สุชาต วิริยะพานิช เจ้าของ เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี กาบริโอเลต์ หรูหรา กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของรถคันนี้ว่า แรกเริ่มเดิมทีได้ไปเดินเล่นแถวๆ คลองถม บังเอิญไปเจอร้านขายของมือสองแห่งหนึ่ง ภายในร้านมี รถโมเดล เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 เอส วางขายอยู่ เห็นว่าสวยดี และสภาพก็ยังใหม่มาก จึงซื้อมาในราคา 300 บาท และนี่เป็นเหตุจุดประกายความอยากได้ของจริงขึ้นมา

สุชาต วิริยะพานิช เจ้าของ เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี กาบริโอเลต์ หรูหรา กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของรถคันนี้ว่า แรกเริ่มเดิมทีได้ไปเดินเล่นแถวๆ คลองถม บังเอิญไปเจอร้านขายของมือสองแห่งหนึ่ง ภายในร้านมี รถโมเดล เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 เอส วางขายอยู่ เห็นว่าสวยดี และสภาพก็ยังใหม่มาก จึงซื้อมาในราคา 300 บาท และนี่เป็นเหตุจุดประกายความอยากได้ของจริงขึ้นมา เวลาต่อมาไม่นาน ได้รู้จักกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้ารถ เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี กาบริโอเลต์ เห็นแล้วชอบมาก จึงขยันหมั่นไปกินร้านเขาบ่อยๆ เพื่อหาโอกาสพูดคุย และถือโอกาสสำรวจรายละเอียดของตัวรถ เมื่อสบโอกาสเลยเอ่ยปากขอซื้อ ก็ได้รับคำตอบออกมาว่า "ไม่ขาย" ซะงั้น แต่ด้วยความอยากได้ จึงตามจีบขอซื้ออยู่เรื่อยๆ จนในที่สุดความตั้งใจจริงก็ประสบผลสำเร็จ เจ้าของเก่ายอมขายให้ สุชาติ ยังเล่าถึงขั้นตอนการบูรณะรถคันนี้ว่า ของเดิมสภาพตัวรถสมบูรณ์มาก เพราะเจ้าของเก่าไม่ได้ใช้งาน จอดเก็บไว้มากกว่า สี และตัวถังก็ยังไม่ผุ หรือเกิดสนิมแต่อย่างใด จึงซ่อมแซมเพียงเล็กน้อย เครื่องยนต์กลไกก็สึกหรอไปตามกาลเวลา ก็เลยจัดการซ่อมบำรุงในคราวเดียวกัน จนมีสภาพอย่างที่เห็น รูปลักษณ์ภายนอก โทนสีเขียวคลาสสิค เมื่อตัดกับหลังคาผ้าใบสีน้ำตาลอย่างลงตัว งานโครเมียมทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า/หลัง กระจังหน้า คื้วรอบคัน อยู่ในสภาพที่ใหม่มาก ต้องยอมรับว่าเจ้าของเก่าดูแลเอาใจใส่ได้เป็นอย่างดี ซุ้มล้อด้านหน้าขนาดใหญ่ยาวโค้งมนไปถึงกลางลำตัวรถ เพื่อรับกันกับซุ้มล้อหลัง บนสันของซุ้มล้อหน้ามีไฟเลี้ยวขนาดเล็กซึ่งหาดูได้ยาก ถัดลงมาบริเวณแนวกันชนหน้า มีสปอทไลท์ ขนาดกะทัดรัดรูปทรงคลาสสิค ซึ่งเจ้าของรถสรรหามาใส่เพิ่มเติมเข้าไป บั้นท้ายรถขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วย ไฟกระจกหลังรูปทรงรี ที่มีลักษณะคล้ายกับ โฟล์คสวาเกน บีเทิล (เต่า) จอไข่ แต่เล็กกว่ามาก ไฟท้ายทั้งซ้าย/ขวา รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กเช่นกัน ซึ่งผิดกับรถในสมัยนี้ที่จะเน้นไฟท้ายขนาดใหญ่ และเมื่อลองเดินสำรวจรอบๆ ตัวรถ ก็เกิดความประหลาดใจกับสปอทไลท์ที่เป็นกระจกมองข้างในตัวเดียวกัน ส่วนล้อกระทะเหล็กสีเดียวกันกับตัวรถ แต่ตรงกลางดุมล้อประทับตราเบนซ์ (ดาวสามแฉก) ไว้อย่างเด่นชัด รัดด้วยยางขอบขาวดูคลาสสิค แต่หน้ายางแคบมากๆ รูปทรงภายใน อนุรักษ์ของเดิมไว้ได้หมดทุกชิ้น แผงคอนโซลลายไม้ ตัดกับงานโครเมียมเงาวับจับตา มาดขรึมดูดี เกจวัดการทำงานของเครื่องยนต์ วิทยุติดรถ และนาฬิกาก็ยังสามารถใช้งานได้ดีเป็นปกติ แถมยังได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเข้าไปใหม่ ตรงนี้เพื่อยืนยันว่าสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ไม่แพ้รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน พวงมาลัยงาช้างสีขาว ดูหรูหราคลาสสิคไม่น้อย เบาะนั่งขนาดใหญ่ และแผงประตูเป็นหนังแท้ทั้งหมด