X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
3 Feb 2010
รถเล็กๆ ที่น่าลองลิ้ม
ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซีตรอง (CITROEN) ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าของเครื่องหมายการค้า "จ่าโท" นำรถตลาดออกอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกรวม 2 แบบ และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ ซีตรอง เซ ตรัวส์ (CITROEN C3) รถยนต์นั่งขนาดเล็ก อย่างที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า SUPERMINI CAR ค่าย "จ่าโท" นำรถ ซีตรอง เซ ตรัวส์ ออกจำหน่ายในเมืองน้ำหอมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2002 รถรุ่นดังกล่าวมีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ยาว 3.860 ม.กว้าง 1.667 ม.และสูง 1.51 ม. รูปทรงองค์เอวตัวถังมีลักษณะ"กลมไปทั้งคัน" เป็นบุคลิกเฉพาะตัวที่เห็นที่ไหนใครๆ ก็รู้ว่านี่คือ ซีตรอง เซ ตรัวส์ ค่าย "จ่าโท" ได้ทั้งเงิน และกล่องจากรุ่นดังกล่าว ในช่วงเวลา 7 ปีเศษที่อยู่ในสายการผลิตของเมืองน้ำหอม ซีตรอง เซ ตรัวส์ สามารถทำยอดขายในตลาดทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคัน รถรุ่นที่ 2 ที่เห็นอยู่นี้ ยังคงมีตัวถังให้เลือกใช้เพียงแบบเดียวเหมือนรถรุ่นเดิม เป็นตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ที่มีขนาดโตกว่ารถรุ่นเดิมเล็กน้อยในทุกๆ มิติ คือ ยาว 3.940 ม. กว้าง 1.730 ม. และสูง 1.520 ม. รูปทรงองค์เอวของตัวถังซึ่งออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศอยู่ที่ระดับ 0.30 เป็นผลงานรังสรรค์ในลักษณะที่กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "อนุรักษนิยม" เพราะมองมุมไหนใครๆ ก็จำได้ นี่คือ ซีตรอง เซ ตรัวส์ นับเป็นรถแบบแรกในประวัติศาสตร์ของค่าย เปอโฌต์-ซีตรอง (PEUGEOT-CITROEN) ที่ออกแบบและพัฒนาโดยไม่จำเป็นต้องสร้างรถต้นแบบ หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า PROTOTYPE ขึ้นก่อน "งานส่วนใหญ่ทำด้วยคอมพิวเตอร์ รถคันแรกที่เราทดสอบเป็นรถอย่างที่เรียกกันว่า PRE-PRODUCTION CAR ที่ผลิตด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการผลิตรถตัวจริง เป็นวิธีการใหม่ที่ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก" ปิแอร์ร์ บูดาร์ (PIERRE BUDAR) ผู้รับผิดชอบโครงการผลิตรถรุ่นนี้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว แม้ว่ามีขนาดโตกว่ารถรุ่นเดิมในทุกมิติดังกล่าวข้างต้น แต่ตัวถังเปล่าของรถรุ่นใหม่นี้กลับเบากว่ารถรุ่นเดิมประมาณ 50 กก. ทั้งนี้เป็นผลลัพธ์จากความพยายามที่จะลดน้ำหนักในทุกๆ จุด และทุกชิ้นส่วนที่สามารถทำได้ และจำนวนชิ้นส่วนที่ใช้ก็ลดลงด้วยเช่นกัน รถพวงมาลัยขวามีกำหนดออกจำหน่ายในตลาดอังกฤษตอนต้นปี 2010 ส่วนรถพวงมาลัยว้ายเริ่มจำหน่ายในเมืองน้ำหอมไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้อย่างจุใจถึง 7 ขนาด มีทั้งเครื่องเบนซิน และเครื่องดีเซล เครื่องเบนซินซึ่งมีอยู่รวม 4 ขนาด ประกอบด้วย เครื่อง SOHC 4 สูบเรียง 1,124 ซีซี 61 แรงม้า-เครื่อง SOHC 4 สูบเรียง 1,360 ซีซี 75 แรงม้า-เครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1,397 ซีซี 95 แรงม้า-และเครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 120 แรงม้า โดยที่เครื่องยนต์ 3 ขนาดแรกมีระบบเกียร์เพียงแบบเดียว คือ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แต่เครื่องสุดท้าย สามารถเลือกได้ ระหว่างเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วนเครื่องดีเซลซึ่งมีอยู่ 3 ขนาด ประกอบด้วย เครื่องเทอร์โบฉีดตรง SOHC 4 สูบเรียง 1,398 ซีซี 70 แรงม้า-เครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,560 ซีซี 90 แรงม้า-และเครื่องเทอร์โบฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,560 ซีซี 110 แรงม้า โดยที่ 2 เครื่องแรกทำงานร่วมกับระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ส่วนเครื่องสุดท้ายใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เครื่องยนต์ทั้ง 7 ขนาดดังกล่าวข้างต้น เป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยให้ความใส่ใจเป็นพิเศษกับปริมาณไอพิษ เครื่องยนต์ดีเซลทั้ง 3 ขนาด มีอัตราการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 118 กรัม/กม. และมีบางขนาดที่ทำได้ต่ำถึงระดับ 99 กรัม/กม. ส่วนเครื่องเบนซิน 4 ขนาด มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่าง 134 ถึง 160 กรัม/กม. ที่น่าติดตาม ก็คือ ค่าย "จ่าโท" บอกว่า ในปี 2011 ซีตรอง เซ ตรัวส์ รุ่นใหม่นี้ จะมีเครื่องยนต์ดีเซลที่ประหยัดเชื้อเพลิงเป็นพิเศษ เพราะติดตั้งระบบ STOP & START SYSTEM และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แค่ 90 กรัม/กม.ให้เลือกใช้ด้วย ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน ที่จะมีให้เลือกใช้ด้วยเช่นกันก็คือ เครื่อง 3 สูบเรียง ที่มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 100 กรัม/กม.
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา chusak@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2553
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/28408
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th