้า และหลังของรถที่จะช่วยทำให้ผู้ขับสามารถเห็นด้านหน้าและหลังรถได้จากจอประมวลภาพที่คอนโซล ล้ออัลลอยแบบใหม่ขนาด 18 นิ้ว ยางรันฟแลท บันไดประตูแบบอลูมิเนียม เพิ่มความสปอร์ทและหรูหรา
ส่วนรุ่น สแตนดาร์ด เพิ่มออพชันใหม่อีกจำนวนมาก เช่น ระบบไฟหน้าที่ปรับมุมตามองศาพวงมาลัย แอคทีฟสเตียริง ชุดกระจกมองข้างแบบพับได้ พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบสปอร์ท และด้วยอุปกรณ์ และออพชันที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงจำหน่ายในราคาเดิม คือ 3.9 และ 4.3 ล้านบาท ในรุ่นพิเศษ เอสอี
บางจาก ฯ
หนุน ออฟโรด ทโรฟี
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการการจัดการแข่งขัน ออฟโรด ทโรฟี ประจำปี 2006 ชิงแชมพ์ประเทศไทย ถ้วยประทาน พระองค์เจ้าโสมสวลี ฯ เปิดเผยว่า การจัดงานปีนี้ได้ผู้สนับสนุนหลัก เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องบางจาก 3 ดี ดีเซล สนับสนุน พร้อมกับพันธมิตรที่เพิ่มมากขึ้น โดยการแข่งขันจะทวีความเข้มข้นมากขึ้น โดยใช้ชื่อการแข่งขันว่า "บางจาก 3 ดี โกลด์ ออฟโรด ทโรฟี 2006"
สำหรับการแข่งขันปีนี้ ได้ปรับเปลี่ยนหมุนเวียนพื้นที่การแข่งขันไปทุกภาคของประเทศไทย เพื่อให้เกิดความหลากหลายของพื้นที่ และยังให้นักแข่งได้ใกล้ชิดกับผู้ชมในส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมกีฬาแข่งรถยนต์และสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีการแข่งขันอีกด้วย โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 5 สนาม เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สิ้นสุดที่เดือนธันวาคม ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางไอทีวี
ด้าน มนูญ ศิริวรรณ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากได้ร่วมสนับสนุนทีมแข่งในกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ทมาตลอด 2 ปี ทั้งการแข่งขันระดับประเทศและนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น ครอสส์คันทรี ทางเรียบ และซูเพอร์คาร์ แต่สำหรับปีนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ร่วมเป็นผู้จัดการแข่งขันกิจกรรมรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับบางจากที่มีผลิตภัณฑ์ น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก
ฟอร์ด
ตั้งประธานใหม่
ปีเตอร์ แดเนียล ประธาน ฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิค และแอฟริกา เปิดเผยว่า ฟอร์ด ได้ประกาศแต่งตั้ง ทอม บรีเวอร์ ให้ดำรงตำแหน่งประธาน ฟอร์ด ประเทศไทย ต่อจาก จอห์น ฟีลิศ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด ดูแลสินค้าภายใต้บแรนด์ ฟอร์ด ในสหรัฐอเมริกา โดยจะมีหน้าที่ดูแลการตลาดสหรัฐอเมริกาทั้งหมด และจะเข้าไปร่วมงานกับทีม "WAY FORWARD" ที่เพิ่งตั้งขึ้นเพื่อให้การทำงานบรรลุเป้าหมายตามแผนการที่วางไว้ ซึ่งจากความสามารถ ความเชี่ยวชาญด้านการตลาด จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ฟอร์ด และจะมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
บรีเวอร์ มีประสบการณ์ด้านการตลาด การขาย และการบริการ และล่าสุดดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด ดูแลตลาดรถ ลินคอล์น เมอร์คิวรี ในสหรัฐอเมริกา ด้วยประสบการณ์ที่หลากหลายครอบคลุมในทุกด้าน เช่น การวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาด การวางรากฐานการตลาดค้าปลีก การส่งเสริมการขาย การบริการลูกค้า การจัดการด้านเครือข่ายผู้จำหน่าย และการพัฒนาผู้จำหน่าย และก่อนหน้าที่จะมาดูแลตลาดรถ เมอร์คิวรี เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด บราซิล โดยมีส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับรถรุ่น อีโค สปอร์ท และ ฟิเอสตา
"ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความสามารถที่โดดเด่นของ บรีเวอร์ จะมีส่วนสำคัญในการเร่งสร้างความเติบโตของบริษัท ฯ ให้บรรลุตามจุดประสงค์ที่ ฟอร์ด ประเทศไทย วางไว้ ผมมั่นใจว่า บทบาทความเป็นผู้นำของเขา จะนำธุรกิจในประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน"
มิตซูบิชิ
ประกาศทิศทางปี 2549
