ผลทดสอบ
ทดสอบสมรรถนะ ทั้งขับ 4 และขับ 2
ฟอร์ด เอสเคพ เอกซ์แอลที 2.3 ลิตร 146 แรงม้า ราคา 1,299,000 บาท
ฟอร์ด เอสเคพ เอกซ์แอลเอส 2.3 ลิตร 146 แรงม้า ราคา 1,099,000 บาท
คู่แข่งในตลาด
ซูซูกิ กแรนด์ วีทารา 2.0 เจแอลเอกซ์ เบนซิน 2.0 ลิตร 146 แรงม้า ราคา 1,190,000 บาท
ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 เอกซ์ เบนซิน 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ราคา 1,690,000 บาท
เชฟโรเลต์ แคพทีวา 2.4 แอลเอส เบนซิน 2.4 ลิตร 142 แรงม้า ราคา 1,150,000 บาท
เชฟโรเลต์ แคพทีวา 2.4 แอลที เบนซิน 2.4 ลิตร 142 แรงม้า ราคา 1,450,000 บาท
ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.0 เอส เบนซิน 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ราคา 1,111,000 บาท
ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล เบนซิน 2.4 ลิตร 170 แรงม้า ราคา 1,379,000 บาท
ข้อเด่น
- หน้าตาสดใหม่
- ราคาจำหน่ายไม่แพง
ข้อด้อย
- เครื่องเสียงปรับเปลี่ยนยาก
- ภายในไม่ต่างจากรุ่นเดิม
- ที่เปิดฝาท้ายแข็งใช้งานยาก
ฟันธง
คอมแพคท์เอสยูวี แต่งหน้าทาปากใหม่ หรูหรา ทันสมัย แต่ยังไม่ดุดัน
ฟอร์ด เอสเคพ ใหม่ เปิดตัวสู่สาธารณชน ในงานมหกรรมยานยนต์ ปลายปี 2551 ได้รับการปรับปรุงหน้าตาให้โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ห้องโดยสาร กว้างโอ่โถง ขุมพลังเบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.3 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน ที่เลือกได้ทั้งแบบ 4 ล้อ ในรุ่น เอกซ์แอลที และ 2 ล้อ ในรุ่น เอกซ์แอลเอส
ฟอร์ด เอสเคพ สร้างชื่อเสียงและความคึกคักให้กับตลาดคอมแพคท์เอสยูวีบ้านเรา ตั้งแต่ปี 2545 โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร วี 6 ที่ให้กำลังแรงสะใจ สร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ ฟอร์ด เล็งเห็นถึงการเติบโตในตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ จึงส่ง เอสเคพ เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร และ 2.0 ลิตร ออกมาตามลำดับ หวังโกยยอดขายในตลาดอย่างต่อเนื่อง
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นหนทางที่สวยหรู เพราะคู่แข่งในตลาด ต่างพากันเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในเซกเมนท์นี้กันอย่างคึกคัก อีกทั้งยังต้องมาต่อกรกับรถเอสยูวี ที่ใช้พื้นฐานจากพิคอัพดัดแปลงอีกมากมายหลายรุ่น ฟอร์ด จึงต้องปรับกระบวนทัพกันใหม่ เลือกที่จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร เล็กลง เหมาะสม และใช้งานได้ลงตัวมากที่สุด
4 WHEELS นำ ฟอร์ด เอสเคพ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกซ์แอลที และ 2 ล้อ เอกซ์แอลเอส มาทดสอบด้วยเครื่องมือดาทรอน เพื่อวัดสมรรถนะและอัตราสิ้นเปลืองของมัน
ภายนอก 4 ดาว
โฉมใหม่ ทันสมัยขึ้น
รูปทรงภายนอกปรับเปลี่ยนจากรุ่นที่แล้ว เล็กน้อย มิติภายนอก กว้าง 1,845 มม. ยาว 4,480 มม. และสูง 1,755 มม. เทียบกับรุ่นเดิมแล้ว กว้างขึ้น 20 มม. ยาวขึ้น 10 มม. และเตี้ยลงกว่าเดิม 15 มม. เทียบกับคู่แข่งอย่าง ฮอนดา ซีอาร์-วี แล้ว เอสเคพ มีตัวรถสั้นกว่าเล็กน้อย แต่กว้างเพราะมีโป่งล้อขนาดใหญ่ และสูงกว่าโดยนับรวมราวหลังคาไปด้วย ส่วน เชฟโรเลต์ แคพทีวา นั้นมีสัดส่วนตัวรถ กว้างและยาวกว่า เอสเคพ แต่ส่วนสูงนับรวมราวหลังคายังเตี้ยกว่า 35 มม.
