ถ้ามีการประกวดความสามารถของคณะรัฐมนตรีประเทศต่างๆ กันละก็ ผมว่ารัฐบาลไทยอย่างน้อยต้องติด 1 ใน 5

ถ้ามีการประกวดความสามารถของคณะรัฐมนตรีประเทศต่างๆ กันละก็ ผมว่ารัฐบาลไทยอย่างน้อยต้องติด 1 ใน 5 เผลอๆ อาจจะคว้ารางวัลชนะเลิศ เสียด้วยซ้ำ ! เนื่องจากการปรับ ครม. ครั้งล่าสุด ทำให้เห็นศักยภาพของรัฐมนตรีแต่ละคนว่าสามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย ไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับแวดวงยานยนต์ บางคนเคยดูแลเรื่องเครื่องตรวจระเบิด ก็เปลี่ยนมาดูแลเรื่องรถเล็กประหยัดน้ำมัน บางคนเพิ่งดูแลเป็ด ไก่ วัว ควาย ไม่ทันไร กลายเป็นผู้กำหนดแนวทางแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพ ฯ เสียแล้ว สลัดผ้าขาวม้า หาเนคไทมาผูกแทบไม่ทัน เข้ามาไม่ทันไรท่านก็บอกว่าจะแก้ปัญหาถนน 3 เส้นหลัก คือ เพชรบุรีตัดใหม่ สุขุมวิท และพระราม 4 ก่อน เพราะเชื่อว่าถ้าทำให้ 3 เส้นนี้ไหลลื่นได้ เส้นอื่นก็จะไม่ติดขัด โดยท่านจะแบ่งถนนทั้ง 3 สายออกเป็น 7 บลอค แล้วมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี 7 คน รับผิดชอบคนละบลอค จากนั้นให้ผู้ตรวจแต่ละคนส่งอาสาสมัครไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรมการใช้รถในบลอคของตัวเอง เป็นเวลา 2 เดือน จึงเอาผลมาประมวลประเมิน เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งท่านออกตัวว่าอาจจะเป็นแบบ "มวยวัด" ก็ได้ ฟังแล้วก็คิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากคิดว่าท่านยังไม่หายเมาหมัดจากกระทรวงเก่า ปัญหาจราจร กับ ปัญหาหวัดนก ต่างกันตรงไหนเอ่ย ? ไม่ใช่ปัญหาเชาน์นะครับ แต่ต้องใช้เชาน์ปัญญาในการหาคำตอบที่ถูกต้องอยู่เหมือนกัน ยอมแล้วใช่ไหมครับ คำตอบง่ายๆ คือ ปัญหาจราจร แก้ด้วยการ "ฆ่าตัดตอน" ไม่ได้เด็ดขาด ไม่มีถนนเส้นไหนในโลกจะมีการจราจรคล่องตัวไปได้ ถ้าการจราจรในถนน...ข่ายที่เชื่อมต่อกับมันยังคงติดขัด ผมว่าท่านรัฐมนตรีลองปรึกษาหารือกับ กทม. ตำรวจ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะประกาศวิสัยทัศน์ออกมาดีกว่า และวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรี ควรจะเป็นภาพกว้าง และเป็นระบบใหญ่ ไม่ใช่ตัดตอนเป็นหมู่บ้าน...เอ๊ย ถนนแค่ 3 สาย คราวก่อนเจอจราจรอ้วน เราให้ไปลดน้ำหนัก และรอบเอว คราวนี้เจอจราจรยี้ เราจะทำยังไงกันดีครับ ?