ด้วยความที่ บุญสิน มาลสุขุม ชื่นชอบรถโบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้จะเห็น มอร์ริส วูลส์ลีย์ จอดกองเป็นซากสนิมเขรอะ แถมด้วยคำทัดทานจากผองเพื่อนว่า “อย่าซื้อเลย” แต่เขาก็ยังไม่วาย นำมันมาทำนุบำรุง จนเป็นรถเก๋งคันสวย ลองอ่านความเป็นมาที่น่าสนใจของรถคันนี้กันหน่อยดีไหม ?

ด้วยความที่ บุญสิน มาลสุขุม ชื่นชอบรถโบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้จะเห็น มอร์ริส วูลส์ลีย์ จอดกองเป็นซากสนิมเขรอะ แถมด้วยคำทัดทานจากผองเพื่อนว่า “อย่าซื้อเลย” แต่เขาก็ยังไม่วาย นำมันมาทำนุบำรุง จนเป็นรถเก๋งคันสวย ลองอ่านความเป็นมาที่น่าสนใจของรถคันนี้กันหน่อยดีไหม ? วูลส์ลีย์ คันนี้ บุญสิน ซื้อต่อมาจากเพื่อนที่ชอบเล่นรถโบราณ เพื่อนคนนี้มีรถอยู่ในครอบครองหลายคัน ถ้าย้อนไป 20 กว่าปีก่อน เขาเคยขอซื้อรถคันนี้มาหนหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นเพื่อนยังไม่ยอมขาย เพราะรักมาก แต่จน 2 ปีที่แล้ว ได้คุยกันอีก เพื่อนไม่มีเวลาดูแลแล้ว จึงทิ้งมันไว้จนสนิมขึ้น บุญสิน เห็นอย่างนั้น จึงขอซื้ออีกครั้ง และคราวนี้สำเร็จ “เขาถามผมว่า ยังสนใจอยู่ไหม เพราะไม่มีเวลาดูแล จอดทิ้งไว้ 10 กว่าปี จนสนิมกิน ผมเห็นสภาพแล้วเสียดายของ แต่ก่อนเขาหวงรถคันนี้มาก แต่เพราะตอนนี้เขาอายุมากขึ้น เลยไม่มีเวลาดูเเล" รถโบราณ ถ้าเราไม่มีเวลาดูแล ไม่ขับมันบ้าง มันจะเก่าไปเลย พอเริ่มสตาร์ทยาก เราก็จะรู้สึกไม่อยากจะขับมันแล้ว รถโบราณเปรียบเหมือนคนแก่ เราต้องพาวิ่ง ออกกำลังกายบ้าง ไม่อย่างนั้น รถจะไม่สมบูรณ์แข็งแรง ตอนแรกที่ได้มา ยังหาอู่ทำรถไม่ได้เลย แต่ด้วยความที่ชอบจริงๆ จึงตัดสินใจซื้อมาก่อน หลังจากนั้นจึงพยายามหาอู่ทำเครื่องยนต์ เพื่อให้พอวิ่งได้ แต่ทำเสร็จลองวิ่งออกมาได้ไม่ถึง 2 กิโลเมตร เครื่องโอเวอร์ฮีท จนดับไปดื้อๆ เปลี่ยนไปใช้บริการอีกอู่ ก็ไม่หาย จนมาจบที่อู่ วิชาญ การาจ หลังจากนั้นจึงทำสี และช่วงล่างต่อ เคยมีคนถามเหมือนกันว่า รถสภาพแย่ขนาดนี้ จะบูรณะไหวเหรอ ผมไม่กลัวว่าจะทำไม่ได้ แม้จะนานหน่อย เพราะต้องใช้เวลาหาอะไหล่อย่างพิถีพิถัน แต่เมื่อผมมีช่างมืออาชีพอยู่ใกล้ตัว ก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วไม่ใช่หรือ” เมื่อพิจารณารอบคันแล้ว เขาไม่ได้ดัดแปลงเลย อะไหล่เป็นของตรงรุ่นทุกชิ้น “บางอู่เขาแนะนำให้ผมเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปเลย แม้จะเป็นตระกูลยุโรปเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ยอมเปลี่ยน เพื่ออนุรักษ์ความเป็นของเดิมๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด” ที่เห็นในภาพ เขาเพิ่งทำนุบำรุงเสร็จได้ไม่นาน ขับจากกรุงเทพ ฯ ไปถึงนครปฐมสบายๆ เดี๋ยวนี้เครื่องยนต์ และระบบกลไกต่างๆ สมบูรณ์ขึ้นเยอะ ไม่เกเรแล้ว ข้อมูลจำเพาะ ยี่ห้อ/รุ่น มอร์ริส วูลส์ลีย์ รูปแบบ 4 ประตู ปีที่ผลิต (คศ.) 1954 เครื่องยนต์ แบบ เบนซิน 6 สูบ ความจุ (ซีซี) 1,500 กำลังสูงสุด (แรงม้า) 160 เกียร์ (จังหวะ) ธรรมดา 4 น้ำหนักรถ (กก.) 1,150 บันทึกไว้ในกาลเวลา วูลส์ลีย์ ได้รับการออกแบบโดย เจราลด์ พาลเมอร์ (GERALD PALMER) แห่งสำนักออกแบบ นัฟฟีลด์ (NUFFIELD ORGANIZATION) ผลิตโดย บีเอมซี (BMC: BRITISH MOTOR CORPORATION) บริษัทต้นสังกัดของรถอังกฤษหลายยี่ห้อ เหตุนี้จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า หน้าตา และหน่วยก้านของมันจะไปคล้ายคลึงกับ เอมจี แมกเนทท์ เซดเอ (MG MAGNETTE ZA) ที่ออกสู่ตลาดภายหลังไม่นาน ส่วนเครื่องยนต์ใช่ร่วมกับรถยี่ห้อ มอร์ริส (MORRIS) เพื่อนร่วมค่าย ดังนั้นคงไม่ต้องถามเลยว่าทำไมจึงนำชื่อ มอร์ริส ไปพะไว้ข้างหน้า วูลส์ลีย์ ตัวถังนำสมัยใช้แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ หรือ โมโนคอค (MONOCOQUE) ขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ด้านหลังแม้จะเป็นเพลาแข็ง แต่ใช้ คอยล์สปริง แทนแหนบ จึงให้ประสิทธิภาพการทรงตัว และความนุ่มนวลมากกว่ารถในยุคเดียวกัน เหตุการณ์สำคัญของโลก ระหว่างปีผลิต ปี 1953 ฟรานซิส คริก ชาวอังกฤษ และ เจมส์ วัทสัน ชาวสหรัฐ ฯ ค้นพบโครงสร้าง ดีเอนเอ ปี 1954 ก่อตั้งองค์กรสนธิสัญญาซีโต ป้องกันลัทธิ คอมมิวนิสต์ ขยายตัว ปี 1955 ประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ลงนามสนธิสัญญาวอร์ซอ ปี 1956 ซูดาน และโมรอคโค ประกาศเอกราช