SOUL SURFER
"สิ่งที่สวยงามกว่าความสมบูรณ์แบบ"
ย้อนไปเมื่อปี 2004 วันที่สึนามิพัดพาคลื่นยักษ์เข้าประเทศไทย สาวน้อย เบธานี เฮมิลทัน หอบร่างกายและหัวใจที่บอบช้ำจากการถูกฉลามทำร้ายมาช่วย
เหลือคนที่ภูเก็ต กัดเดียวของมันทำให้เธอเจ็บปวดปางตายเสียเลือดไปมาก แต่สุดท้ายเธอก็รอดมาได้พร้อมแขนที่เหลือข้างเดียว
เบธานี มีความมุ่งมั่นตั้งแต่เยาว์วัยว่าจะต้องเป็นนักโต้คลื่นมืออาชีพ เธอทำผลงานได้ดีเหนือคู่แข่ง อะไรบางอย่างในตัวบอกเธอว่าคลื่นลูกไหนที่คู่ควรต่อ
การโต้ และคลื่นลูกไหนที่ควรค่าแก่การขึ้นไปสู่ยอดของมัน แล้วในที่สุดเธอก็ชนะในระดับภูมิภาค ด้วยความที่สาวและสวย สปอนเซอร์จึงรี่เข้ามาทันที
แต่ชะตากรรมไม่นำพาง่ายๆ จู่ๆ ฉลามตัวโตก็กัดแขนเธอขาดในชายฝั่งที่เธอคุ้นเคยบนเกาะฮาวาย ความท้อแท้สิ้นหวัง ความเศร้าโศกเสียใจ ความรู้สึกถึง
คำถามที่ว่าทำไมและทำไม ถูกส่งผ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยคนรอบข้าง พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงที่คบหากันมาตั้งแต่เด็ก ต่างก็ชอคและล้วนทำตัวไม่ถูก
ในตอนนี้หนังแสดงให้เห็นว่า พวกเขาอ่อนแอกว่าคนที่โดนเสียอีก
พอ เบธานี กลับมาบ้านพร้อมแขนข้างเดียว ชีวิตก็ถูกต้อนรับโดยสื่อที่จ่อรุมอยู่หน้าบ้าน ทั้งไมค์ ทั้งกล้องล้วนจับจ้องอยู่ที่สาวแขนเดียว แต่ เบธานี ก็รอดมา
ได้ เธอค่อยๆ เก็บงำความเจ็บช้ำเอาไว้ คำแรกที่เธอเอ่ยก็คือ เมื่อไรจะได้ลงน้ำอีกครั้ง...ความฝันยังไม่ดับสูญ
เบธานี เริ่มปรับตัวบนกระดาน เธอหล่น เธอจม เธอล้ม แต่เธอไม่เลิก จากวันที่แค่พายตัวเองออกไปทะเลยังลำบาก เธอก้าวเข้ามาแข่งในระดับภูมิภาคอีกครั้ง
แต่เธอแพ้ และเป็นแพ้ที่ทำให้เธอถึงกับเลิกล้มความตั้งใจ ไม่นานเธอก็เข้าร่วมกับ WORLD VISION อาสามาเยียวยาผู้ประสบภัยสึนามิถล่มในเมืองไทย
ตอนนั้นเองที่เธอรู้ว่า เด็กไทยไม่ควรกลัวน้ำ เธอจับกระดานโต้คลื่นด้วยมือข้างเดียว แล้วชักชวนเด็กๆ เหล่านั้นลงเล่นน้ำด้วยกัน และนั่นคือ วินาทีที่เธอรู้ว่า
เธอเองก็ไม่ควรกลัวว่าฝันจะไม่เป็นจริง
นี่คือเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นจริงๆ บนโลกใบนี้ ที่ความยุติธรรมไม่เคยมีจริง คน 2 แขนแค่ว่ายน้ำทะเลให้ได้ยังยาก แต่เด็กสาวแขนเดียวคนนี้
บอกโลกว่า เธอจะไม่มีทางยอมแพ้ สิ่งเดียวที่เธอกลัวก็คือ การไม่ได้ทำตามความฝัน ในขณะที่ยังมีความเป็นไปได้ หนังจึงเรียกน้ำตาฉากแล้วฉากเล่า แต่นี่
