ชมรมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์อาวุโส จัดงาน “ด้วยรักและผูกพันคนข่าว” ครั้งที่ 1 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อปลายเดือนเมษายน เปิดโอกาสให้บุคคลในวงการหนังสือพิมพ์ได้พบปะกันในฐานะรุ่นน้อง รุ่นพี่ สร้างอรรถประโยชน์แก่วงการน้ำหมึก

ชมรมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์อาวุโส จัดงาน “ด้วยรักและผูกพันคนข่าว” ครั้งที่ 1 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อปลายเดือนเมษายน เปิดโอกาสให้บุคคลในวงการหนังสือพิมพ์ได้พบปะกันในฐานะรุ่นน้อง รุ่นพี่ สร้างอรรถประโยชน์แก่วงการน้ำหมึก นักหนังสือพิมพ์อาวุโสในงานนี้ ได้แก่ นักหนังสือพิมพ์ที่มีอายุระหว่าง 80–96 ปี เช่น เราอายุ 83 ปี ได้ประโยชน์มากเพราะงานนี้ช่วยให้เรารู้ว่า บุคคลในวงการน้ำหมึกรุ่นใกล้เคียงกันยังมีเหลือใครกันบ้าง เพิ่งทราบว่า พี่เสนีย์ เสาวพงศ์ อายุ 96 ปี รู้ว่าพี่ เลิศ อัศเวศน์ อายุ 92 ปี เท่ากับพี่ นิยม เก้าสำราญ พี่เลิศ อยู่ “เสียงอ่างทอง” ทำงานอยู่กับเราสมัยซอยวรพงษ์ บางลำพู เขียนคอลัมน์รักษาโรคร้อยแปด เก่งที่สุดก็คือ รักษาสิวบนหน้า โดยท่านผู้อ่านไม่รู้ว่า ใบหน้าพี่เลิศของเรามีสิวขึ้นเต็ม เราเคยแซวบ่อยว่า ต้องเลี้ยงสิวเพื่อตอบปัญหาแก้สิว งานนี้ แจกจ่ายรายนามนักหนังสือพิมพ์อาวุโส เท่าที่รวบรวมมาได้ ก็เป็นประโยชน์ยิ่งที่จะได้โทรศัพท์คุยกัน คงไม่ถึงกับ คุคีรัน ออน ไลน์ คนที่เกิดมาช้านาน ย่อมได้เปรียบคนที่เพิ่งแจ้งเกิด เหมือนสุภาษิตที่โบราณกาลสร้างไว้ และเช่นเดียวกับ คำทำนาย-สิ่งอันมีมาช้านาน เช่น คำทำนายของนอสตราดามุสว่าโลกมีอายุแค่ 3,797 ปี เป็นต้น ถ้าคำทำนายจริง ก็เหลืออายุโลกเราเพียง 1,783 ปี ถึงตอนนั้นเราก็อายุครบ 1,866 ปี เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เคยทำนายชะตาเมือง เขียนใส่กระดาษซุกไว้จนศิษย์ก้นกุฏิมาพบ สมเด็จโตทำนายชะตาบ้านเมืองไว้ว่า “มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สินทธรรม จำแขนขาด ราษฎร์จน ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล” หลวงพ่อฤาษีลิงดำ-พระมหาวีระ ถาวโร มรณภาพไปหลายปีแล้ว แต่คำทำนายชะตาเมืองของท่านยังอยู่ มีความเพียง 56 บรรทัด บรรทัดแรก คือ “คำทำนายที่เคยมีมา ช้านานนัก” ตามด้วยบรรทัดที่สอง “เริ่มประจักษ์ให้เห็น เร้นไม่ได้” เท่านี้ เราก็ว่าเจ๋งแล้ว โอแล้ว ว้าว ว้าว ว้าว “คอร์รัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา” เป็นบรรทัดที่ 19 ตามด้วยบรรทัดที่ 20 “ประดุจปลวกกินฝา นั่นปะไร” สองบรรทัดนี้ เพื่อนคงเห็นแล้วว่า กระทรวงสาธารณสุขตื่นทั้งกระทรวง ยกป้ายไม่เอารัฐบาลโกง “ข้าราชการตงฉินถูกประณาม” เป็นบรรทัดที่ 21 เราเข้าใจว่า องค์กรอิสระทั้งหลายนั่นแหละ แม่นยำเช่นเดียวกับบรรทัดที่ 25 “ประชาชีจะสับสน เรื่องดีชั่ว” และเพื่อนลองดูบรรทัดอื่น “พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ” (บรรทัดที่ 29) พระสงฆ์ท่านจาริกอยู่บนถนน ถูกตีซะน่วม หลังสุดเพื่อนคงได้ยินข่าว หลวงปู่พุทธะอิสระ โดนแกสน้ำตาที่แจ้งวัฒนะ บรรทัด 33 ชัดเจนมาก “เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่น น้ำถล่ม ดินทลาย แผ่นดินแยก...” เป็นไงล่ะ น้ำท่วมบ้านเป็นเดือน เราเองต้องอพยพครอบครัวไปอยู่บนเขาใหญ่ หลังสุด เชียงรายดินแยกยังกะในหนัง เราอายุ 83 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นในเมืองไทย “ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง” เป็นบรรทัดที่ 47 คงไม่ต้องสีซอให้เพื่อนฟังนะ บ้านเมืองเราเวลานี้น่าจะบรรทัดที่ 50 “หลังฝนคร้าม ลั่นครืน จะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ ศักราชแห่งประชา” เมื่อคืนนี้ สภาวุฒิเลือกสมาชิกที่เหมาะสมขึ้นเป็นประธานวุฒิสภา ฟ้าลั่นครืน และฝนคร้าม มวลมหาประชาชนของ “ลุงกำนัน” นอนตากฝน (ด้วยศรัทธา) กลางถนน เพราะเชื่อคำทำนายบรรทัดสุดท้ายที่ 55 และ 56 ความว่า “ประเทศชาติ ผ่านวิกฤต ด้วยศรัทธา... ยามเมื่อฟ้า สีทอง ผ่องอำไพ ฯ”