บริษัท สยามมิชลิน จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบประสิทธิภาพยางถึง 3 รุ่นพร้อมกัน ภายใต้แนวคิด BALANCE OF PERFORMANCE ณ สนามแข่งรถโบนันซา สปีดเวย์ และหนึ่งในนั้น คือ ยางสำหรับรถกระบะ หรือเอสยูวี ที่เน้นการใช้งานบนทางราบอย่าง มิเชอแลง ละติจูด ทัวร์ เอชพี (MICHELIN LATITUDE TOUR HP)

บริษัท สยามมิชลิน จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบประสิทธิภาพยางถึง 3 รุ่นพร้อมกัน ภายใต้แนวคิด BALANCE OF PERFORMANCE ณ สนามแข่งรถโบนันซา สปีดเวย์ และหนึ่งในนั้น คือ ยางสำหรับรถกระบะ หรือเอสยูวี ที่เน้นการใช้งานบนทางราบอย่าง มิเชอแลง ละติจูด ทัวร์ เอชพี (MICHELIN LATITUDE TOUR HP) เป็นยางสำหรับรถกระบะ หรือเอสยูวี ที่วิ่งบนทางเรียบ และใช้ความเร็วสูง ให้ความนุ่มเงียบเทียบเท่ายางรถเก๋ง ด้วยการออกแบบดอกยางยืดหยุ่น ซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เกาะถนนทั้งทางแห้ง และทางเปียก พร้อมเสริมบลอคยางแทรกระหว่างร่องยางของแต่ละส่วน เพื่อให้ยางไม่บิดตัวมากเกินไปขณะเข้าโค้ง และยังทำให้กระจายแรงกดอย่างทั่วถึง ลดการสึกหรอ เพิ่มอายุการใช้งานของเนื้อยางไปในตัว ในการทดสอบประสิทธิภาพดังกล่าว ผู้จัดเตรียมเส้นทางในสนามแข่งเหมือนตอนทดสอบยางสำหรับรถยนต์นั่ง มิเชอแลง พไรมาซี แอลซี (MICHELIN PRIMACY LC) ในส่วนแรก คือ การพิสูจน์ประสิทธิภาพการหมุน (ROLLING RESISTANCE) โดยดับเครื่องยนต์ แล้วปล่อยให้รถไหลลงเนินทางตรง ผลปรากฏว่ารถที่ใช้ยางรุ่น ละติจูด ทัวร์ เอชพี สามารถทำระยะทางได้มากกว่า แสดงให้เห็นคุณสมบัติด้านการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีกว่าเช่นกัน ถัดมา คือ การขับไปในสนามแข่งด้วยรถกระบะ โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก ผู้จัดตระเตรียมสภาพเส้นทางต่างๆ ไว้หลากหลาย เริ่มด้วยการเข้าโค้งในทางเปียก เมื่อเปรียบเทียบกับยางของคู่แข่ง (ขับ 2 คันก่อน/หลังตามลำดับทีละคัน) เรารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการควบคุมทิศทางของ ละติจูด ทัวร์ เอชพี มีความมั่นคงในโค้ง แทบไม่มีอาการท้ายปัดให้เห็น และดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เมื่อแล่นผ่านเชือกที่ขึงบนพื้น ขณะทำสลาลอมก็บังคับควบคุมรถได้ง่าย ไม่มีอาการเหวี่ยงแต่อย่างใด สุดท้าย คือ การเบรคบนทางเปียก ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. จนกระทั่งหยุดสนิท ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยของสื่อมวลชนที่เข้าร่วมการทดสอบ ปรากฏว่า ยางของ มิเชอแลง ละติจูด มีระยะเบรคสั้นกว่าของคู่แข่งร่วม 4 ม. การทดสอบช่วงสุดท้าย ลุยโหดกับ มิเชอแลง ละติจูด ครอสส์ (MICHELIN LATITUDE CROSS) ออกแบบดอกยางแบบ “MUD CATCHER” วางตัวเหลื่อมกัน ให้แรงตะกุยที่ดีบนพื้นดินนุ่ม และทางลาดชัน ออกแบบขอบของดอกยางแบบ “BITING EDGE” ให้การยึดเกาะดีบนพื้นผิวที่ลื่น ผสมผสานคุณสมบัติความนุ่มเงียบ ด้วยดอกยางที่โค้งมน แต่มีขนาดแตกต่างกันอย่างเหมาะสม ให้เสียงรบกวนต่ำ การทดสอบประสิทธิภาพของยางรุ่นนี้เปลี่ยนสถานที่จากทางเรียบในสนามแข่ง มาเป็นสนามทางฝุ่นขนาดย่อมกับรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ 4x2 รุ่นล่าสุด แม้ไม่ได้มีการทดสอบเปรียบเทียบกับยางของคู่แข่ง แต่จากการขับลุยบนทางฝุ่นที่ค่อนข้างลื่น และเต็มไปด้วยโค้งมุมแคบ ตัวรถมีอาการท้ายปัดน้อยมาก แรงตะกุยดี ขับเคลื่อนไปตามเส้นทางได้อย่างไม่ยากเย็น เหมาะสมกับการใช้งานบนทางวิบากไม่น้อย ใครที่อยากควบกระบะคู่ใจ ขับสนุกบนทางฝุ่น ยางรุ่นนี้มีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก หลังเสร็จสิ้นการทดสอบ เรามีความเห็นว่า มิเชอแลง สามารถผสมผสานคุณสมบัติด้านการยึดเกาะถนน และความนุ่มเงียบให้กับยางสำหรับรถกระบะ และเอสยูวี ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง ละติจูด ทัวร์ เอชพี รวมไปถึง ละติจูด ครอสส์ ฉีกกฎเกณฑ์ดั้งเดิมที่ว่ายางประเภทนี้ต้องเน้นความแข็งแกร่งเพียงด้านเดียว จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับขาลุย ที่ต้องการความหลากหลายในการใช้งาน