ก็คือหนังที่ดูสนุกตามสไตล์หนังที่มีลูกส่งลูกผ่อนและลูกกระแทกใจ
ในฉากหนึ่งเธอบอกพ่อของเธอระหว่างการฝึกซ้อมว่า 'หนูไม่ต้องการความง่าย ขอแค่ความเป็นไปได้ก็พอ' และนั่นเป็นฉากที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัว
เองบ้าง ในชีวิตคนเราหลายครั้งเจอแต่เรื่องร้ายๆ ได้แต่ถามโลกว่าทำไมต้องเป็นเรา
แต่สำหรับคำตอบจากหนังเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นจากรอยยิ้มเล็กๆ ของเด็กสาวแขนเดียว รอยยิ้มนั้นบอกเราว่ามันช่างสวยงามกว่าท้องฟ้าที่ฮาวาย หาดทรายที่
ภูเก็ต...และมันคงไม่เกินเลยหากจะบอกว่า มันเป็นรอยยิ้มที่สวยงามกว่าทุกความสมบูรณ์แบบใดๆ
TROLL HUNTER�
"สารคดีคนล่ายักษ์จากสแกนดิเนเวียน"
ทโรลล์ คือยักษ์ชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำแถบยุโรปตอนเหนือ ยามค่ำคืนแห่งดินแดนที่มีแสงสว่างจากพระอาทิตย์เที่ยงคืน ในเวลานั้น ทโรลล์จะปรากฏกายขึ้น
พร้อมเสียงโหยไห้คร่ำครวญ ว่ากันว่าพวกมันร้องเพราะสูญเสียอาณาเขตให้แก่เหล่าทวยเทพในตำนานปรัมปราทั้งหลาย
ทโรลล์ ในเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมา มีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็กหัวเดียวและหลายหัว พวกมันมีนิสัยดุร้าย เจอใครก็ฆ่า บางพันธุ์ก็ตีกันเอง สิ่งที่
ทโรลล์ กลัวก็คือ แสงจากดวงอาทิตย์ เพราะเมื่อมันถูกแสงมันจะกลายเป็นหินในทันที บางคนจึงกล่าวว่า ที่สแกนดิเนเวียเต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลก
ประหลาดนั้นก็เพราะเหตุนี้เอง
แต่ในความเป็นจริงที่หนังเรื่องนี้พยายามนำเสนอก็คือ พวกมันมีปัญหาในการย่อยวิตามินดีในแสงแดด หนังบอกง่ายๆ ว่า ถ้าพวกมันได้รับแสงยูวี พวกมันก็
จะกระเพาะคราก เนื่องจากวิตามินดีที่มาพร้อมกับแสงดวงอาทิตย์ไม่ย่อย นั่นเองที่เป็นจุดอ่อนของพวกมัน
รัฐบาลนอร์เวย์รู้เรื่องนี้ดี และทำการปกปิดความจริงมานานมาก พวกเขาสร้างเรื่องอำพรางต่างๆ นานา นักท่องเที่ยวหายไป เจออีกทีก็ปิดคดีว่าถูกหมีกิน
ต้นไม้พังเป็นแถบก็บอกว่าเป็นเพราะพายุ พยายามซ่อนความจริงทุกทางไม่ให้ประชาชนแตกตื่น และทำถึงขนาดที่ว่า สร้างสายไฟฟ้าแรงสูงกักกันอาณาเขต
ของ ทโรลล์ แล้วแต่งตั้งคนขึ้นมาไล่ล่า ทโรลล์ ที่หลุดรอดออกมาโดยเฉพาะ
หนังเริ่มเรื่องด้วยการเกริ่นนำว่า จู่ๆ ก็มีมือดีส่ง 'ฟุเทจ' (ภาพและเสียงที่บันทึกไว้ โดยยังไม่ได้ทำการตัดต่อหรือแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเป็นไฟล์ก็ต้องบอกว่าเป็น
