จากหน้าจอเกม สู่กระจกรถยนต์

คอเกมคงจะพอนึกภาพออกเวลาที่เราเล่นเกมรถแข่ง หรือเกมต่อสู้ แล้วหน้าจอมีข้อมูลขึ้นมา เช่น เมื่อมีรถคู่แข่งกำลังแซงขึ้นหน้า ก็จะมีความเร็วของรถคันนั้น หรือข้อมูลอื่นๆ ถ้าไม่ใช่คอเกมอาจนึกภาพไม่ออก แต่อย่างน้อยถ้าคุณเคยดูภาพยนตร์เรื่อง IRONMAN ก็น่าจะเคยเห็นภาพจากภายใต้หน้ากาก ที่มีการคำนวณข้อมูลสำคัญต่างๆ รวมถึงวิถีการยิงของอาวุธขึ้นมา…พอเห็นภาพคร่าวๆ แล้วนะครับ ดีแค่ไหนถ้าข้อมูลทุกอย่าง อยู่บนกระจก ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรหรอก เพราะการแสดงข้อมูลบนหน้ากระจกรถนั้นมีมานานแล้ว ด้วยเทคโนโลยี HEAD-UP DISPLAY ที่แสดงข้อมูลสำคัญๆ สะท้อนขึ้นไปบนกระจกหน้ารถ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน เพราะการละสายตาเพียง 1-2 วินาที อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ ข้อมูลที่แสดงในช่วงแรกๆ จะแสดงเป็นตัวเลขความเร็วของตัวรถ ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญ เนื่องจากหลายพื้นที่มีข้อกำหนดเรื่องการควบคุมความเร็ว การเห็นตัวเลขแสดงความเร็วทำให้เราทราบข้อมูลตลอดเวลา และควบคุมความเร็วได้ วันนี้เริ่มมีข้อมูลอื่นๆ มากขึ้น อย่างเช่น ตำแหน่งเกียร์ เพราะรถที่มีฟังค์ชันการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง ตัวเลขบอกสถานะตำแหน่งเกียร์มีส่วนสำคัญ ที่จะทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เกียร์ได้อย่างถูกต้อง พัฒนาเริ่มต้นจากสนามแข่ง แต่แนวคิดการพัฒนา VIRTUAL WINDSCREEN มันไปไกลกว่านั้นมาก เพราะข้อมูลแบบเทคโนโลยี HEAD-UP DISPLAY ในปัจจุบันไม่เพียงพอแล้ว จุดมุ่งหมายของการพัฒนา คือ ต้องการให้ข้อมูลผู้ขับแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนนเลย ลองนึกภาพจากฉากของ IRONMAN เวลาที่มองออกไป เราจะเห็นภาพเหมือนที่ตาเห็น แต่ทว่าจะมีข้อมูลอื่นๆ โผล่ขึ้นมาด้วย อาจเป็นข้อมูลด้านความเร็วรถ การแนะนำเส้นทาง ฯลฯ ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนานั้น มุ่งเน้นไปที่วงการมอเตอร์สปอร์ทเป็นอันดับแรก เพราะสามารถควบคุมปัจจัยรอบด้านได้ง่ายกว่า การใช้งานจริงบนท้องถนนนั้น จะมีตัวแปรเพิ่มขึ้นมากมายรอบด้าน ฟังค์ชันหลักๆ คล้ายกับเวลาที่เราเล่นเกม เช่น การแนะนำเส้นทางแบบ RACING LINE โดยคำนวณจากความเร็วของรถ และสภาพโค้ง เพื่อให้ผู้ขับสามารถเข้าโค้งได้อย่างมีเสถียรภาพแบบนักแข่ง รวมถึงการแนะนำจุดเริ่มเบรค หรือ BRAKING GUIDANCE ให้สัมพันธ์กับความเร็ว การเบรคในจุดที่เหมาะสม และเข้าโค้งได้แบบ RACING LINE จะทำให้ลดความเร็วต่อรอบได้มากขึ้น บอกข้อมูลทุกอย่างที่สำคัญ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าสามารถแฝงข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญได้ด้วย เช่น ข้อมูลของรถแข่งคันหน้า สามารถเขียนพโรแกรมให้บอก ชื่อผู้ขับ, เวลาต่อรอบ, เวลาที่ตามอยู่ต่อรอบ ฯลฯ รวมถึงฟังค์ชันการสร้าง GHOST CAR หรือภาพเงารถเพื่อนำมาพิจารณาแบบรอบต่อรอบ ว่าการขับขี่แต่ละรอบนั้นมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้เข้าโค้งได่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังมองถึงการสร้างภาพจำลองบนหน้ากระจก อาจจะไม่ต้องพึ่งสนามแข่งอีกต่อไป เพียงแค่มีลานโล่งกว้างเพียงพอ โดยการจำลองสนามหรือรูปแบบสนามในลักษณะของการวางตำแหน่งกรวยยาง เพื่อลองฝึกการขับขี่ ซึ่งสามารถเซทค่าเองได้ ช่วยลดความเสียหายในการซ้อม เนื่องจากการชนปะทะกับสิ่งกีดขวาง ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ระบบ GESTURE CONTROL SYSTEM หรือการควบคุมด้วยท่าทาง ถ้านึกภาพไม่ออก ลองดูซีรีส์เรื่อง CSI ที่ใช้มือวาดไปในอากาศเพื่อการควบคุมหน้าจอต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยปุ่มควบคุม และทำให้การเซทค่าต่างๆ นั้นทำได้ง่าย ซึ่งฟังค์ชันลักษณะนี้มีในสมาร์ททีวีให้เราเริ่มคุ้นเคยกันแล้ว เป้าหมายของการออกแบบและพัฒนาแท้จริง คือ การนำมาใช้ในรถยนต์ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะสิ่งที่ผู้พัฒนาคาดหวัง คือ การบอกข้อมูลให้กับผู้ขับขี่ที่จำเป็น เช่น ความเร็วของรถคันข้างๆ หรือทิศทางที่รถคันนั้นอาจจะไป รวมถึงการนำระบบทางขึ้นไปไว้บนหน้ากระจก เพื่อให้การนำทางมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยมากขึ้น