ตลาดรถยนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตลาดยางเติบโตตามไปด้วย ซึ่งในประเทศไทยนับว่ามีการแข่งขันรุนแรงไม่แพ้รถยนต์เลย โดยมีทั้งยางที่ผลิตภายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงยางรายใหม่ที่เพิ่งมาบุกตลาด พร้อมการลงทุนตั้งโรงงานผลิตในเมืองไทยอย่าง "แมกซ์ซิส" MAXXIS

ตลาดรถยนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตลาดยางเติบโตตามไปด้วย ซึ่งในประเทศไทยนับว่ามีการแข่งขันรุนแรงไม่แพ้รถยนต์เลย โดยมีทั้งยางที่ผลิตภายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงยางรายใหม่ที่เพิ่งมาบุกตลาด พร้อมการลงทุนตั้งโรงงานผลิตในเมืองไทยอย่าง "แมกซ์ซิส" MAXXIS "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ หลิน ยวี หยู รองประธาน บริษัท แม็กซิส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด แมกซ์ซิส จึงเข้ามาลงทุนในเมืองไทย ? หลิน ยวี่ หยู๋ : ที่ผ่านมาโรงงานผลิตรถยนต์เข้ามาลงทุนในเมืองไทยหมดแล้ว การจะบุกตลาดยางในเมืองไทยจึงไม่น่าเป็นห่วง นอกจากนี้วัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตยางนั้น เมืองไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ดี ฟอร์มูลา : บริษัทเข้ามาลงทุนตั้งแต่เมื่อใด ? หลิน ยวี่ หยู๋ : บริษัทเริ่มเข้ามาก่อสร้างโรงงานตั้งแต่ปี 2546 และได้เริ่มทำการผลิตเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2547 โดยช่วงระหว่างการก่อสร้างโรงงาน บริษัทได้นำเข้ายางจากประเทศไต้หวันมาจำหน่าย การลงทุนทั้งหมดประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่สำหรับเฟสแรกลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท โดยมีกำลังการผลิตขั้นต้นวันละ 5,000 เส้น การผลิตทั้งหมดมีประมาณ 70 รุ่น คือ จะผลิตทั้งยางรถเก๋ง ยางเรเดียล ยางแอลทีอาร์ ถ้าโครงการทั้งหมดเสร็จ จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตวันละ 24,000 เส้น ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปลายปีหน้า ฟอร์มูลา : แมกซ์ซิส มีโรงงานที่ใดบ้าง ? หลิน ยวี่ หยู๋ : แมกซ์ซิส มีโรงงานอยู่ที่ไต้หวัน 5 แห่ง ที่จีน และแห่งล่าสุดที่เมืองไทย ที่ผ่านมา แมกซ์ซิส ส่งสินค้าไปจำหน่ายทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง โดยสินค้าที่ผลิตในเมืองไทยจะส่งออกไปไต้หวันด้วย เนื่องจากบริษัทเพิ่งจะเริ่มบุกเบิกตลาดในประเทศไทย จึงทำให้ปัจจุบันยอดส่งออกจะมีประมาณ 90 % ซึ่งต่อไปในอนาคตบริษัทจะเจาะตลาดในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น คาดว่ายอดจำหน่ายในประเทศกับส่งออกจะมีปริมาณ 50:50 และบริษัทยังมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ มากยิ่งขึ้น ฟอร์มูลา : บริษัทวางนโยบายและแผนการตลาดของ แมกซ์ซิส ในประเทศไทยไว้อย่างไร ? หลิน ยวี่ หยู๋ : นโยบายส่งเสริมการตลาดในเมืองไทย จะเน้นการทำโฆษณารูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณาในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายโฆษณา หรือแม้แต่การสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมของคนไทย โดยเข้าไปร่วมสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ ฟอร์มูลา : ยาง แมกซ์ซิส เข้าไปเจาะตลาดโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศบ้างหรือยัง ? หลิน ยวี่ หยู๋ : สำหรับตลาดในประเทศไทย บริษัทอยู่ระหว่างการติดต่อกับโรงงานผู้ผลิต ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ประมาณปลายปีนี้ แต่ที่ผ่านมาในประเทศไต้หวัน แมกซ์ซิส