ไฟล์ดิบ ถ่ายมายังไงก็เป็นยังงั้น)
ฟุเทจ ที่ว่านี้มีความยาวกว่า 300 นาที หนังบอกว่ามาจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ทีมงานจึงได้ทำการตัดต่อและเรียงลำดับตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง โดยไม่ได้
แต่งภาพใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้ส่งทีมงานออกไปตรวจสอบความจริงที่เห็นในฟุเทจด้วย
ภาพที่เราได้รับชมจึงเป็นภาพจริงกึ่งสารคดี ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กมหาวิทยาลัย 3 คน พวกเขาตามรอยหมีจนมาเจอกับนักล่าหมี แล้วก็ได้มาเจอกับ '
ฮานส์' นักล่า ทโรลล์ อาวุธของ ฮานส์ ก็คือ ไฟฉายประยุกต์ขนาดยักษ์ ซึ่งจะปล่อยลำแสงยูวี เพื่อทำให้ ทโรลล์กลายเป็นหิน แล้วเขาก็จะระเบิดหินนั้นให้
กลายเป็นก้อนหินเล็กๆ จากนั้นจึงค่อยเรียกหน่วยสร้างภาพลวงมาตกแต่งสถานที่ ให้ดูว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติอีกที
หนังสัญชาตินอร์เวย์เรื่องนี้ได้อารมณ์ประมาณ THE BLAIR WITCH PROJECT ที่เคยโด่งดังเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เพราะหยิบเอาภาพดิบๆ มาขึ้นจอ โดยกุว่า
มาจากเรื่องจริง แต่ที่แตกต่างก็คือ ความเป็นดาร์คแฟนทาซี มียักษ์มีคนล่ายักษ์ ซึ่งแม้นักศึกษามหาวิทยาลัยจะบอกว่า ฮานส์ เป็นฮีโร แต่เขาเองกลับ
บอกว่านี่มันก็แค่งานขยะ แถมบางช่วงเขายังเปิดเผยถึง 'การสังหารหมู่' ทโรลล์ อย่างเลือดเย็นด้วย
และหนังจากนอร์เวย์เรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จ จนได้รับการรีเมคใหม่อีกครั้ง โดยทีมสร้างจากฮอลลีวูดแล้ว...
ศิลปิน : BIRDY
อัลบัม : BIRDY
แนวดนตรี : PIANO POP
"เมื่อเพลงรอคถูกจับใส่ผ้าชีฟอง"
เด็กสาวอายุ 15 ปี มีผลงานแรกเริ่มกับอัลบัมเต็มชื่อเหมือนตนเองว่า 'BIRDY ' งานชุดนี้ปล่อยออกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนสิ้นปี 2011 และเป็นผลงานที่
สร้างชื่อให้เธอพุ่งขึ้นไปสู่จุดสนใจ
ในสัปดาห์แรกสามารถขึ้นไปติดชาร์ท UK TOP 40 ALBUMS ในอันดับที่ 13 เป็นรองวงดังระดับโลกอย่าง COLDPLAY, ADELE, NOEL GALLAGHER,
BRUNO MARS และ MICHAEL BUBLE ซึ่งล้วนอยู่ในระดับแถวหน้า
ว่ากันแบบเข้าข้างเด็ก หลายอัลบัมที่อยู่เหนือเธอขึ้นไปล้วนมาจากศิลปินที่มีแฟนเหนียวแน่น ทั้งยังเก่าและเก๋าประสบการณ์ ขยับตัวทีก็มีคนแห่แหนรายล้อม