เอสเคพ ใช้กระจังหน้าโครเมียม แบ่งช่อง 3 แถวแนวนอน ขนาดเล็กกว่ารุ่นเดิม ดูกระชับได้สัดส่วนขึ้น โคมไฟหน้าออกแบบใหม่เน้นส่วนโค้งและเว้ามากขึ้น แต่เลนส์สะท้อนยังเป็นแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์เช่นเดิม ดูหรู หวานขึ้น แต่ลดความดุดัน เพราะเปลี่ยนจากกรอบโคมดำ มาเป็นโครเมียมทั้งโคม ไฟตัดหมอกทรงกลมเช่นเดิม แต่ออกแบบกันชนหน้าใหม่ทั้งชิ้น มีการ์ดกันชน และชุดครอบไฟตัดหมอกหน้า แก้มด้านข้างตกแต่งคล้ายช่องระบายอากาศแบบรถสปอร์ท เสริมมาดดุดันทันสมัย โป่งล้อขนาดใหญ่เพิ่มมิติความกว้าง
ไฟท้ายออกแบบใหม่ เปลี่ยนจากแนวตั้งเป็นแนวนอน แบ่งเป็น 2 ส่วน เพิ่มความทันสมัยด้วยหลอดแอลอีดี ให้ความสว่างชัดเจน ฝาท้ายแบบเปิดขึ้นแต่มือเปิดจากด้านนอกแข็งและใช้งานยาก กันชนท้ายออกแบบเรียบๆ
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายก้าน คล้ายรุ่นเดิมแต่แบ่งช่องตรงกลาง เน้นความหรูหรามากขึ้น พร้อมยางขนาด 215/70 R16
สำหรับในรุ่น เอกซ์แอลเอส ขับเคลื่อน 2 ล้อ ภายนอกไม่มีไฟตัดหมอกด้านหน้า แผงกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง รวมถึงแรคหลังคาและสปอยเลอร์ และไม่มีกระจกซันรูฟ เหมือนในรุ่น เอกซ์แอลที
ภายใน 3 ดาว
สไตล์เดิม กว้าง สบาย
ห้องโดยสารของ เอสเคพ ใหม่ เทียบกันกับรุ่นเดิมแทบไม่เห็นความแตกต่าง เน้นความโอ่โถง นั่งสบาย เบาะนั่งหุ้มหนังแท้สีครีมตรงกลางเป็นหนังเจาะรู พวงมาลัยมีระบบมัลทิฟังค์ชัน และครูสคอนทโรลสำหรับควบคุมความเร็ว แผงมาตรวัดแต่งขอบด้วยวัสดุโครเมียม คอนโซลกลางติดตั้งเครื่องเสียงแบบซีดี 6 แผ่น พร้อมลำโพง 6 ตัว และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงการทำงานออกแบบทันสมัย นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของภายในรถหลายจุด บริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งสามารถเปิด/ปิดได้ ดูสะอาดตา เบาะนั่งด้านหลัง ปรับและพับเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ ประตูท้ายแบบเปิดขึ้น และยังสามารถเปิดเฉพาะส่วนกระจกได้
ในรุ่น เอกซ์แอลเอส ขับเคลื่อน 2 ล้อ มีการปรับลดอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น วิทยุเป็นแบบซีดีแผ่นเดียว พร้อมลำโพง 4 ตัว ไม่มีครูสคอนทโรล และระบบมัลทิฟังค์ชันบนพวงมาลัย ไม่มีเซนเซอร์สำหรับวัดอุณหภูมิภายนอก ระบบปรับอากาศยังเป็นแบบมือหมุน มือจับประตูด้านในเป็นสีดำ
การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก เอสเคพ เอกซ์แอลเอส ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทำได้ดีกว่า ในรุ่น เอกซ์แอลที ขับเคลื่อน 4 ล้อ เล็กน้อย ระดับเสียงรบกวนอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย
เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ระดับเสียงรบกวนในรุ่น เอกซ์แอลที ดีกว่า ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ อยู่เล็กน้อย แต่ยังเป็นรอง เชฟโรเลต์ แคพทีวา 2.4 แอลที ในช่วงความเร็วต้น ส่วนช่วงความเร็วปลาย ทำได้ใกล้เคียงกัน และหากเทียบกับ ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล พบว่า เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลที ยังเป็นรองในทุกช่วงความเร็ว ผลทดสอบนี้ยืนยันอีกครั้ง เมื่อเราลองเทียบ เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลเอส กับ ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.0 เอส ขับเคลื่อน 2 ล้อ ระดับเสียงรบกวนภายนอกยังเป็นรองทุกช่วงความเร็ว
