ทั่วไป
ผู้เขียนคิดว่า วิถีชีวิตความเป็นคนไทยส่วนหนึ่งไม่พ้นประวัติความเป็นมาของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาของเรา โดยเฉพาะประวัติของแต่ละองค์ ได้เปิดเผยภาพอันกว้างไพศาลแห่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างชัดเจน
ผู้เขียนคิดว่า วิถีชีวิตความเป็นคนไทยส่วนหนึ่งไม่พ้นประวัติความเป็นมาของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาของเรา โดยเฉพาะประวัติของแต่ละองค์ ได้เปิดเผยภาพอันกว้างไพศาลแห่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างชัดเจน
ผู้เขียนมีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มาก จำได้เป็นอย่างดีว่าเล่มแรกที่ได้มาก็จากพวกที่ทำหนังสือพิมพ์รายวัน "เสียงอ่างทอง" สมัยอยู่ในซอยวรพงษ์ บางลำพู ชื่อหนังสือ "108 อาจารย์" จากการรวบรวมของ "จร จารึก"
หนึ่งในบรรดาพระเถระที่ผู้เขียนศรัทธาก็น่าจะเป็น พระราชนิโรธรังสี หรือหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แห่งวัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
ผู้เขียนได้มีโอกาสกราบนมัสการท่านที่วัดครั้งหนึ่ง และประทับใจเพราะเห็นเป็นครั้งแรกว่าภายในวัดของท่าน มีฝรั่งบรรพชาเป็นพระสงฆ์
หลวงปู่เทสก์ เกิดที่อุดร ฯ บ้านนาสีดา อำเภอบ้านผือ ชีวิตในวัยเด็กท่านก็เป็นเด็กไทยอีกคนห่างไกลต่อการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งขณะนั้นยังไปไม่ไกลปืนเที่ยงสักเท่าใดนักชีวิตส่วนใหญ่ของท่านจึงอยู่กับครอบครัว แต่ละปีเห็นแต่อาชีพการทำนา และการทำนาตามวิถีชีวิตความเป็นคนไทยก็ต้องพึ่งพาฝน เห็นฝนตกลงมาบ่อยขึ้นก็พอจะเห็นภาพในฉากต่อไปเป็นการลงมือเริ่มต้นทำนา
ดูเป็นภาพที่น่าเบื่อหน่าย และเหนื่อยยาก แต่กระนั้น เมืองไทยของเราก็ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ผักหญ้า และผลไม้ดาษดื่นไปทั่ว ความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวสอนให้คนไทยโบราณมองการทำงานหาเงินเป็นเรื่องไม่จำเป็น
ถือพร้าเข้าป่าไม่นาน ก็สามารถกลับออกมาพร้อมด้วยของกิน เหลือเฟือถึงขนาดแบ่งปันบริโภค 3 วัน 3 คืน ยังไม่หมดเกลี้ยง
หากจะพูดถึงความรักสามัคคีของคนในชุมชนบ้านนาสีดา ก็ยากจะเชื่อ เกิดขโมยชุมขึ้นมาครั้งใด ชาวบ้านก็จะรวมตัพร้อมใจกันจัดเวรยามประจำตลอดคืน ด้วยความสมัครใจ และเต็มใจ สุดยอดของการเกื้อกูล