รอจะฟัง การติดชาร์ทของพวกเขาในวันนี้ จึงเทียบไม่ได้เลยกับการติดชาร์ทของสาวน้อยวัยแรกแย้ม ซึ่งเพิ่งจะผ่านการเป็นเด็กหญิงมาได้ไม่กี่เดือน
วัยเด็กของ BIRDY เธอมีแม่ซึ่งเป็นนักเพียโนคอนเสิร์ทช่วยกล่อมเกลาความสามารถทางดนตรี อายุ 6 ปีก็เล่นเพียโนได้ พอ 7 ปี ก็แต่งเพลงเป็น ในขณะที่
เธอเรียนที่โรงเรียนเล็กๆ ของรัฐ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการแสดงและเชี่ยวชาญทางด้านทัศนศิลป์
พออายุ 12 ก็เข้าประกวด UK TALENT CONTEST และอีกหนึ่งรายการเล็กๆ ซึ่งก็ปรากฏว่าได้รับชัยชนะเหนือผู้เข้าแข่งขันอีกกว่าหมื่นรายในรุ่นอายุต่ำกว่า
18 ปี จากนั้นก็ถูกเชิญให้ไปเซ็นสัญญาเข้าสังกัด 14th FLOOR RECORDS โดย CHRISTIAN TATTERSFIELD แชร์แมน และ ซีอีโอ ของ WARNER
MUSIC UK
อัลบัมนี้เริ่มรังสรรค์ขึ้นเมื่อเธออายุ 14 โดยนำเพลง SKINNY LOVE ของโฟล์ครอคอเมริกัน ซึ่งไปโด่งดังในอังกฤษมาคัฟเวอร์ใหม่ ถ่ายทอดบทเพลงจาก
เสียงผู้ชายแหบแห้งกับเสียงกีตาร์หม่นมัว ให้กลายเป็นรักบางเบาในแบบฉบับของเด็กสาวเสียงใส แต่ทว่าหนักแน่นทุกถ้อยกระบวนความ เคล้าคลอไปกับ
เสียงเดี่ยวเพียโน ซึ่งเธอบรรจงพรมนิ้วเล่นอย่างลงตัว
ต้องบอกว่าแม้เสียงร้องของเธอจะค่อนข้างไร้เสน่ห์ ฟังแล้วจืดเจื่อนดื่นดาษ แต่การตีความแล้วส่งผ่านความรู้สึกนั้นออกมา เธอทำได้อย่างน่าสนใจและน่า
ให้กำลังใจ
เช่นเดียวกับอีกเพลงซึ่งนำมาคัฟเวอร์ใหม่ 'PEOPLE HELP THE PLEPLE' ของวงอินดีรอค CHERRY GHOST เธอถ่ายทอดความอาดูรของมนุษย์ที่มีต่อ
มนุษย์ด้วยความซาบซึ้ง จากของเดิมที่เป็นพอพรอคกร้าวกล้าช้าเนิบนาบ กลายมาเป็นมหากาพย์ขนาดสั้น คล้ายว่าเป็นอารมณ์เมื่อฟัง SOMEONE LIKE
YOU ของ เอเดล และก็คล้ายว่าฟังเรื่องราวในเพลง IMAGINE ของ เลนนอน
อีกหลายเพลงในอัลบัมนี้ก็เป็นบทเพลงที่ได้รับการตีความขึ้นใหม่ทั้งหมด ในนามของการคัฟเวอร์แบบถอนรากถอนโคน แต่คงไว้ซึ่งการรักษาน้ำจิตน้ำใจ
และเนื้อแท้แห่งวิญญาณของต้นฉบับ
บางเพลงมาจากวงรอคดำมืด บางเพลงมาจากวงแปลกที่ดังเงียบในเฉพาะกลุ่มคนฟังเล็กๆ แต่ทุกเพลงก็ถูกนำมาถอดความให้เหลือเพียงสารัตถะจริงแท้
จากนั้นก็ปล่อยให้สาวน้อย BIRDY ได้เลือกสรรอาภรณ์เรียบง่าย สวมใส่ให้เข้ากับความเป็นสาวน้อยนักเพียโนอย่างเธอ
ศิลปิน : NOEL GALLAGHER'S HIGH FLYING BIRDS
อัลบัม : NOEL GALLAGHER'S HIGH FLYING BIRDS
แนวดนตรี : BRIT ROCK
"NEW BAND, NEW SONG AND NEW STADIUM!"
NOEL GALLAGHER คือสมาชิกระดับมันสมอง และกระดูกสันหลังของวง โอเอซิส วงที่เคยยิ่งใหญ่และกร่างสุดในทศวรรษที่ผ่านมาของอังกฤษ ก่อนที่จะ
มีวงอย่าง ทราวิส คีน หรือ โคลด์เพลย์ ขารอคยุค 90 ทุกคนย่อมต้องรู้จักเสียงร้องยานคางและลีลาอันยียวนของวงนี้ (ซึ่งมี เลียม กาลาเกอร์ น้องชายของ
เขาเป็นคนร้องและคนที่คอยสร้างข่าวกวนชาวบ้าน)
NOEL ในวงโอเอซิส เขาเป็นทั้งมือกีตาร์และผู้แต่งเพลง เพลงเด่นๆ ของ โอเอซิส หลายต่อหลายเพลงมีเขาอยู่เบื้องหลังแทบทั้งสิ้น เพลงเขาแต่งเองก็เช่น
LIVE FOREVER และ DON'T LOOK BACK IN ANGER ซึ่งล้วนพูดถึงชีวิตและมุมมองต่อโลกในแง่ดี
กระนั้นก็ตามเขาและน้องชายผู้เป็นดาวเด่นของวง ก็มักจะมีปากเสียงและความเห็นไม่ลงรอยกันอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งโอเอซิสก็เดินทางลงมาจากยอด
หออันสูงสุด สู่จุดแตกหักที่จะไมjมีคำว่าวงโอเอซิสอีกต่อไป
NOEL ประกาศแยกตัวออกจากวงด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่สามารถร่วมงานกับน้องชายได้อีกแล้ว และนั่นต้องถือเป็นจุดเริ่มของรอยร้าวที่ทำให้วงโอเอซิสไม่มี
อีกต่อไป เพราะภายหลังสมาชิกแต่ละคนแยกตัวออกไปทำวงใหม่ ชื่อวงโอเอซิสกลายเป็นวงหนึ่งในตำนานที่จบลงอย่างเศร้าๆ
หลังจากประกาศลาออกเพียงไม่กี่เดือน NOEL ก็ขึ้นเล่นคอนเสิร์ทที่ไม่มีโอเอซิสอีกครั้งในปี 2010 โดยมีเพื่อนพ้องในวงการหลายคน และหลายวงมาร่วม
แจมด้วย หลายเพลงที่เขาแต่งให้กับโอเอซิสถูกเล่นอย่างง่ายๆ ด้วยกีตาร์โปร่งตามแบบฉบับของเขา และนั่นกลายเป็นข้อดีของคนที่เบื่อสุดแสนจะเบื่อ เสียง
ยานย้วยของ เลียม น้องชายเจ้าปัญหาของเขา
NOEL ในวันนี้มีอายุ 44 ปี เขากลายเป็นนักดนตรีที่อยู่ในความสนใจของคนหมู่มากอีกครั้ง ไม่ใช่แค่แฟนเก่าของโอเอซิส แต่เป็นกลุ่มผู้ฟังที่แผ่กว้างขึ้น
มากกว่าเดิม แน่นอนว่าบางคนถามถึงสไตล์เดิมของวงโอเอซิส แต่หลายคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า โอเอซิสก็คือ NOEL
NOEL GALLAGHER'S HIGH FLYING BIRDS ถือเป็นอัลบัมปลดเปลื้องความขุ่นมัวอันยิ่งใหญ่ออกจากอกของ NOEL เพลงหลายเพลงของเขาให้
อารมณ์ของคนที่ผ่านโลกมามาก แต่ทว่ายังคงไว้ซึ่งมุมมองต่อชีวิตที่ดีและจะต้องก้าวต่อไป ในเกือบหนึ่งชั่วโมงของอัลบัมจึงมากด้วยลีลาที่ผ่านการกลั่น
กรองจากประสบการณ์อันเชี่ยวกราก
เพลงของเขามีทั้งบริทรอคและบริทพอพ รวมถึงจังหวะที่เขาเคยทดลองทำในสไตล์ดรัมแอนด์เบสส์ ที่รวบรัดและค่อนข้างอึกทึก (อย่างเบาๆ) ก็ถูกนำมาใส่
ในอัลบัมนี้
EVERYBODY'S ON THE RUN คือ เพลงแรกที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ด้วยเครื่องสายหลายสิบชิ้นอินทโรขึ้นมาปูทางให้กับเสียงร้องหยาบกร้านของ
NOEL แล้วหวนให้นึกถึงบางช่วงอันรุ่งโรจน์ของบริทพอพท ศวรรษก่อนหน้า ซึ่งมักจะใช้เครื่องสายห่มคลุมบรรยากาศ คล้ายกับการเดินเท้าเข้าสู่ เวมบลีย์
สเตเดียมท่ามกลางแฟนบอลหลายหมื่น และแน่นอนมันเป็น เวมบลีย์เก่า ก่อนที่จะถูกทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่อย่างยิ่งใหญ่ยืนยงในวันนี้!
เรื่องโดย : ปัญญ์ carstereo@autoinfo.co.th
นิตยสาร Carstereo ฉบับเดือน มกราคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : คอลัมน์ประจำ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/30333