โลโก เมร์เซเดส-เบนซ์ มีลักษณะแทนด้วยดาวสามแฉก ซึ่งแต่ละแฉกต้องการจะสื่อให้เห็นว่ามอเตอร์ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ สามารถใช้ได้กับทั้งพาหนะทางพื้นดิน ทางน้ำ และทางอากาศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โลโกนี้ได้รับการออกแบบโดย GOTTLIEB DAIMLER เมื่อปี 1909 และได้มีการเพิ่มกิ่งไม้สองกิ่ง เมื่อปี 1926 เพื่อสื่อให้เห็นถึงการควบรวมตัวกันของ 2 บริษัท ระหว่าง BENZ & CIE. กับ DAIMLER MOTOREN GESELLSCHAFT (DMG) ในปี 1926 (ที่มาจาก wowboom.blogspot.com)

โลโก เมร์เซเดส-เบนซ์ มีลักษณะแทนด้วยดาวสามแฉก ซึ่งแต่ละแฉกต้องการจะสื่อให้เห็นว่ามอเตอร์ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ สามารถใช้ได้กับทั้งพาหนะทางพื้นดิน ทางน้ำ และทางอากาศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โลโกนี้ได้รับการออกแบบโดย GOTTLIEB DAIMLER เมื่อปี 1909 และได้มีการเพิ่มกิ่งไม้สองกิ่ง เมื่อปี 1926 เพื่อสื่อให้เห็นถึงการควบรวมตัวกันของ 2 บริษัท ระหว่าง BENZ & CIE. กับ DAIMLER MOTOREN GESELLSCHAFT (DMG) ในปี 1926 (ที่มาจาก wowboom.blogspot.com) มาว่ากันด้วยคดีความอย่างเคย เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ รถดับเพลิงที่ตำรวจเป็นคนขับ กับรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีเด็กผู้หญิงเป็นคนขี่ มาเกี่ยวข้องกันกลางสี่แยก ส่งผลให้ “ดญ. จุมพิต” ผู้นั่งซ้อนท้ายรถ 2 ล้อติดเครื่อง ถึงแก่ความตาย แบบไทยๆ ที่พูดกันว่า ”รถเล็ก” ไม่ผิด อาจไม่จริง งานนี้ “ดญ. เรียบร้อย” ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดนตำรวจดำเนินคดี อัยการเอาด้วย นำตัวขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ขอให้ลงโทษทางอาญา ฐานกระทำโดยประมาทให้ดญ. จุมพิต ถึงตาย ครอบครัว ดญ. เรียบร้อย เดือดร้อนกันไปหมด กัดฟันจ้างทนายสู้คดี ยืนยันว่ารถดับเพลิงซึ่งมี “จสต. ผู้กอง” แกมีชื่อจริงนำหน้ายศมาแต่เกิด นั่นแหละประมาท ขับเบียดรถมอเตอร์ไซค์จนล้ม ล้อรถยนต์ทับ ดญ. จุมพิต จึงไม่รอด แล้วยังมาฟ้อง ดญ. เรียบร้อย ได้ยังไง ขอให้ยกฟ้อง ศาลเยาวชน ฯ พิจารณาตามเนื้อผ้า แล้วพิพากษาว่า ดญ. เรียบร้อย มิได้เป็นฝ่ายประมาท ผู้ที่ประมาทคือ จสต. ผู้กอง ต่างหาก พ่อแม่ของ ดญ. จุมพิต ซึ่งนั่งกุมกะโหลกมาแต่แรก เมื่อเจ้าหน้าที่หันมาเล่นงาน ดญ. เรียบร้อย ไม่รอช้า เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ จสต. ผู้กอง ร่วมกันรับผิด จ่ายค่าเสียหาย เมื่อไม่เป็นผล จึงยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นจำเลย ให้ชดใช้เป็นเงิน 2 ล้านบาทเศษๆ พร้อมดอกเบี้ย จำเลยสู้คดี เถียงกระต่ายขาเดียวว่า รถดับเพลิงไม่ได้ประมาท รถจักรยานยนต์ประมาทฝ่ายเดียว คดีขาดอายุความ ฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่เกิดเรื่อง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นหน้าบึ้งตามสไตล์ ฟังพยานของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ตัดสินให้ฝ่ายตำรวจจ่ายเงิน 2,050,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2546 จำเลยคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้อง เน้นเรื่องอายุความ ศาลอุทธรณ์นั่งอ่านเฉพาะสำนวน หน้าตาจึงเป็นปกติ เห็นว่าฝ่ายตำรวจต้องรับผิดเช่นเดิม แต่ลดจำนวนเงินลงหน่อย พิพากษาแก้ให้จำเลยจ่าย 1,730,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำไว้อย่าง ฟ้องหน่วยงานของรัฐ ต้องกัดฟันรอ เขาเล่นเกมยาวไว้ก่อนแทบทั้งนั้น เพื่อให้คดีถึงที่สุด จึงจะเอาเงินหลวงมาจ่ายได้ งานนี้ก็เช่นกัน พ่อแม่ของ ดญ. จุมพิต ต้องอดทนรอผลคำตัดสินของศาลฎีกา ศาลฎีกาเหล่ดูสำนวนคดีนี้ด้วยความเมื่อยขบตามวัย แล้วชี้ขาดออกมา คดีนี้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2545 โจทก์ฟ้องคดีนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 นับนิ้วมือแล้วเกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ จำเลยจึงเถียงว่าขาดอายุความแล้ว อย่าตกใจ เพราะศาลมองว่า แม้โจทก์จะทราบว่ารถดับเพลิงเป็นของจำเลย มี จสต. ผู้กอง เป็นคนขับรถ แต่ในช่วงนั้นตำรวจหันมาเล่นงาน ดญ. เรียบร้อย อัยการก็ฟ้อง กระทั่งศาลเยาวชน ฯ ตัดสินยกฟ้อง ดญ. เรียบร้อย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2545 อย่างนี้ต้องถือว่า โจทก์คือพ่อแม่ของ ดญ. เรียบร้อย รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ที่ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นแน่แท้ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2545 ไม่ใช่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2545 ฟ้องจึงไม่ขาดอายุความ แต่ศาลฎีกาเห็นว่าค่าเสียหายควรลดลงมาหน่อย จึงพิพากษาแก้ ให้ฝ่ายตำรวจจ่าย 1,001,0000 บาท พร้อมดอกเบี้ย คดีนี้น่าสนใจเรื่องอายุความมากๆ ยื้อมานานถึงปี 2555 พ่อแม่ของ ดญ. จุมพิต จึงชนะคดีได้อย่างหวุดหวิด จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9727/2555