เมื่อหลวงปู่เทสก์อายุ 16 ปี เจ้าคุณพระญาณวิศิษฎ์-พระอาจารย์สิงห์ ได้เดินรุกขมูลมาเป็นครั้งแรก อาพาธด้วยไข้มาลาเรีย เป็นโอกาสที่หลวงปู่เทสก์ได้เข้าปฏิบัติท่าน และได้ติดสอยห้อยตามอาจารย์สิงห์ต่อไปอีกหลายแห่ง เป็นไข้ระหว่างทางก็เข้าพักร่มไม้ สร่างไข้จึงเดินทางต่อจนถึงเมืองอุบล ฯ หลวงปู่เทสก์ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร
นี่ก็เป็นชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง เพียงไข้มาลาเรียก็เป็นเคสใหญ่ของคนเราแล้วในสมัยนั้น
ความอุดมสมบูรณ์ในพืชพันธุ์ธัญญาหาร ยังปลอดสารพิษนานา ผู้เขียนจำได้ว่าสมัยผู้เขียนวัยทีน ยังเดินเข้าไร่แตงกวาที่ปลูกเรี่ยราดทั่วไป เด็ดมาเคี้ยวกินได้เลย โดยไม่ต้องกลัวจะมีเชื้อไวรัสตกค้าง
แม้แต่ผลมะนาวตามต้น ก็ยังสามารถเด็ดมากัดครึ่งแล้วบีบน้ำใส่คออร่อยอย่าบอกใคร
หลวงปู่เทสก์ได้บวชเป็นพระเมื่อ 3 ปีต่อจากนั้น และได้ท่องไปในดินแดนต่างๆ ลัดป่าเขาดงเสือจนถึงเมืองอุดร ฯ
หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า
"วันหนึ่งเดินไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวนกลดนอนในป่า พอมืดค่ำลง มีฝนขนาดหนักตกลงมา โชคดีที่เราได้เตรียมปลดมุ้งเอาผ้าครองใส่บาตร แล้วเอากลดครอบตัวไว้ ฝนตกจนนอนไม่ได้ น้ำท่วมจนถึงที่นอน นั่งอยู่พักใหญ่ฝนจึงค่อยซาลง พระที่เป็นเพื่อนองค์หนึ่งซึ่งเขาเคยเดินรุกขมูลก่อนเราชวนว่า ไปเถอะเข้าไปในหมู่บ้าน"
การไปหมู่บ้านครั้งนั้น ยังหลงทางเดินอีกต่างหาก ต้องอาศัยเข็มทิศ จึงเข้าถึงวัดร้างแห่งหนึ่ง
ตากฝนทั้งคืน เช้าขึ้นมาก็ออกบิณฑบาตได้ข้าวเหนียวกับกล้วยน้ำว้าลูกหนึ่งมาฉัน
หลวงปู่เล่าว่า เหนื่อยก็เหนื่อย เพราะเดินทั้งวัน แต่ในวันต่อมาเป็นวันตรุษจีน ของทำบุญก็เหลือเฟือ พอมีเรี่ยวแรง (อนึ่ง-คำว่า "เรี่ยวแรง" ยังเป็นนามสกุลเดิมของหลวงปู่ด้วย)
เมื่อถึงบ้านค้อ จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่ได้พบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้ฟังธรรมอยู่ 3 คืน กลับไปบำเพ็ญภาวนาที่ บ้านหนองลาด อำเภอสว่างดินแดน จังหวัดสกลนคร
การบำเพ็ญภาวนาครั้งนั้น ทำความเพียรคืนยังรุ่ง ด้วยการฉันข้าวเหนียว โดยมีกับข้าวเพียง 2 ชนิด คือ พริกกับเกลือ ตลอด 3 เดือน
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ข้าวเหนียวกับพริกเกลือก็อยู่ได้แล้ว งานนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงคนใช้ในบ้านคนหนึ่ง เป็นแรงงานพม่า เห็นกินข้าวกับเกลือและพริก ผู้เขียนก็ตกใจ เพราะคิดไปว่า เราเลี้ยงดูเขาโหดเหี้ยมเกินไปล่ะหรือ
แต่สอบถามแม่บ้านดูแล้ว ไม่ใช่ หมูเห็ดเป็ดไก่มีครบ แต่เขาไม่ชอบและกินไม่อร่อยเท่าพริกกับเกลือ...เป็นงั้นไป...!