เครื่องยนต์ 3 ดาว
ดูราเทค แรงพอตัว
เครื่องยนต์เบนซิน บลอคเดิม ขนาด 2.3 ลิตร ดูราเทค พร้อมวาล์วแปรผัน VVT มีระบบควบคุมวาล์วแปรผันอีเลคทรอนิคส์ ETC ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 20.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ซึ่งใช้ร่วมกันในทั้ง 2 รุ่น
ในรุ่น เอกซ์แอลที ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ CONTROL TRAC II ON DEMAND ที่สามารถให้ผู้ขับเลือกใช้ได้ตามต้องการ และยังมีโหมด LOCK 4 ล้อ ที่ถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน ไปยังล้อทั้ง 4 แบบเท่าๆ กัน
อัตราเร่งที่ทำได้ทั้งช่วงต้น-ปลาย ทั้ง 0-400 ม./0-1,000 ม. เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลที ทำได้ในเวลา (19.3/35.5 วินาที) ดีกว่า แคพทีวา 2.4 แอลที แต่ยังเป็นรอง ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล และฟอเรสเตอร์ 2.0 เอกซ์ ส่วน เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลเอส ทำได้ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง ซีอาร์-วี 2.0 เอส และแคพทีวา 2.0 แอลเอส เครื่องยนต์ดีเซล โดยทำได้ในเวลา (19.0/34.7 วินาที)
เรื่องความประหยัด เอสเคพ ใหม่ รุ่น เอกซ์แอลที และเอกซ์แอลเอส ยังต้องปรับปรุงในหัวข้ออัตราสิ้นเปลือง ทั้งความเร็วคงที่ และในขณะเร่ง
เทียบกับคู่แข่งอย่าง ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล แล้ว เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลที มีอัตราสิ้นเปลือง ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. เท่ากัน แต่ที่ความเร็วสูงขึ้น เอสเคพ จะเริ่มกินมากกว่า เมื่อเทียบกับ แคพทีวา 2.4 แอลที เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลที ประหยัดกว่าในช่วงความเร็วต้น (60-100 กม./ชม.) แต่ที่ความเร็วปลายนั้นทำได้ใกล้เคียงกัน ลองเทียบกับ ฟอเรสเตอร์ 2.0 เอกซ์ แล้ว ฟอเรสเตอร์ ประหยัดกว่าในช่วงความเร็วต้น
ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลเอส นั้น ทำได้เป็นรอง ซีอาร์-วี 2.0 เอส ในทุกช่วงความเร็ว แต่ในช่วงความเร็วปลาย เอสเคพ เริ่มมีอัตราสิ้นเปลืองขยับเข้ามาใกล้กับ ซีอาร์-วี มากขึ้น แต่ยังเป็นรองอยู่เล็กน้อย
ระบบรองรับ 3 ดาว
นุ่มหนึบ นั่งสบาย
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ IRS พร้อมคอยล์สปริง ระบบเบรคแบบจาน ทั้งหน้าและหลัง ทำงานร่วมกับ เอบีเอส ป้องกันล้อลอค อีบีดี ช่วยกระจายแรงไปยังล้อทั้ง 4 และอีอาร์เอ ซึ่งเป็นระบบช่วยเบรคในสภาวะฉุกเฉิน สามารถประมวลผลพฤติกรรมการเบรคของผู้ขับ
สำหรับอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย เอสเคพ เอกซ์แอลที ติดตั้งถุงลมนิรภัยในด้านหน้าและด้านข้าง แต่ในรุ่น เอกซ์แอลเอส มีเฉพาะถุงลมนิรภัยคู่หน้า ไม่มีสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง และสัญญาณกันขโมย
ประสิทธิภาพเบรคพัฒนาขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยผลทดสอบเบรคที่ความเร็วต่ำ (60 กม./ชม.) ทำได้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย และขยับเข้าขั้น ดี ที่ความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม.
เทียบผลทดสอบเบรคกับคู่แข่งในกลุ่มเอสยูวีด้วยกัน พบว่า ทำได้ดีกว่า ซีอาร์-วี 2.4 และที่ความเร็วสูง (100-0 กม./ชม.) ทำได้ใกล้เคียง แคพทีวา 2.4 และเป็นรอง ฟอเรสเตอร์ 2.0 เพียงเล็กน้อย
สรุป
หรูหรา น่าใช้ขึ้น
ฟอร์ด เอสเคพ ใหม่ ภายนอกออกแบบโดดเด่นทันยุคทันสมัย ภายในโอ่โถง ดูเรียบหรู พร้อมเครื่องยนต์ ขนาด 2.3 ลิตร สมรรถนะพอตัวแต่อัตราสิ้นเปลืองเอาเรื่อง ส่วนเบรคดี ไว้ใจได้ มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดคอมแพคท์เอสยูวี อีกรุ่น เพราะได้ทั้งความสดใหม่ และราคาค่าตัวที่ไม่สูงมาก
ข้อมูลจำเพาะ ฟอร์ด เอสเคพ 2.3 เอกซ์แอลที/เอกซ์แอลเอส
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฟอร์ด เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดโทร. 0-2686-4000 www.ford.co.th
XLT / XLS
มิติ และน้ำหนัก
กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,845/4,480/1,755
ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,545/1,535
ฐานล้อ (มม.) 2,620
น้ำหนัก (กก.) 1,579/1,497
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 61
เครื่องยนต์ รหัส L3X 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT
ความจุ (ซีซี) 2,261
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 87.5/94.0
อัตราส่วนกำลังอัด 9.7:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 146/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 20.0/4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิคส์
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 4
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 / 2
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง มัลทิลิงค์
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี และอีบีเอ
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 1,299,000 / 1,099,000
XLT / XLS
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 6.0 / 5.8
0-80 กม./ชม. 9.6 / 9.2
0-100 กม./ชม. 13.8 / 13.0
0-120 กม./ชม. 20.4 / 18.9
0-140 กม./ชม. 30.8 / 27.5
0- 160 กม./ชม. N/A
0-400 ม. 19.3 ที่ความเร็ว 116.8 กม./ชม. / 19.0 วินาที ที่ความเร็ว 120.9 กม./ชม.
0-1,000 ม. 35.5 ที่ความเร็ว 147.2 กม./ชม. / 34.7 วินาที ที่ความเร็ว 151.9 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
40-120 กม./ชม. 16.5 / 15.2
60-100 กม./ชม. 7.9 / 7.2
80-120 กม./ชม. 10.7 / 9.7
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 15.9 (0.89) / 17.5 (0.81)
80-0 กม./ชม. 29.2 (0.86) / 28.0 (0.90)
100-0 กม./ชม. 43.4 (0.91) / 42.7 (0.92)
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 47 / 46
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 59 / 56
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 63 / 61
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 65 / 64
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 70 / 68
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 72 / 71
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 59 / 59
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 78 / 78
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 98 / 98
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 119 / 119
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 138 / 138
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 16.3 / 17.9 6.1 / 5.6
80 13.8 / 14.7 7.3 / 6.8
100 11.3 / 12.6 8.9 / 8.0
120 8.4 / 9.8 11.9 / 10.2
140 7.4 / 8.3 13.5 / 12.0
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง Nattawate@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/27878