ได้ส่งสินค้าให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด/จีเอม/นิสสัน และโตโยตา ฟอร์มูลา : ปัจจุบันการกระจายสินค้า แมกซซิส ใช้ระบบใดบ้าง ? หลิน ยวี่ หยู๋ : บริษัทกระจายสินค้าผ่านดีเลอร์ ซึ่งแต่งตั้งไปแล้ว 14 แห่งทั่วประเทศ ส่วนตลาดภายในประเทศ บริษัทจะไม่ทำเหมือนยางยี่ห้ออื่น ที่มีการขยายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศจำนวนมาก แต่จะให้ดีเลอร์รับผิดชอบแต่ละเขตในภูมิภาคที่รับผิดชอบ และดีเลอร์ก็จะแต่งตั้งซับดีเลอร์เอง เนื่องจากคนในพื้นที่แต่ละภูมิภาคจะสามารถเข้าใจถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีกว่าบริษัท โดยเราจะไม่ส่งยางให้แก่ร้านค้าย่อย ฟอร์มูลา : ดีเลอร์ของบริษัทมีสิทธิ์ในการจำหน่ายยางยี่ห้ออื่นหรือไม่ ? หลิน ยวี่ หยู๋ : บริษัทไม่ได้บังคับ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของดีเลอร์ บางแห่งจะจำหน่ายเพียงยาง แมกซ์ซิส เพียงยี่ห้อเดียว บางแห่งก็จะจำหน่ายหลายยี่ห้อ ฟอร์มูลา : บริษัทมีกลยุทธ์อย่างไรที่จะทำให้ แมกซ์ซิส แข่งขันได้ในตลาดนี้ ? หลิน ยวี่ หยู๋ : บริษัทเริ่มผลิตยางตั้งแต่ปี 2527 และยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกา และยุโรป รวมถึงการส่งยางให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด/จีเอม/โตโยตา และนิสสัน ซึ่งผู้บริโภคที่ใช้ยางของเรามีการตอบรับที่ดี สำหรับการมาเปิดตลาดในเมืองไทย ถือว่าเราเป็นยางใหม่ในตลาด แต่ด้วยคุณภาพของสินค้า บริษัทมั่นใจว่าจะทำให้ผู้บริโภคคนไทยยอมรับสินค้า แมกซ์ซิส รวมถึงการเข้าร่วมกับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองไทยต่อไปในอนาคตจะทำให้สินค้าของบริษัทเป็นที่ยอมรับแก่ตลาด ฟอร์มูลา : จุดเด่นของยาง แมกซ์ซิส คืออะไร ? หลิน ยวี่ หยู๋ : ยาง แมกซ์ซิส มีความโดดเด่นทางเทคโนโลยี ที่เรียกว่า "VIRTUAL INTELLIGENT PROTOTYPING" หรือ VIP มาบุกเบิก ทำการพัฒนาความมีประสิทธิภาพ และถือเป็นยางที่มีมาตรฐานระดับสูง โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อยกระดับคุณภาพยางให้สูง และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ฟอร์มูลา : ตลาดที่ไต้หวันกับประเทศไทยมีความแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร ? หลิน ยวี่ หยู๋ : จริงๆ แล้วไม่มีความแตกต่างกันเลย เนื่องจากการทำงาน การผลิตต่างๆ ค่อนข้างเหมือนกันเกือบทุกอย่าง ทั้งการตั้งโรงงานใหม่ การนำอุปกรณ์ เครื่องจักรใหม่ ทันสมัยที่สุดจากเยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าโรงงานจะอยู่คนละที่แต่อุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกัน และโรงงานที่เมืองไทยนี้ก็ใช้อุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด ที่จะแตกต่างกันก็คงจะเป็นในเรื่องของการเข้าสู่ตลาดใหม่ในเมืองไทย ซึ่งที่ไต้หวันนั้นยาง แมกซ์ซิส เป็นที่รู้จักอย่างมาก ซึ่งการทำตลาดไม่ใช่เรื่องยาก แต่เมืองไทยถือว่าเป็นน้องใหม่ในตลาด ค่อนข้างช้าสำหรับการเปิดตลาด ที่ผ่านมามียี่ห้ออื่นเกิดขึ้นมากแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่า ด้วยคุณสมบัติของยาง แมกซ์ซิส อีกไม่นานจะสามารถทำให้ผู้บริโภครู้จักได้ในตลาดเมืองไทย ฟอร์มูลา : บริษัทตั้งเป้าหมายสำหรับยาง แมกซ์ซิส ในเมืองไทยไว้อย่างไร ? หลิน ยวี่ หยู๋ : ตั้งเป้าไว้สูงมาก เพราะที่ผ่านมาในไต้หวัน แมกซ์ซิส เป็นสินค้าชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 5ของสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งในเมืองไทยก็หวังว่าจะสามารถยืนเคียงข้างกับยางยี่ห้ออื่นที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาด