X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
17 Oct 2009
สปอร์ทคูเปเลือดอเมริกันพันธุ์แท้
วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายในโลกใบเล็กนี้ และรายที่เป็นข่าวโด่งดังที่สุดเห็นจะได้แก่ เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน (GENERAL MOTORS CORPORATION) ซึ่งเคยครองตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกมายาวนานหลายทศวรรษ ก่อนเสียตำแหน่ง ให้แก่ โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน (TOYOTA MOTOR CORPORATION) ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของเมืองยุ่น ยักษ์ใหญ่ เจเนอเรชัน มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ที่เรียกกันโดยย่อว่า จีเอม (GM) ประสบภาวะ "ยักษ์ล้ม" จนรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ต้องก้าวเข้ามาโอบอุ้มตามกฎหมายล้มละลาย และเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้เอง ก็มีการก่อตั้งบริษัทใหม่ เพื่อดำเนินกิจการแทนบริษัทเดิม มีชื่อว่า เจเนอรัล มอเตอร์ส คัมพานี (GENERAL MOTORS COMPANY) บริษัทเกิดใหม่นี้มีกระทรวงการคลังของสหรัฐ ฯ เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 60.8 กองทุนผู้เกษียณอายุถือหุ้นร้อยละ 17.5 รัฐบาลแคนาดา และแคว้นออนทาริโอ (ONTARIO) ถือหุ้นร้อยละ 11.7 ส่วนอีกร้อยละ 10 ที่เหลือ ผู้ถือหุ้นคือบริษัทเดิม ในส่วนของสายผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่ผลิตจำหน่าย ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ภายหลังการเกิดของบริษัทใหม่นี้ ก็คือ รถยนต์ติดยี่ห้ออเมริกันที่เคยผลิตอยู่รวม 7 ยี่ห้อ คือ บิวอิค (BUICK) แคดิลแลค (CADILLAC) เชฟโรเลต์ (CHEVROLET) จีเอมซี (GMC) ฮัมเมอร์ (HUMMER) พอนทิแอค (PONTIAC) และ แซเทิร์น (SATURN) จะลดเหลือเพียง 4 ยี่ห้อ ที่จะเลิกผลิตไปเลย ก็คือ พอนทิแอค ส่วน ฮัมเมอร์ กับ แซเทิร์น อยู่ระหว่างการเจรจาขายสิทธิ์ให้แก่ผู้ที่สนใจ และคาดหมายกันว่า เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้จะรู้ผลว่ามีผู้ซื้อหรือไม่ ส่วนรถยี่ห้อต่างชาติที่ จีเอม เคยเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอยู่นั้น ที่ตกลงขายไปแล้ว ก็คือ ซาบ (SAAB) ของสวีเดน ผู้ซื้อคือกลุ่มธุรกิจ โคนิกเซกก์ กรุพ เอบี (KOENIGSEGG GROUP AB) ของเมืองฟรีเซกซ์ ซึ่งมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายย่อย โคนิกเซกก์ ออโทโมทีฟ เอบี (KOENIGSEGG AUTOMOTIVE AB) เป็นหัวเรือใหญ่ ส่วนอีก 2 ยี่ห้อ คือ โอเพล (OPEL) กับ วอกซ์ฮอลล์ (VAUXHALL) ขณะรายงานข่าวนี้ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ที่กล่าวถึงเรื่องราวของ "ยักษ์ล้ม" ซะยืดยาว เพราะรถใหม่ที่นำเสนอใน "ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ เป็นผลงานของค่าย จีเอม ล้วนๆ เป็นรถใหม่ที่เพิ่งออกจำหน่าย และกำลังจะออกจำหน่ายในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2010 มีอยู่ด้วยกัน 3 ยี่ห้อ คือ บิวอิค แคดิลแลค และ เชฟโรเลต์ เริ่มกันที่ เชฟโรเลต์ คามาโร (CHEVROLET CAMARO) รถสปอร์ทคูเปความเร็วจัด สมรรถนะสูง สไตล์เดียวกับรถ ฟอร์ด มัสแตง (FORD MUSTANG) ของค่าย ฟอร์ด ผู้ใช้รถในเมืองมะกันมีคำศัพท์ซึ่งใช้เรียกรถประเภทนี้โดยเฉพาะว่า PONY CAR เชฟโรเลต์ คามาโร ไม่ใช่ชื่อใหม่ ยักษ์ใหญ่ของเมืองมะกันนำรถชื่อนี้ออกจำหน่ายในตลาดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1967 อย่างไรก็ตาม รถซึ่งเป็นที่จดจำ และยังพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ ในทุกวันนี้ไม่ใช่รถรุ่นแรก หากเป็นรถรุ่นที่สอง ซึ่งออกจำหน่ายเมื่อปี 1969 ในตัวถัง ซึ่งมีรูปทรงองค์เอวเหมือนขวดน้ำดื่มโคลา ส่วนรถรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ปรากฏตัวในลักษณะ CONCEPT CAR หรือ รถแนวคิด มาแล้วหลายครั้ง นับแต่ปี 2006 แต่เพิ่งเปิดให้ลูกค้าสั่งจองเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2008 และเพิ่งเริ่มการผลิตที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นออนทาริโอของแคนาดาเมื่อไตรมาสแรกของปี 2009 นี่เอง นับเป็นการกลับมาอีกครั้งหนึ่งของรถ เชฟโรเลต์ คามาโร หลังจากรถรุ่นที่แล้วถูกปลดจากสายการผลิตเมื่อ 7 ปีก่อน ยักษ์ใหญ่ของเมืองมะกันเรียกรถรุ่นนี้ว่าเป็นรถรุ่นปีโมเดล 2010 และเสนอรถให้ลูกค้าเลือกใช้รวม 3 โมเดล คือ CHEVROLET CAMARO LS-CHEVROLET CAMARO LT และ CHEVROLET SS ทั้ง 3 โมเดล อยู่ในตัวถังแบบเดียวกัน เป็นตัวถังคูเป 2 ประตู 4 ที่นั่ง ยาว 4.836 ม. กว้าง 1.918 ม. และสูง 1.376 ม. มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศอยู่ระหว่าง 0.35-0.37 ความแตกต่างของรถแต่ละโมเดลอยู่ที่การตกแต่ง และอุปกรณ์ และที่สำคัญที่สุด คือเครื่องยนต์ โดยที่ 2 โมเดลแรก คือ CHEVROLET CAMARO LS และ CHEVROLET CAMARO LT ติดตั้งเครื่องยนต์ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 3,564 ซีซี 304 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์มาตรฐานซึ่งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยมีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เป็นออพชันพิเศษให้เลือกใช้ ส่วนโมเดลหลัง คือ CHEVROLET CAMARO ซึ่งเป็นรถโมเดลหัวกะทิ ติดตั้งเครื่องยนต์ OHV วี 8 สูบ 6,162 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 426 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกับระบบเกียร์มาตรฐาน ซึ่งเป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และลดเหลือแค่ 400 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งเป็นออพชันพิเศษ สนนราคาค่าตัวที่กำหนดโดยโรงงานผู้ผลิต ซึ่งเรียกกันในภาษาอังกฤษสไตล์อเมริกันว่า MANUFACTURER'S SUGGESTED RETAIL PRICE หรือ MSRP เริ่มต้นที่ 22,995 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 0.78 ล้านบาทไทย ในรถโมเดลพื้นฐาน ไปจนถึง 30,995 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 1.05 ล้านบาทไทย ในโมเดลหัวกะทิ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา chusak@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/28065
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th