ความสบายคุ้มค่า...ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า

โมโตฮิสะ มาเอโนะ ประธาน และ พรพินันท์ พิสุทธิ์วัชระกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดันลอป ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เชิญสื่อมวลชน และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ DUNLOP เข้าร่วมทดสอบยางประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ ENASAVE EC300+ ณ สนามทดสอบ ปทุมธานี สปีดเวย์ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 DUNLOP ENASAVE EC300+ ยางประหยัดพลังงานมาตรฐานใหม่ ที่ค่ายผลิตรถยนต์ชั้นนำ เลือกใช้เป็นยางติดรถยนต์จากโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น MAZDA 2, HONDA BRIO AMAZE, HONDA BR-V, TOYOTA YARIS และ ALTIS ENASAVE EC300+ มีจุดเด่นเรื่องความนุ่ม เงียบ ด้วยลายดอกยางใหม่แบบละเอียด ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ อายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม 20 % ด้วยการออกแบบยางให้กระจายแรงกดหน้าสัมผัสดอกยางอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดการสึกหรอ และส่วนผสมเนื้อยางแบบ MULTI-FUNCTIONALIZED POLYMER ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ช่วยให้รถยนต์วิ่งไกลมากขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20 % ในการทดสอบยางครั้งนี้ DUNLOP ใช้รถ MAZDA 2 ที่ใส่ยาง ENASAVE EC300+ ขนาด 185/65R15 มาจากโรงงาน ทั้ง 3 สถานี สถานีที่ 1 ทดสอบความนุ่มนวลในการขับขี่ ประสิทธิภาพในการยึดเกาะและควบคุมทิศทาง (HANDLING AND COMFORT TEST) โดยเริ่มจากรถ MAZDA 2 ที่เปลี่ยนใส่ยางคู่แข่ง ขับผ่านแผ่นยาง ที่จำลองเหตุการณ์พื้นผิวถนนต่างระดับด้วยความเร็วคงที่ 40 กม./ชม. เพื่อดูประสิทธิภาพในการดูดซับแรงสั่นสะเทือน จากนั้นเพิ่มความเร็วไปที่ 60 กม./ชม. เข้าช่องทางโค้งกว้างและโค้งแคบ ก่อนจะเปลี่ยนช่องทางแบบกะทันหัน และขับแบบสลาลอม ด้วยความเร็วคงที่ 40 กม./ชม. เพื่อดูประสิทธิภาพการควบคุมทิศทางและการยึดเกาะ แล้วกลับมาเปลี่ยนขับรถ MAZDA 2 อีกคันที่ยังใช้ยาง DUNLOP ENASAVE EC300+ จากโรงงานประกอบ ทันทีที่ขับออกจากจุดเริ่มต้นก็สัมผัสได้ถึงความนุ่ม และเงียบ เมื่อขับผ่านแผ่นยาง ENASAVE EC300+ ซับแรงกระแทกได้มาก และเกาะถนนกว่ายางคู่แข่ง ควบคุมรถได้ง่ายทั้งในโค้งกว้างและโค้งแคบ การเปลี่ยนช่องทางแบบกะทันหัน สามารถกำหนดทิศทางได้อย่างที่ตั้งใจ ขณะที่ยางคู่แข่งแม้ว่าจะมีความนุ่ม แต่การดูดซับแรงสั่นสะเทือนไม่ดีเท่า มีเสียงดังเมื่อขับผ่านรอยต่อ เข้าโค้งหรือเปลี่ยนช่องทาง รถลื่นไถลออกนอกเส้นทางและควบคุมรถยากกว่า เมื่อตรวจดูดอกยางก็พบว่าสึกไปมากกว่าด้วย สถานีที่ 2 ทดสอบแรงต้านทานการหมุน (ROLLING RESISTANCE TEST) DUNLOP ใช้รถรุ่นเดียวกัน 2 คัน คันแรกเป็นยาง ENASAVE EC300+ ติดรถ คันที่ 2 เปลี่ยนใส่ยางคู่แข่ง เติมลมตามสเปคเท่ากัน ทดสอบโดยการปล่อยไหลลงจากแท่นปล่อย ด้วยการปลดเบรคมือลง รถไหลไปตามช่องทาง 1 หรือ 2 ก่อนจะสลับช่องทางปล่อยอีกครั้ง เพื่อทดสอบแรงต้านทานการหมุน หลังจากได้ทดลองไปแล้ว 2 ช่อง ก็สลับรถนั่งและปล่อยไหลทั้ง 2 ช่องทาง อีกช่องทางละ 1 รอบ รถคันที่ ENASAVE EC300+ ไหลไปได้ไกลเกินกว่า 60 ม. ทั้ง 2 ช่องทาง แม้ว่าจะเปลี่ยนตัวคนนั่งหรือผู้ขับ ขณะที่รถคันที่ใส่ยางคู่แข่งมีระยะทางที่สั้นกว่าถึง 10 ม. จึงพอที่จะสรุปได้ว่า ยาง ENASAVE EC300+ มีแรงต้านทานการหมุนต่ำกว่า ทำให้ไปได้ไกลกว่ายางคู่แข่ง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น สถานีที่ 3 ทดสอบประสิทธิภาพการเบรคบนถนนเปียก (WET BRAKING TEST) การทดสอบครั้งนี้ใช้ MAZDA 2 ที่ใส่ยาง ENASAVE EC300+ มาจากโรงงานเพียงคันเดียว โดยกดคันเร่งเต็มที่จากจุดเริ่มต้น เพื่อเร่งความเร็วให้ได้ 60 กม./ชม. ก่อนถึงไพลอนตัวแรก และกระทืบเบรค/กดเบรคเต็มแรงบนพื้นเปียกจนกว่ารถหยุดสนิท แม้ว่าจะเบรคบนพื้นเปียก ระยะเบรคเกิน 15 ม. ไปประมาณ 2 ม. ซึ่งก็ใกล้เคียงกับระยะเบรคบนถนนแห้ง และยังสามารถควบคุมทิศทางไปพร้อมๆ กับการเบรค ENASAVE EC300+ นอกจากจะเปลี่ยนความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า ยางประหยัดพลังงานหรือยางประหยัดน้ำมัน ไม่เกาะถนน ยังสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีกว่าเดิม ทั้งความนุ่ม เงียบ ประหยัดน้ำมัน และเกาะถนนมากขึ้น ENASAVE EC300+ มีให้เลือกมากถึง 21 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว หน้ากว้าง 165-225 ในซีรีส์แก้มยางขนาด 50-70 ซึ่งสามารถครอบคลุมการใช้งาน ตั้งแต่รถยนต์นั่งขนาดเล็กไปจนถึงรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ ที่ต้องการความสะดวกสบายและความประหยัดที่มากกว่า สนใจสั่งซื้อติดต่อร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ DUNLOP ทั่วประเทศ