บริษัท บริดจสโตน เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมเชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบยางรถยนต์ตัวใหม่ ไฟร์สโตน ไฟร์ฮอว์ค ไวด์ โอวอล ยางสไตล์สปอร์ท เหมาะสำหรับรถเก๋งที่ต้องการความเร็วสูง โดยทดสอบตามสภาพการใช้งานจริงเส้นทาง กรุงเทพ ฯ-เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 10-11 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา

บริษัท บริดจสโตน เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมเชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบยางรถยนต์ตัวใหม่ ไฟร์สโตน ไฟร์ฮอว์ค ไวด์ โอวอล ยางสไตล์สปอร์ท เหมาะสำหรับรถเก๋งที่ต้องการความเร็วสูง โดยทดสอบตามสภาพการใช้งานจริงเส้นทาง กรุงเทพ ฯ-เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 10-11 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา รถที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้นำมาจากค่ายดังๆ อย่าง โตโยตา วีออส/ฮอนดา แจซซ์/มิตซูบิชิ แลนเซอร์ และ มาซดา 3 ซึ่งยางไฟร์สโตนที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้มีขนาด 205/45/16 และ 185/55/15 โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรก เริ่มสตาร์ทจาก คอคพิท เมกา บริดจ์สโตน รัตนาธิเบศร์ เดินทางมุ่งหน้าสู่สนามทดสอบ บริดจ์สโตน อ. หนองแค จังหวัดสระบุรี โดยใช้เส้นทางด่วนสายบางปะอิน/เชียงราก ระยะทางโดยเฉลี่ย 30 กม. เฉพาะเส้นทางนี้ผู้ทดสอบจะได้ทดลองขับในสภาพถนนคอนกรีทบนทางด่วน ซึ่งพื้นผิวถนนค่อนข้างเรียบ และเป็นทางตรง สามารถทำความเร็วโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 140-180 กม./ชม. สภาพการยึดเกาะถนนของยาง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะต้องปรับเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว ก็ไม่ทำให้ตัวรถเสียอาการแต่อย่างใด เสียงหน้ายางสัมผัสกับพื้นผิวถนนค่อนข้างเงียบ ไม่มีเสียงแทรกเข้ามารบกวนเข้ามาภายในห้องโดยสารมากนัก ระยะเบรค ทำได้ดีแม้ต้องทำการเบรคอย่างกระชั้นชิด ช่วงที่สอง ทดสอบกันที่สนามทดสอบยาง บริดจ์สโตน อ. หนองแค จ. สระบุรี และรถที่ใช้ คือ โตโยตา วีออส เทอร์โบ โดยทางบริษัทได้แบ่งสถานีทดสอบออกเป็น 3 สถานีได้แก่ สถานีที่ 1 ทดสอบการเข้าโค้งและทักษะการควบคุมรถในย่านความเร็วสูง เพื่อค้นหาสมรรถนะที่แท้จริงของยางรุ่นนี้ การเข้าโค้งรูปตัวเอสด้วยความเร็ว 60-80 กม./ชม. ผสมผสานกับจังหวะเทคตัวออกจากโค้ง ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจมาก ตัวรถไม่มีอาการลื่นไถล หรือเสียการทรงตัวแต่อย่างใด แต่ยังพอมีบ้างที่เกิดอาการ โอเวอร์สเตียร์ แต่ก็เป็นธรรมดาของรถขับเคลื่อนล้อหน้า จะไปโทษยางอย่างเดียวคงไม่ได้ จังหวะการสปินท์ตัวออกจากจุดสตาร์ทด้วยรอบเครื่องยนต์ประมาณ 3,000 รตน. การฟรีของยางยังพอมีให้เห็น แต่ก็สามารถถีบตัวได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อทดลองเบรคอย่างกะทันหัน หรือหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างรวดเร็ว สามารถควบคุมรถได้อย่างไม่ยากลำบากนัก สถานีที่ 2 ทดสอบแบบสลาลอม และ จิมคานา ระยะห่างระหว่างไพลอนอยู่ที่ประมาณ 17 ม. ซึ่งไม่กว้างและไม่แคบจนเกินไป สถานีนี้ผู้ร่วมทดสอบจะต้องใช้ความสามารถและทักษะในการควบคุมรถกันอย่างเต็มที่ ความเร็วที่ใช้ขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 60-80 กม./ชม. ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ คือ สามารถซิกแซกผ่านไพลอนได้อย่างสบาย อาการตอบสนองต่อพวงลัย สามารถควบคุมได้ง่าย การเกาะถนนยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม เริ่มมีอาการดื้อโค้งให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่มากมายอะไร สถานีที่ 3 เป็นการผสมผสานระหว่างการเข้าโค้ง และสลาลอม โดยสถานีนี้ผู้ทดสอบจะต้องทำเวลาต่อรอบให้เร็วที่สุด และให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด และรถที่ใช้ในการทดสอบสถานีนี้ก็ยังคงเป็น โตโยตา วีออส เหมือนเดิม ยางที่ใช้ทดสอบก็ชุดเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่ประการใดทั้งสิ้น ผลการทดสอบก็ยังเป็นที่น่าพอใจ คือ สามารถตอบสนอง การเข้าโค้ง และการสลาลอมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะทำการทดสอบอยู่หลายรอบก็ตาม และเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด อยู่ที่ 1 นาที 17 วินาที ช่วงที่สาม เป็นช่วงสุดท้ายในการทดสอบครั้งนี้ เป็นการทดสอบยางในเส้นทางแรลลี พื้นถนนมีทั้งแห้ง เปียก เรียบ ขรุขระ และลูกรัง สลับกันไป โดยมุ่งหน้าสู่ ที่พัก คีรีมายา รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เส้นทางนี้ผู้ทดสอบสามารถใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ การตอบสนองของยางก็ยังเป็นที่น่าพอใจเช่นเคย แม้จะผ่านการทดสอบมาอย่างหนัก ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ในเส้นทางนี้อยู่ที่ 160-180 กม./ชม. เสียงหน้ายางสัมผัสพื้นถนนเล็ดลอดเข้ามาบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ยังรับได้ ความนุ่มนวลก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี การตอบสนองต่อพวงมาลัยก็ยังอยู่ในทิศทางที่ดี สรุป จากการทดสอบในระยะทางกว่า 300 กม. ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจมาก เป็นยางที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่งทั้งในเรื่องการเกาะถนน ความนุ่มนวลขณะขับขี่ การตอบสนองของพวงมาลัย การทรงตัวในย่านความเร็วสูง ทำได้ไม่แพ้ยางนำเข้าจากต่างประเทศ