สมัยที่ยังนุ่งกางเกงขาสั้นตัดผมเกรียน และหิ้วกระเป๋าหนังใบโตโหนรถเมล์ไปโรงเรียนซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลายกิโล รู้จักรถสายพันธุ์อเมริกันอยู่เพียงยี่ห้อเดียว คือ รถติดป้ายชื่อ เชฟโรเลต์ (CHEVROLET) ที่รู้จักก็เพราะผู้เคารพรักเหมือนญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีรถยี่ห้อนี้อยู่ 1 คัน ท่านผู้นี้ใช้รถคันที่ว่าอยู่หลายปีไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้รถยี่ห้ออื่น เพราะชอบใจที่มันมีห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายใช้งานทนทาน ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร ถึงจะกินน้ำมันมากหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะตอนนั้นน้ำมันเบนซินในบ้านเรา ลิตรหนึ่งขายกันแค่บาทกว่าๆ พยายามนึกแล้วนึกอีก ก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นรถรุ่นไหน ? มีชื่อรุ่นว่าอะไร ? ความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือ เป็นรถเก๋งผลิตในสหรัฐอเมริกาที่ส่งเข้ามาขายในเมืองไทย

สมัยที่ยังนุ่งกางเกงขาสั้นตัดผมเกรียน และหิ้วกระเป๋าหนังใบโตโหนรถเมล์ไปโรงเรียนซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลายกิโล รู้จักรถสายพันธุ์อเมริกันอยู่เพียงยี่ห้อเดียว คือ รถติดป้ายชื่อ เชฟโรเลต์ (CHEVROLET) ที่รู้จักก็เพราะผู้เคารพรักเหมือนญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีรถยี่ห้อนี้อยู่ 1 คัน ท่านผู้นี้ใช้รถคันที่ว่าอยู่หลายปีไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้รถยี่ห้ออื่น เพราะชอบใจที่มันมีห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายใช้งานทนทาน ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร ถึงจะกินน้ำมันมากหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะตอนนั้นน้ำมันเบนซินในบ้านเรา ลิตรหนึ่งขายกันแค่บาทกว่าๆ พยายามนึกแล้วนึกอีก ก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นรถรุ่นไหน ? มีชื่อรุ่นว่าอะไร ? ความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือ เป็นรถเก๋งผลิตในสหรัฐอเมริกาที่ส่งเข้ามาขายในเมืองไทย พอโตขึ้นและยังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวงการรถยนต์ ก็แทบไม่มีสักครั้งที่ชื่อ เชฟโรเลต์ จะผุดขึ้นในซีกใดซีกหนึ่งของมันสมอง ในบ้านเรารถยี่ห้อนี้หายสาบสูญจากท้องถนนไปนานหลายสิบปี จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง เชฟโรเลต์ จึงกลับมาเฟื่องฟูในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง และเป็นการกลับมาในรูปลักษณ์ใหม่ หากวันนี้ผู้เขียนยังเข้าใจเหมือนในอดีต ว่ารถ เชฟโรเลต์ ทุกคัน คือ รถอเมริกันพันธุ์แท้ ซึ่งผลิตจากโรงงานที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ทุกคนที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศของ "สื่อสากล" คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "น้าชูแกคิดมากเขียนมากจนเพี้ยนไปแล้ว" รถ เชฟโรเลต์ หลายแบบหลายรุ่นที่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จำหน่ายอยู่ในบ้านเราขณะนี้ เป็นรถติดยี่ห้ออเมริกันก็จริง แต่หาได้สักคันไหม ? ที่แม้ไม่ได้ผลิตในสหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำเต็มวงสวิง ว่าเป็นรถอเมริกันพันธุ์แท้เหมือนป้ายยี่ห้อ เชฟโรเลต์ ทแรกซ์ (CHEVROLET TRAX) ที่เลือกมาให้ชมใน "ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ก็เช่นกัน ถึงติดยี่ห้ออเมริกันก็จริง หากมีโอกาสไปเที่ยวเมืองมะกันและอยากจะสัมผัสตัวจริงเสียงจริงของรถชื่อนี้ รับประกันได้เลยว่า ท่องไปให้ทั่วทั้ง 50 รัฐ ก็ไม่มีวันได้สัมผัส เป็น COMPACT CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดกระจิ๋วหลิว ออกแบบและผลิตที่โรงงานของค่าย GM KOREA ในเกาหลีใต้ โดยมีทวีปยุโรปเป็นตลาดเป้าหมาย เป็นคู่ฝาคู่แฝดกับรถขนาดเดียวกัน รูปทรงองค์เอวคล้ายคลึงกัน แต่หน้าตาไม่เหมือนกัน อีก 2 แบบ คือ บิวอิค อังกอร์ (BUICK ENCORE) ซึ่งเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นปีงูเล็ก กับ โอเพล มคคา (OPEL MOKKA) ซึ่งก็เป็นรถที่ทำขึ้นสำหรับตลาดยุโรปเช่นกัน เชฟโรเลต์ ทแรกซ์ อวดตัวต่อสายตาสาธารณชนแบบ PREMIERE MONDIAL หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีสครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนกันยายน 2012 และเริ่มจำหน่ายไปแล้วในหลายประเทศเมื่อฤดูใบไม้ผลิของปี 2013 คือ เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ตัวถังยาว 4.248 ม. กว้าง 1.766 ม. และสูง 1.674 ม. ที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.35-0.36 ไม่มีจุดโดดจุดเด่นอะไรทางกายภาพให้น่ากล่าวถึง นอกจากแผงกระจังหน้าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ที่บ่งบอกความเป็นรถ เชฟโรเลต์ ชัดเจน มีทั้งแบบขับล้อหน้า ขับทุกล้อ และมีเครื่องยนต์ให้เลือกรวม 3 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,364 ซีซี 103 กิโลวัตต์/140 แรงม้า ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 149 กรัม/กม. เครื่องเบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 85 กิโลวัตต์/115 แรงม้า ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 153 กรัม/กม. และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,686 ซีซี 96 กิโลวัตต์/130 แรงม้า ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 120 กรัม/กม. เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา และเพิ่มเป็น 139 กรัม/กม. เมื่อติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้า หรือทั้งคู่หน้าและคู่หลังแล้วแต่กรณี มี 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่น่าสังเกตก็คือ รถทุกรุ่นทุกคันที่ใช้เกียร์ธรรมดา จะติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์เมื่อรถหยุด (START-STOP SYSTEM) ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีไว้ด้วย