แม้แต่ คสช. ก็เอาไม่อยู่ คืนความสุขจากท้องถนน เมื่อไม่มีขาโจ๋แข่งรถ ให้เราๆ ท่านๆ ไม่สําเร็จ แต่ก็บรรเทาเบาบางลงบ้าง เห็นใจท่านมีงานให้สะสางบานตะไท คลําตรงไหนเจอตรงนั้น บ้านเราค่อนข้างเละเทะเอาการ ว่ามาอย่างนี้ ผมคงไม่โดนเรียกไปสงบสติอารมณ์หรอกน่ะ

แม้แต่ คสช. ก็เอาไม่อยู่ คืนความสุขจากท้องถนน เมื่อไม่มีขาโจ๋แข่งรถ ให้เราๆ ท่านๆ ไม่สําเร็จ แต่ก็บรรเทาเบาบางลงบ้าง เห็นใจท่านมีงานให้สะสางบานตะไท คลําตรงไหนเจอตรงนั้น บ้านเราค่อนข้างเละเทะเอาการ ว่ามาอย่างนี้ ผมคงไม่โดนเรียกไปสงบสติอารมณ์หรอกน่ะ กลับมาดูมาตรการทางศาลมั่งครับ ท่านเปาของเราขึงขังแค่ไหน วางโทษพอที่จะทําพวกนั้นสะดุ้งสะเทือนไหม “นายแปดสูบ” คงเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมกระมัง ลงทุนเอารถยนต์ไปแข่งกับพรรคพวกบนถนนหลวง บางช่วงไปฉวัดเฉวียนหน้าห้างโลตัสตั้งหลายรอบ เคยรอดพ้นการไล่ล่า แต่คราวนี้ตํารวจออกแรงคว้าคอไว้ได้ ยึดรถยนต์เป็นของกลาง นําตัวส่งอัยการ เลี้ยวซ้ายไปศาล มีการร้องขอให้ริบรถซะด้วย จะได้เข็ด ไม่ริบ ไม่เข็ดง่ายๆ หรอกครับ นายแปดสูบ ไม่สู้คดี พ่อแม่พี่น้องมั่นใจว่า แค่ปรับ รอลงอาญา กลับบ้านได้สบายมาก เรามาดูกันต่อไป ศาลชั้นต้น พิจารณาแล้ว เล่นแรง ตัดสินเอาผิดตาม พรบ. จราจรทางบก ฯ จําคุก 2 เดือน ปรับ 10,000 บาท รับลดกึ่ง คงจําคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท แล้วร่ายต่อไปว่า การกระทําของ นายแปดสูบ เป็นการรบกวนการใช้ทางสาธารณะ เป็นภัยต่อผู้ใช้ทาง ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ ดิ้นเป็นถูกน้ำร้อนสิทีนี้ จ้างทนายชั้นดียื่นอุทธรณ์ เน้นเรื่องขอรอลงอาญา และขอคืนรถ ศาลอุทธรณ์อ่านแต่สํานวน ไม่ได้เห็นหน้าใคร แล้ว พิพากษาแก้ โทษจําคุก เปลี่ยนเป็นกักขัง รถไม่คืน จําเลย คือ นายแปดสูบ ยังไม่ยอมรับมาตรการลงโทษของบ้านเมืองง่ายๆ หาทางยื่นฎีกาขึ้นไปจนได้ เพราะผู้พิพากษาศาลชั้นต้นท่านหนึ่ง ซึ่งเคยพิจารณาคดีนี้ เซ็นอนุญาตให้เล่นเกมยาว นายแปดสูบ จึงมีลุ้น ศาลฎีกาเหล่ดูสํานวนที่มาถึงคิว แล้วชี้ขาดออกมา ข้อที่ นายแปดสูบ เถียงว่า ศาลอุทธรณ์รับฟังว่า ตนเองไม่มีใบอนุญาตขับรถมาก่อน แล้วนํามาประกอบการตัดสินว่า ไม่ควรรอการลงโทษจําคุก เป็นการรับฟังข้อเท็จจริงนอกสํานวนนั้น ศาลฎีกาแจงว่า ศาลอุทธรณ์ยกเอาข้อเท็จจริง ซึ่งปรากฏตามรายงานการสืบเสาะพินิจของพนักงานคุมประพฤติ นายแปดสูบ ก็ไม่ได้คัดค้าน นํามาประกอบเป็นข้อวินิจฉัยว่า สมควรรอการลงโทษจําคุกไหม อย่างนี้มิใช่การรับฟังข้อเท็จจริงนอกสํานวนหรอกนะ ข้อที่ นายแปดสูบ ออดอ้อน ขอให้รอการลงโทษ หรือกักขังจําเลยไว้ในที่อยู่อาศัย ศาลฎีกาฟันธงว่า ทางเดินรถสาธารณะเป็นทางที่คนทั่วไปใช้สัญจรไปมา ไอ้หมอนี่ทะลึ่งนํารถยนต์มาแข่งกับรถของพรรคพวก ด้วยความเร็วสูง ก่อให้เกิดเสียงดัง ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่คํานึงถึงความเดือดร้อนรําคาญของผู้อื่น อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านได้ พฤติการณ์ร้ายแรง แม้ นายแปดสูบ อายุไม่มาก ไม่เคยทําผิดมาก่อน ก็ไม่ปรานี ต้องจําคุกลูกเดียว การขอรถคืนก็เช่นกัน เมื่อรถใช้ในการกระทําความผิด จึงริบได้ แม้มีความจําเป็นในการใช้รถประกอบสัมมาชีพ ก็ไม่คืน ศาลฎีกาจึงพิพากษายืน ตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ ไม่ทราบว่า "บิกเน" โต้โผใหญ่ของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของ สนามแข่งรถระดับโลก "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต" (BRIC) ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีช่องว่าง ให้ขา "ซิ่ง" ซึ่งเป็นเยาวชนลูกหลานทั้งหลาย ในฐานะมือสมัครเล่น มีโอกาสใช้สนามเพื่อแข่งขัน หลีกเลี่ยงการใช้ทางสาธารณะบ้างไหม ถ้ามีและเอื้ออํานวยให้ความสะดวก ก็เป็นการดีอย่างยิ่งแล เช่น เหมาวันไปเลยในแต่ละเดือน มาทุกหัวระแหง ซอยสนามให้แข่งกันได้เยอะๆ คนคงแห่มากันตรึม ส่วนวิธีบริหารจัดการ ไม่ต้องบอก เขาขั้นเทพอยู่แล้ว สาธุขอให้เป็นจริงเถอะ จากคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 6325/2548