คล้ายๆ กับทำมาจากหนังชามัวร์ ที่เปิด/ปิดประตู และมือหมุนกระจก สีโครเมียม ยังคงใช้งานได้ดีขณะใช้งานหมุนขึ้น/ลงง่ายอีกด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจภายในรถคันนี้ อยู่ตรงที่กระจกมองหลัง สามารถหมุนปรับระดับได้จากล่างขึ้นบน เพื่อให้สามารถมองหลังได้โดยไม่ติดกับที่เก็บหลังคาผ้าใบ พละกำลังเครื่องยนต์ขนาด 2,996 ซีซี 6 สูบ แถวเรียง 115 แรงม้า จ่ายน้ำมันด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์คู่ ซึ่งในสมัยนั้น แรงม้าขนาดนี้ถือว่าแรงมากทีเดียว ความเร็วสูงสุดตามที่ระบุไว้อยู่ที่ 160 กม./ชม. ซึ่งรถบางคันสมัยนี้ยังทำไม่ได้เลย ความสะดวกสบายที่ได้รับด้วยเกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ ยังทำงานได้อย่างแม่นยำ ซึ่งตามข้อมูลของรถรุ่นนี้ มีอยู่ 4 รุ่น คือ รุ่น 300/300 บี/300 ซี และ 300 ดี โดยที่เกียร์อัตโนมัติจะเริ่มต้นที่รุ่น 300 ซี เมื่อเจ้าของรถลองสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เราได้ฟัง เสียงเครื่องยังแน่นมาก รอบเครื่องเดินเรียบ ไม่มีอาการสวิงแต่อย่างใด ไอน้ำออกมายังท่อไอเสียยังแสดงถึงความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ นี่ขนาดมีอายุกว่า 53 ปีแล้ว ยังสตาร์ทติดง่ายขนาดนี้ คงเป็นเพราะความเอาใจใส่ดูแลกันเป็นอย่างดี เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี กาบริโอเลต์ คันนี้นับว่าเป็นรถโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างงดงามอีกคันหนึ่ง แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร คุณค่าของรถกลับจะมีแต่ค่าสูงขึ้นไปเท่านั้น และไม่ใช่ว่าสักแต่มีเงินเท่านั้นถึงจะซื้อหามาได้ แต่ถ้าเจ้าของไม่ขายเสียอย่าง ชาตินี้ก็อย่าหวังว่าจะได้ครอบครอง ข้อมูลจำเพาะ เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี กาบริโอเลต์ รูปแบบ เก๋งเปิดประทุน ปีที่ผลิต (คศ.) 1951 เครื่องยนต์ แบบ 6 สูบ แถวเรียง ความจุ (ซีซี) 2,996 กำลังสูงสุด (แรงม้า) 115 เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 3 น้ำหนักรถ (กก.) 2,000 พวงมาลัย ขวา รถโบราณในงานโรตารี สโมสรโรตารี จัดนิทรรศการ 100 ปีโรตารีสากลขึ้น ภายใต้ชื่องานว่า "ราตรีรวมดวงใจ เฉลิมพระเกียรติ" ที่พระราชวังพญาไท เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ แห่งองค์สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ร่วมอนุรักษ์ พระราชวังพญาไท อันเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า และเป็นสถานที่ประชุมของสโมสรโรตารีแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อจัดหาสมทบทุนการศึกษา มอบให้แก่เด็กกำพร้าผู้ยากไร้ที่ประสบภัยพิบัติจากคลื่นยักษ์ "สึนามิ" และทุนในการจัดตั้ง ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มอบแด่โรงเรียนที่ขาดแคลนในชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงเรียนที่ประสบภัยพิบัติใน 6 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในงานนี้สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยได้นำรถโบราณ รุ่นต่างๆ มาร่วมจัดแสดง จำนวน 13 คันได้แก่ยี่ห้อ เอมจี ทีซี/เมร์เซเดส-เบนซ์ 220 อี/เอมจี วีเอ/ออสติน เซเวน/เอมจี ทีเอฟ/เมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี ก าบริโอเลต์/เมร์เซเดส-เบนซ์ 220 อี/เฟียต/เอมจี แมกนา แอล 1/มอร์ริส ปี 1935/ออสติน ปี 1927/ เอมจี วายที และ เมร์เซเดส-เบนซ์ ปี 1906 ซึ่งในงานนี้รถเมร์เซเดส-เบนซ์ 300 ดี กาบริโอเลต์ ได้รับเลือกให้เป็นรถพระที่นั่งของผู้แทนพระองค์ คุณหญิง เพ็ญศรี ไชยยงค์