ฮิซาโยชิ คุมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2549 บริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในประเทศไว้ที่ประมาณ 11 % หรือประมาณ 50,000 คัน โดยเฉพาะในตลาดรถพิคอัพที่บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีก และจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็น 10 % ในปี 2550
ด้านรถยนต์รุ่นใหม่ บริษัทจะแนะนำรถรุ่นพิเศษที่มีการปรับปรุงใหม่ทั้งการดีไซจ์นและสมรรถนะการขับขี่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งปี โดยจะครอบคลุมทั้งรถส่วนบุคคล รถอเนกประสงค์ และรถพิคอัพ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความแตกต่างจากรถทั่วไป
สำหรับปี 2548 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดขาย 45,182 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 28.2 % จากยอดขายในปี 2547 ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการเปิดตัวรถรุ่นต่างๆ ออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น ทไรทัน และรุ่นพิเศษ สเปศ แวกอน และ แลนเซอร์ เพื่อเจาะตลาดผู้ชื่นชอบรถที่ได้รับการตกแต่งพิเศษจากรุ่นปกติ
โดยภาพรวมแล้ว บริษัทประสบความสำเร็จด้านยอดขายในประเทศเป็นอย่างดี และทำให้สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ของตลาดรถยนต์โดยรวม และอันดับที่ 3 ในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
เมร์เซเดส-เบนซ์
ตั้งเป้าปี 2549
รอเจอร์ อิมเมล รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2549 บริษัทวางแผนการเติบโตของยอดขาย เมร์เซเดส-เบนซ์ ไว้ที่ประมาณ 10 % หรือประมาณ 5,500 คัน โดยในปี 2548 มียอดขายทั้งสิ้น 5,000 คัน หรือคิดเป็น 48 % ของมูลค่าตลาดรวม เฉพาะรถ ลักชัวรี 10,000 คัน ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดจะไม่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น
สำหรับยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งจะมาจากรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ โดยบริษัทจะเน้นเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ไม่มีคู่แข่งในตลาด ซึ่งจะมีทั้ง รุ่น อาร์-คลาสส์/เอม-คลาสส์ และ เอส-คลาสส์ นอกจากนี้ยังมีรถที่ประกอบในประเทศทั้งในรุ่น เอ-คลาสส์ และ อี 200 เอนจีที เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเน้นการจัดกิจกรรมเข้าถึงกลุ่มลูกค้า เช่น การจัดโพรแกรม "EXCLUSIVE S-CLASS ACTIVE SAFETY DRIVING EXPERIENCE" การฝึกสอนเทคนิคการขับรถให้แก่ลูกค้า เมร์เซเดส-เบนซ์ และการจัดงาน "MERCEDES-BENZ STAR DRIVE" การแสดงรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ คลาสสิค จำนวน 42 คัน จัดเป็นขบวนคาราวานในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และเพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค
ออโตเมติค บิสซิเนส ฯ
แนะนำ โออีเอม เซนทรัลลอค
วิบูลย์ ว่องศิลป์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโตเมติค บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาอุปกรณ์ประกอบการติดตั้งสัญญาณกันขโมย โออีเอม เซนทรัลลอค เฉพาะรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตจากความนิยมของผู้บริโภค โดยเริ่มด้วย โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก/วีออส/อีซูซุ ดี-แมกซ์ และ มิตซูบิชิ ทไรทัน
โออีเอม เซนทรัลลอค มีคุณสมบัติให้ความปลอดภัยและสะดวกสบายด้วย 6 หลักการคือ 1. จุดยึดของหัวลอคเหนี่ยวแข็งแรงทนต่อการกระชาก 2. จุดยึดนอทดีไซจ์นหลบหัวนอทเพื่อให้ขายึดเป็นแนวระนาบ 180 องศา 3. ลวดสลิงเกรดเอ ทนทานไม่เป็นสนิม ถ่ายทอดแรงส่ง/ดึงจากตัวเซนทรัลลอคได้อย่างเต็มศักยภาพ 4. ปลอกหุ้มสายไฟ มาตรฐานการเชื่อมต่อสายไฟจากโรงงานไม่ให้เกิดการชอทหรือลัดวงจร 5. ติดตั้งโดยไม่ต้องเจาะ จุดยึดนอทเดิมของรถจากโรงงานสำหรับแต่ละรุ่นโดยเฉพาะ 6. โครงสร้างออกแบบมาให้แนบสนิทกับตัวถัง ลดการสั่นสะเทือนในการใช้งาน
นอกเหนือจากความสะดวกสบาย ความสวยงามแล้ว บริษัท ฯ ยังนึกถึงความปลอดภัยในระบบการต่อเชื่อมสายไฟ โดยนำสายไฟนิรภัย OEM COMPLETED SET เชื่อมต่อกับระบบไฟของรถได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย เพราะเป็นระบบต่อเชื่อมมาตรฐานเดียวกัน พร้อมปุ่มสวิทช์คอนทโรล
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน เมษายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8414