หากตั้งคำถามให้ระบุชื่อรุ่นของรถกิจกรรมกลางแจ้งสายพันธุ์อเมริกันแท้ ที่มีตัวถังโตที่สุด ห้องโดยสารตกแต่งหรูหราที่สุด และค่าตัวแพงที่สุด? เชื่อขนมกินได้เลยว่า ชื่อที่จะหลุดจากปากของคนรักรถทุกผู้ทุกนามคือ แคดิลแลค เอสกาเลด (CADILLAC ESCALADE) รถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ขนาดใหญ่คู่ฝาคู่แฝดกับรถร่วมเครืออีก 3 แบบ คือ เชฟโรเลต์ ตาโฮ (VHEVROLET TAHOE) เชฟโรเลต์ ซับเออร์เบิน (CHEVROLET SUBURBAN) และ จีเอมซี ยูคอน (GMC YUKON)

หากตั้งคำถามให้ระบุชื่อรุ่นของรถกิจกรรมกลางแจ้งสายพันธุ์อเมริกันแท้ ที่มีตัวถังโตที่สุด ห้องโดยสารตกแต่งหรูหราที่สุด และค่าตัวแพงที่สุด? เชื่อขนมกินได้เลยว่า ชื่อที่จะหลุดจากปากของคนรักรถทุกผู้ทุกนามคือ แคดิลแลค เอสกาเลด (CADILLAC ESCALADE) รถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ขนาดใหญ่คู่ฝาคู่แฝดกับรถร่วมเครืออีก 3 แบบ คือ เชฟโรเลต์ ตาโฮ (VHEVROLET TAHOE) เชฟโรเลต์ ซับเออร์เบิน (CHEVROLET SUBURBAN) และ จีเอมซี ยูคอน (GMC YUKON) ยอดผู้ผลิตรถหรูของสหรัฐอเมริกาบรรจุรถติดป้ายชื่อ แคดิลแลค เอสกาเลด เข้าสู่สายการผลิตเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1999 และได้เปลี่ยนรุ่นรถอนุกรมนี้ไปแล้วรวม 2 ครั้งในปี 2002 และ 2007 เมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2013 เฉพาะในเมืองมะกันค่ายแคดิลแลคขายรถค่าตัวแพงแบบนี้ไปแล้วรวม 518,401 คัน ปีที่ขายได้มากที่สุดคือ 2007 ซึ่งมียอดขายสูงถึง 53,024 คัน ส่วนที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่ในขณะนี้เป็นรถรุ่นที่ 4 ปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานเปิดตัวซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษที่นครนิวยอร์คเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2013 และเริ่มออกสู่โชว์รูมเมื่อเดือนเมษายนของปีถัดมาในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2015 โดยใช้โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงทัน (ARLINGTON) ในรัฐเทกซัสเป็นที่ผลิต เช่นเดียวกับรถสองรุ่นก่อนหน้านี้ แคดิลแลค เอสกาเลด รุ่นใหม่ล่าสุดมีตัวถังให้ผู้ใช้รถเงินถุงเงินถังสตางค์แยะเลือกใช้ 2 แบบ คือตัวถังยาว 5.179 ม.กว้าง 2.044 ม.และสูง 1.899 ม.ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 2.946 ม.และติดป้ายชื่อ CADILLAC ESCALADE กับตัวถังยาว 5.697 ม.กว้าง 2.045 ม.และสูง 1.880 ม.ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 3.302 ม.และติดป้ายชื่อ CADILLAC ESCALADE ESV ทั้งสองแบบมีโครงสร้างตัวถังเหมือนรถกระบะ เป็นตัวถังไม่รับแรงอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า BODY ON FRAME นั่นเอง ทั้ง แคดิลแลค เอสกาเลด และ แคดิลแลค เอสกาเลด อีเอสวี ซึ่งตัวถังยาวกว่ากัน 51.8 ซม. มีห้องโดยสารซึ่งติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้รวม 7-8 คน มีทั้งแบบขับล้อหลังแบบขับทุกล้อ และทั้งสองแบบแบ่งกาตกแต่ง/อุปกรณ์เป็น 3 ระดับ กำกับด้วยรหัส STANDARD LUXURY PREMIUM ส่วนเครื่องยนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ฝากระโปรงหน้า เลือกไม่ได้เพราะมีอยู่เพียงขนาดเดียว เป็นเครื่องเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง OHV วี 8 สูบ ความจุ 6,162 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 313 กิโลวัตต์/420 แรงม้า ที่ 5,600 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 623 นิวทันเมตร/63.6 กก.ม.ที่ 4,100 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หลังหรือทั้งคู่หน้าและคู่หลังแล้วแต่กรณีก็มีเพียงแบบเดียวเช่นกัน คือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ HYDRA-MATIC สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต ทั้ง แคดิลแลค เอสกาเลด และ แคดิลแลค เอสกาเลด อีเอสวี สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.โดยใช้เวลาต่ำกว่า 6.0 วินาที ไม่ว่าเมื่อเป็นรถขับล้อหลังหรือเมื่อเป็นรถขับทุกล้อ ค่าตัวที่ระบุโดยผู้ผลิตหรือ MSRP (MANUFACTURER'S SUGGESTED RETAIL PRICE) ที่ซื้อขายกันในเมืองแม่ แคดิลแลค เอสกาเลด อยู่ระหว่าง 71,695-82,795 เหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับประมาณ 2,366,000-2,732,000 บาทไทย ส่วน แคดิลแลค เอสกาเลด อีเอสวี จะแพงกว่ากัน 3,000 เหรียญหรือประมาณ 99,000 บาท คืออยู่ระหว่าง 74,695-85,795 เหรียญ หรือเท่ากับประมาณ 2,465,000-2,831,000 บาท ทั้งสองแบบมีสีตัวถังให้เลือกรวม 7 สี คือ สีเทาเข้ม DARK GRANITE METALLIC สีเทา MAJESTIC PLUM METALLIC สีเงิน RADIANT SILVER METALLIC สีแดง CRYSTAL RED TINTCOAT สีเงิน SILVER COAST METALLIC สีขาว WHITE DIAMOND TRICOAT และสีดำ BLACK RAVEN ส่วนสีห้องโดยสารมีให้เลือก 3 สี คือ สีเทา SHALE สีน้ำตาล KONA BROWN กับสีดำ JET BLACK CADILLAC ESCALADE * รถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้เมดอินยูเอสเอ * ตัวถังยาว 5.179 ม.และ 5.697 ม. * เครื่องเบนซินฉีดตรง 313 กิโลวัตต์/420 แรงม้า * อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ใช้เวลาไม่ถึง 6.0 วินาที * ค่าตัวในสหรัฐอเมริกา 71,695-85,795 เหรียญ