X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
16 Feb 2012
สปอร์ทพันธุ์กระทิงวิ่งสู้ฟัด
ว่ากันว่าในบรรดาผู้ผลิตรถสปอร์ทระดับ "ซูเพอร์คาร์" ที่มีอยู่ไม่กี่เจ้านั้น มีอยู่เพียงเจ้าเดียวที่สู้กันได้สบายมากกับเจ้ายุทธจักรอย่าง แฟร์รารี (FERRARI) ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า "ม้าลำพอง" ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ก็คือ ลัมโบร์กินี (LAMBORGHINI) ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า "กระทิงดุ" ที่สู้ไม่ได้ก็คือ ความหลากหลายของสินค้าที่นำออกสู่ตลาด ในขณะที่ค่าย "ม้าลำพอง" มีรถสปอร์ทให้ลูกค้าเงินถุงเงินถังสตางค์เต็มกระเป๋าเลือกซื้อเลือกใช้ ชนิดนับไม่ถ้วนด้วยนิ้วมือเพียงข้างเดียว ค่าย "กระทิงดุ" กลับมีรถอยู่ในตลาดเพียง 2 แบบ คือ ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ (LAMBORGHINI AVENTADOR) กับ ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด (LAMBORGHINI GALLARDO) แบบแรกเป็นรถที่เพิ่งออกตลาดเมื่อตอนต้นปีกระต่าย แทนที่รถ ลัมโบร์กินี มูร์ซีเอลาโก (LAMBORGHINI MURCIELAGO) ส่วนแบบหลังอยู่ในตลาดมานมนานและใกล้เวลาที่สมควรจะเปลี่ยนรุ่นแล้ว ด้วยเหตุที่กำลังจะถึงเวลาของรถรุ่นใหม่นี่เอง เพื่อไม่ให้ยอดขายหยุดนิ่ง เหมือนยอดผลิตรถในเมืองไทยตอนน้ำท่วม ค่าย "กระทิงดุ" จึงทำรถ ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด โมเดลใหม่ๆ ออกมาล่อตาล่อใจคนรักรถสปอร์ทเงินถุงอยู่บ่อยๆ ตัวอย่าง คือ รถชื่อยาวกว่าคลองสามวา ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด แอลพี 570-4 ซูเพอร์ ตโรเฟโอ สตราดาเล (LAMBORGHINI GALLARDO LP 570-4 SUPER TROFEO STRADALE) ที่ "ระเบียงรถใหม่" เลือกมาให้ชื่นชมกันในเดือนนี้ เป็น ROAD CAR หรือรถสำหรับวิ่งตามท้องถนน ไม่ใช่วิ่งในสนามแข่ง ที่พัฒนาจาก ลัมโบร์กินี บลองก์แปง ซูเพอร์ ตโรเฟโอ (LAMBORGHINI BLANCPAIN SUPER TROFEO) ซึ่งเป็นรถที่ทำขึ้นสำหรับการแข่งขัน LAMBORGHINI BLANCPAIN SUPER TROFEO CHAMPIONSHIP อันเป็นการแข่งรถอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า SINGLE-BRAND RACING SERIES เพียงรายการเดียวเท่านั้นในโลกที่เต็มไปด้วยน้ำนี้ ที่รถแข่งทุกคันล้วนเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ เช่นเดียวกับรถ ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด ที่เคยเห็นกันมาก่อนแล้วทุกโมเดล รถโมเดลใหม่ล่าสุดซึ่งจะจำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 150 คันนี้ เป็นรถตัวถังอลูมิเนียมล้วน โครงตัวถังซึ่งออกแบบในลักษณะ SPACE FRAME หรือ "โครงอวกาศ" ทำจากอลูมิเนียม เปลือกตัวถังทุกชิ้นก็ทำจากอลูมิเนียม ยกเว้นชิ้นส่วนบางชิ้น ซึ่งมีจำนวนน้อยจนคิดเป็นเปอร์เซนต์แทบไม่ได้เท่านั้นที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งก็เป็นวัสดุมวลเบาเช่นเดียวกับอลูมิเนียม เป็นตัวถัง 2 ประตูคูเป 2 ที่นั่ง ยาว 4.386 ม. กว้าง 1.900 ม. และสูง 1.165 ม. ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 2.560 ม. และมีDRY WEIGHT หรือน้ำหนักรถเปล่า 1,340 กก. ขุมพลังที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ฝากระโปรงหลัง เป็นเครื่องยนต์ที่ยกทั้งบลอคจากรถแข่งที่กล่าวข้างต้น โดยไม่มีการแต่งเติมใดๆ คือ เครื่องฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 10 สูบ 90 องศา 40 วาล์ว ความจุ 5,204 ซีซี วางเครื่องกลางลำตามยาว ให้กำลังสูงสุด 419 กิโลวัตต์/570 แรงม้า ที่ 8,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 540 นิวตัน-เมตร/55.1 กก.-ม. ที่ 6,500 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้า และคู่หลังผ่านระบบขับทุกล้อถาวรแบบใช้คลัทช์ความหนืด (VISCOUS COUPLING) เป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งมีแป้นเปลี่ยนจังหวะเกียร์ติดตั้งอยู่กับแกนพวงมาลัย เพื่อให้สมกับเป็นรถผลิตจำนวนจำกัด ซึ่งคาดหมายได้ว่า ในอนาคตจะกลายเป็นรถหายากและควรค่ากับการสะสม ถ้าผู้ซื้อไม่ได้แจ้งความจำนงเป็นพิเศษ รถทุกคันจะเคลือบสีแดง ที่เรียกกันในภาษาของคนชอบกินมะกะโรนีว่า ROSSO MARS ทำไมจึงเลือกสีนี้ ? ก็ต้องมองย้อนไปจนถึงตอนต้นของศตวรรษแห่งปี 1900 ในยุคนั้นรถแข่งจะทำสีรถตามสัญชาติของผู้ขับ คือ รถของคนอังกฤษใช้สีเขียวเข้ม ของคนฝรั่งเศสใช้สีฟ้า ของคนเยอรมันใช้สีขาวและเปลี่ยนเป็นสีเงินในภายหลัง ของคนอเมริกันใช้สีขาวคาดแถบสีน้ำเงิน ส่วนของคนอิตาลี คือ สีแดง อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าตัวถังของรถสปอร์ทโมเดลพิเศษนี้ จะเป็นสีแดงล้วนทุกๆ ตารางนิ้ว มีอยู่หลายจุดที่เป็นสีดำอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MATTE BLACK เช่น สปอยเลอร์ท้ายขนาดโต และช่องดักลมหน้า ภายในห้องโดยสารที่ผู้ขับพาเพื่อนไปได้แค่คนเดียวก็ตกแต่งด้วยสีแดง และสีดำเพื่อให้รับกับสีของตัวถังภายนอก สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของค่าย "กระทิงดุ" อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.4 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 10.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ระดับ 320 กม./ชม. ตัวเลขที่เจ้าของรถระดับนี้คงไม่ใส่ใจสักเท่าไร ไม่บอกก็คงไม่เสียหายอะไร แต่บอกไว้หน่อยก็น่าจะดี คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงซึ่งมีค่าเฉลี่ย 13.5 ลิตร/100 กม. หรือ 7.4 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ย 319 กรัม/กม. ส่วนสนนราคาค่าตัวที่ซื้อขายกันในเมืองมะกะโรนี คือ 228,800 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 9.6 ล้านบาทไทย อย่าลองของรถสองสัญชาติ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/30090
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th