บิดาของหลวงปู่สิ้นไปอย่างสงบเมื่ออายุได้ 77 ปี ต่อจากนี้หลวงปู่ก็เริ่มอบรมสั่งสอนญาติโยมทั้งหลาย ให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัย
การเดินทางของหลวงปู่แวดล้อมอยู่กับความกันดาร ครั้งหนึ่งผ่านเข้าไปในหมู่บ้านที่มีเพียง 2 หลังคาเรือน เห็นแต่เด็ก ถามหาผู้ใหญ่ เด็กตอบว่า
ผู้ใหญ่ในบ้านเข้าป่ากันหมด ตัดใบตองมารีดมวนบุหรี่ขาย
หลวงปู่ถามหาข้าวสุกและขอแลกด้วยไม้ขีดไฟ 2 กลัก ได้ข้าวกับผักชะอมพร้อมน้ำพริก 1 กระติบ
ที่สุดก็ได้พบท่านพระอาจารย์มั่น อีกครั้งที่แม่ปั๋ง และได้ฟังธรรมในคืนนั้น ความที่เทศนามีว่า
"ลูกศิษย์ลูกหาของผมมีมาก ถ้าองค์ใดปฏิบัติตามที่ผมสอน คือ พิจารณากายคตาสติจนถึงเป็นธาตุ และสภาวะตามเป็นจริง องค์นั้นก็จะปฏิบัติได้โดยมั่นคง และเจริญงอกงามโดยลำดับ"
ด้วยอุบายธรรมเทศนานี้แหละ หลวงปู่เทสก์ก็ตั้งปณิธานแน่วแน่ ต่อนี้ไปจะพิจารณากายคตาสติทุกลมหายใจเข้า-ออกตลอดพรรษา
ในพรรษาต่อมาหลวงปู่ก็ไปจำพรรษาที่บ้านมูเซอร์ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นพระองค์แรกที่ไปจำพรรษา กุฎิไม่มี ชาวบ้านระดมคนมาทำให้ ชาวบ้านอดข้าวกันทั้งหมู่บ้านช่วยกันสร้างกุฏิ ทำเสร็จ ฝนก็เทลงมาขนาดหนัก แบบไม่เคยตกมาเลยเป็นเวลานานแล้ว เป็นผลให้ข้าวในนาของพวกเขาเจริญงอกงาม อิ่มหนำสำราญถ้วนหน้า
ที่นี่ หลวงปู่ก็แสดงธรรมเทศนาให้พวกเขาละเว้นอบายมุข นี่ก็แสดงว่า คนไทยกับอบายมุขเป็นของที่แยกจากกันลำบากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เพราะฉะนั้น หวยออนไลน์ หรือหวยบนดิน ก็ออกมาขายกันต่อไปเถอะอย่าทำจริตซ่อนเร้นไปเลย
เหตุที่หลวงปู่ยึดเอาวัดหินหมากเป้ง เป็นที่พักทำความเพียรภาวนาเป็นแหล่งสุดท้าย ก็เพราะท่านระลึกว่า ความสูงวัยได้มาหาท่านเป็นลำดับ การเดินรุกขมูลก็ปฏิบัติไปมากแล้ว เมื่อรู้สึกอิดโรยเหนื่อยล้าแก่ชราลง ท่านก็คิดถึงที่พัก ทำความเพียรภาวนาเป็นที่เป็นทาง
หลวงปู่เข้าไปอยู่ที่วัดหินหมากเป้ง หนองคาย ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2508 มีการพัฒนาวัดมากมายเป็นปี จนสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงยกย่องวัดหินหมากเป้งเป็น "วัดพัฒนาตัวอย่าง" ในปี 2523
ทั้งหมดนี้ เป็นประวัติบางช่วงตอนของหลวงปู่เทสก์ ซึ่งหากพิจารณาด้วยสติก็จะพบว่า วิถีชีวิตความเป็นคนไทยในอดีตยากจะหาพบได้ในเวลาปัจจุบัน
ชีวิตคนเราทุกวันนี้ ดูห่างไกลจากคนไทยในอดีตกาลมากเหลือคณา ความเกื้อกูล เอื้ออาทรต่อกัน ก็ดูจะหายขาดไปมาก ไม่มีสติเพียงพอต่อการแบ่งปันความทุกข์ของกันและกัน ชุมชนแต่ละแห่ง แต่ละท้องที่ ทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก แม้รั้วบ้านใกล้ชิดกันก็หารู้จักชื่อแซ่ของกันและกันไม่ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างก็รีบร้อนในการหาเงินมาใช้
ว่างๆ ก็อยู่กับคุณพระรัตนตรัยบ้างจะดีครับคุณ
หมายเหตุ: ผู้เขียน คัดจากบางตอนในหนังสือ "เทสรังสีอนุสรณาลัย" พิมพ์ครั้งที่ 1 โดยบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เรื่องโดย : บรรเจิด ทวี formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/28214