ในบรรดารถนับร้อยนับพันยี่ห้อที่มีขายอยู่ในโลกขณะนี้ มีอยู่เพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นที่มีรถให้ลูกค้าเลือกใช้ประเภทเดียว คือ รถกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่มีรถประเภทอื่น และในบรรดารถไม่กี่ยี่ห้อที่ว่านี้ ยี่ห้อซึ่งแพร่หลายและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด คือ จีพ (JEEP) ชื่อยี่ห้อรถที่ในยุคหนึ่งได้กลายเป็นชื่อของประเภทรถ เหมือนอย่างที่ในยุคหนึ่ง ผู้คนในบ้านเราถนัดปากกับการเรียกผงซักฟอกว่า "แฟ้บ" และไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดกติกามารยาทอะไร เมื่อเรียกผ้าอนามัยว่า "โกเต๊ก"

ในบรรดารถนับร้อยนับพันยี่ห้อที่มีขายอยู่ในโลกขณะนี้ มีอยู่เพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นที่มีรถให้ลูกค้าเลือกใช้ประเภทเดียว คือ รถกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่มีรถประเภทอื่น และในบรรดารถไม่กี่ยี่ห้อที่ว่านี้ ยี่ห้อซึ่งแพร่หลายและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด คือ จีพ (JEEP) ชื่อยี่ห้อรถที่ในยุคหนึ่งได้กลายเป็นชื่อของประเภทรถ เหมือนอย่างที่ในยุคหนึ่ง ผู้คนในบ้านเราถนัดปากกับการเรียกผงซักฟอกว่า "แฟ้บ" และไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดกติกามารยาทอะไร เมื่อเรียกผ้าอนามัยว่า "โกเต๊ก" รถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกของค่ายจีพ คือ รถ JEEP WILLYS MB ที่เริ่มผลิตให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1941 ส่วนรถแบบแรกที่ผลิตขายแก่ผู้ใช้รถทั่วไปต้องรอ 4 ปีหลังจากนั้น คือ ในปี 1945 ตลอดช่วงเวลากว่า 7 ทศวรรษที่ผ่านมา กิจการผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งติดยี่ห้อ จีพ เปลี่ยนมือเจ้าของมาแล้วหลายครั้ง เจ้าของกิจการในปัจจุบัน คือ ไครสเลอร์ กรุพ แอลแอลซี (CHRYSLER GROUP LLC) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมียักษ์ใหญ่ของเมืองมะกะโรนี คือ เฟียต กรุพ (FIAT GROUP) เป็นผู้ถือหุ้นรายสำคัญ ส่วนใหญ่ของรถกิจกรรมกลางแจ้งที่ค่าย จีพ ผลิตขายในขณะนี้ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า CROSSOVER SUV ส่วนรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถกระบะนั้น ยังหลงเหลืออยู่เพียง 2 อนุกรม คือ จีพ แรงเลอร์ (JEEP WRANGLER) กับ จีพ แรงเลอร์ อันลิมิเทด (JEEP WRANGLER UNLIMITED) ส่วน จีพ เชอโรคี (JEEP CHEROKEE) ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดารถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์รวม 2 แบบที่ "ระเบียงรถใหม่" นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันในเดือนนี้ เป็นรถรุ่นใหม่ เพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์คครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดออกโชว์รูมในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2014 ก่อนหน้านี้ยอดผู้ผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งของเมืองมะกันเคยทำรถติดป้าย ชื่อ จีพ เชอโรคี มาแล้ว 2 รุ่น รถรุ่นแรกซึ่งมีรหัสรุ่นว่า SJ และอยู่ในตลาดระหว่างปี 1974-1983 มียอดผลิตรวมทั้งสิ้น 197,338 คัน ส่วนรถรุ่นที่ 2 ซึ่งมีรหัสรุ่นว่า XJ และตัวถังมีขนาดเล็กกว่ารถรุ่นแรก ปรากฏตัวเมื่อปี 1984 และอยู่ในสายผลิตจนถึงปี 2002 จึงถูกแทนที่ด้วยรถรุ่นใหม่ซึ่งติดป้าย ชื่อ จีพ ลิเบอร์ที (JEEP LIBERTY) รถรุ่นใหม่ที่กำลังอวดตัวอยู่นี้ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษสไตล์อเมริกันว่า MID-SIZE CROSSOVER SUV ตัวถังทรงสองกล่อง ยาว 4.624 ม. กว้าง 1.859 ม. และสูง 1.670-1.723 ม. ซึ่งติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว และออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน มีหน้าตาและรูปทรงองค์เอวที่ดูทรงพลังและน่าเกรงขาม หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นรถหน้าดุ เมื่อออกโชว์รูมในไตรมาสที่ 3 ของปีงูเล็กดังที่กล่าวข้างต้น จะมีทั้งแบบขับล้อหน้า (4x2) แบบขับทุกล้อ (4x4) และมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้รวม 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซิน SOHC 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 2,360 ซีซี 137 กิโลวัตต์/184 แรงม้า กับเครื่องเบนซิน DOHC วี 6 สูบ 3,239 ซีซี 199 กิโลวัตต์/271 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์มีแบบเดียว คือ เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ซึ่งมีอัตราทด 4.70-2.84-1.91-1.38-1.00-0.81-0.70-0.58-0.48 ถอยหลัง 3.81 โดยสรุป จีพ เชอโรคี รุ่นนี้จะมีรถให้ลูกค้าในเมืองมะกันเลือกใช้รวม 7 โมเดล คือ JEEP CHEROKEE SPORT 4x2 JEEP CHEROKEE SPORT 4x4 JEEP CHEROKEE LATITUDE 4x2 JEEP CHEROKEE LATITUDE 4x4 JEEP CHEROKEE LIMITED 4x2 JEEP CHEROKEE LIMITED 4x4 JEEP CHEROKEE TRAILHAWK 4x4 ค่าตัวเริ่มต้นที่ระดับ 22,995 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 713,000 บาท เป็น MSRP (MANUFACTURER'S SUGGESTED RETAIL PRICE) หรือราคาขายปลีกที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งเมื่อซื้อขายกันจริงอาจไม่ตรงตามนี้ ขึ้นอยู่กับการต่อรอง