หลังมีนโยบายปรับโฉมรถยนต์ ซูบารุ ทั่วโลก พลพรรคบอกเซอร์ อาจยังทำใจไม่ได้กับรูปลักษณ์ใหม่นี้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ที่จะขยายฐานลูกค้าเพื่อบุกตลาดอย่างจริงจังของ ซูบารุ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การเพิ่มยอดขายทั่วโลก "4 WHEELS" สัมภาษณ์ อภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด

หลังมีนโยบายปรับโฉมรถยนต์ ซูบารุ ทั่วโลก พลพรรคบอกเซอร์ อาจยังทำใจไม่ได้กับรูปลักษณ์ใหม่นี้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ที่จะขยายฐานลูกค้าเพื่อบุกตลาดอย่างจริงจังของ ซูบารุ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การเพิ่มยอดขายทั่วโลก "4 WHEELS" สัมภาษณ์ อภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด 4 WHEELS : การปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้ จะทำให้เอกลักษณ์ของ ซูบารุ เปลี่ยนไปหรือไม่ ? อภิชัย : บริษัท ฯ มีลูกค้า 2 กลุ่ม คือ ลูกค้ากลุ่มเดิมที่เคยใช้ ซูบารุ ลูกค้ากลุ่มนี้ ช่วงแรกจะรับการ เปลี่ยนแปลงของ ซูบารุ ไม่ได้ แต่สิ่งที่บริษัท ฯ ได้ คือ การจับกลุ่มตลาดที่กว้างขึ้น ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงนี้ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันทั่วโลก 4 WHEELS : มองภาพรวมของตลาดรถยนต์ปีนี้อย่างไร ? อภิชัย : ยอดขายรถยนต์รวมตอนต้นปี มีอัตราการเติบโตมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภครอการเปิดตัวของรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง อี 20 สำหรับ ซูบารุ ไตรมาสแรกเติบโตถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2550 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวม ยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และการเมือง คาดว่ายอดขายรถยนต์รวมทั้งปี น่าจะมีประมาณ 680,000 คัน หรือเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 10 % สำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ ซูบารุ ในปีนี้เกิดจากปัจจัย 2 ประการ คือ ความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัท ฯ ซึ่งเกิดจากการที่บริษัท ฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมา 7 ปี และในปีที่ผ่านมาได้เปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแห่งใหม่ ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า บริษัท ฯ มีความมั่นคง นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ซูบารุ ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของรถ โดยเฉพาะ ซูบารุ อิมพเรซา ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุด เดิมจับกลุ่มลูกค้าที่ชอบความแรง ดุดัน เหมือนรถแข่ง แต่ปัจจุบันได้ปรับรูปลักษณ์ของรถให้มีความอ่อนหวานขึ้น และให้ความสำคัญกับการออกแบบภายในมากขึ้น เพื่อมุ่งขยายกลุ่มลูกค้าสู่ผู้ใช้ทั่วไป ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี 4 WHEELS : วางกลยุทธ์การตลาดไว้อย่างไร ? อภิชัย : ปัจจุบัน ตลาดรถยนต์เมืองไทย เริ่มให้ความสำคัญกับรถเล็กประหยัดพลังงาน ทำให้รถระดับคอมแพคท์มียอดขายลดลง รถระดับซับคอมแพคท์มียอดขายเพิ่มขึ้น อนาคตเมื่อ อีโคคาร์ ออกสู่ตลาด คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนรถพิคอัพนั้น ตลาดค่อนข้างอิ่มตัว และคงเติบโตได้ไม่มาก ซูบารุ แม้จะเป็นรถในกลุ่มคอมแพคท์ แต่เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่มีจุดขายที่แตกต่างจากรถทั่วไป ทำให้คาดว่า ซูบารุ น่าจะเติบโตต่อไปได้อีกมาก จากการที่ ซูบารุ เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม การทำตลาดจึงเน้นการสร้างให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ร่วมกับรถ ซึ่งบริษัท ฯ ดำเนินกลยุทธ์การตลาดแบบนี้มาตั้งแต่ต้น จะเห็นได้จากสโลแกนตัวหนึ่งของ ซูบารุ ว่า EXPERIENCE BEYOND เนื่องจากบริษัท ฯ มองว่า การโฆษณารถดีอย่างไร หากผู้บริโภคไม่ได้สัมผัสกับรถโดยตรง ก็จะไม่สามารถจินตนาการถึงคุณสมบัติตามที่ได้โฆษณาไป ลูกค้าหลายคนตัดสินใจซื้อ ซูบารุ เพราะได้สัมผัสตัวรถจริง และรับรู้ถึงประสิทธิภาพของรถ กิจกรรมที่บริษัท ฯ ได้จัดขึ้น อาทิ การร่วมกิจกรรมกับ ซูบารุ คลับ การจัดกิจกรรมของ ซูบารุ เอง โดยเน้นการจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ให้ได้มีโอกาสสัมผัสกับตัวรถ และทดลองขับ เพื่อจะได้รู้ถึงสมรรถนะของรถ ที่แตกต่างจากรถทั่วไป กิจกรรมที่ผ่านมา อาทิ การร่วมกับสมาคมนักบินไทย จัดแรลลี โดยให้กลุ่มนักบินได้ร่วมทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ ซูบารุ 4 WHEELS : จุดแข็งของ ซูบารุ คืออะไร ? อภิชัย : จุดแข็งที่สำคัญของ ซูบารุ คือ การทำงานเป็นกลุ่มประเทศ ในภูมิภาคเอเชียมีผู้แทนจำหน่าย ซูบารุ ในประเทศไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน ไต้หวัน ฮ่องกง แต่ละประเทศมีการทำตลาดแตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับตลาด และวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ โดยสามารถแลกเปลี่ยนการทำตลาดในแต่ละประเทศได้ ทั้งเรื่องการจัดการ การตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ซูบารุ ยังมีจุดขายเรื่องเครื่องยนต์ บอกเซอร์ ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีรอบจัด รถยนต์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน จึงเชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพ อย่างไรก็ตาม จากการที่ ซูบารุ เป็นรถนำเข้าทั้งคัน ทำให้มีราคาสูงกว่ารถทั่วไป โดยสูงกว่ารถญี่ปุ่น แต่ต่ำกว่ารถยุโรป แต่ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ทำให้ช่องว่างด้านราคาลดลง 4 WHEELS : ซูบารุ มีความพร้อมเรื่องน้ำมัน อี 20 มากน้อยแค่ไหน ? อภิชัย : ปัจจุบันรถยนต์ ซูบารุ ทุกคัน สามารถใช้น้ำมัน อี 10 ได้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องการปรับแต่งชิ้นส่วนบางอย่าง เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมัน อี 20 ซึ่งมีเอธานอลเป็นส่วนประกอบ 4 WHEELS : มีแผนเปิดตัวรถใหม่หรือไม่ ? อภิชัย : ที่ผ่านมาบริษัท ฯ ได้เปิดตัว ซูบารุ อิมพเรซา WRX STI และในไตรมาส 3 ได้เตรียมเปิดตัวรถอีก 1 รุ่น นอกจากนี้ ในงานมหกรรมยานยนต์ที่จะถึงนี้ บริษัท ฯ อาจนำรถรุ่นใหม่เข้ามาเปิดตัวเพิ่มขึ้นอีก 1 รุ่น 4 WHEELS : ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้อย่างไร ? อภิชัย : ปีนี้บริษัท ฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 400 คัน ถือเป็นการก้าวกระโดด จากปีก่อนที่มียอดขายรวมไม่ถึง 100 คัน และมั่นใจว่าเป็นไปได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัท ฯ และการปรับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น และตั้งเป้าหมายไว้ว่า 5 ปีข้างหน้า ซูบารุ ต้องมียอดขายเกิน 1,000 คัน 4 WHEELS : มีแผนการลงทุนเพิ่มหรือไม่ ? อภิชัย : บริษัท ฯ มีความพร้อมในการลงทุนเพิ่ม อาทิ การเปิดโชว์รูม แต่สิ่งสำคัญในการลงทุน คือ ต้องพัฒนาบุคลากรให้ทัน ทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท ฯ ต้องการปลูกฝังความเป็น มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ให้แก่พนักงานทุกคน เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของความเป็น ซูบารุ และการที่ ซูบารุ ต้องการจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จำเป็นที่จะต้องสร้างฐานให้แข็งแรง ทั้งเรื่องบุคลากร และด้านความสัมพันธ์กับลูกค้า สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการ 3S ในกรุงเทพ ฯ มี 3 แห่ง คือ สำนักงานใหญ่ ถ. เสรีไทย ติวานนท์ และเพชรเกษม ต่างจังหวัดมีที่ จ. เชียงใหม่ และอยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อเปิดที่ จ. ระยอง ศูนย์บริการ 2S ปัจจุบันมี 1 แห่ง คือ ซอยลาดพร้าว 71 คาดว่าปีนี้จะเพิ่มอีก 3 แห่ง 4 WHEELS : การที่ โตโยตา ซื้อหุ้นของ ซูบารุ เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อ ซูบารุ เมืองไทยหรือไม่ ? อภิชัย : ในเมืองไทยคงไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม การเข้ามาถือครองหุ้น ซูบารุ ของ โตโยตา ทำให้ทั้ง 2 ค่ายรถยนต์ได้รับประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การที่ โตโยตา ใช้โรงงานของ ซูบารุ ซึ่งมีไลน์การผลิตเหลือ ในการผลิตรถยนต์ ทำให้ไม่ต้องสร้างโรงงานใหม่ ซูบารุ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากโรงงานได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่าง 2 ค่ายรถยนต์ ปัจจุบันมีโพรเจคท์การผลิตรถสปอร์ทร่วมกัน โดยใช้เครื่องยนต์ของ ซูบารุ และจำหน่ายภายใต้ยี่ห้อ โตโยตา นอกจากนี้ ซูบารุ อาจผลิต เค-คาร์ ซึ่ง โตโยตา ไม่มีไลน์ผลิตส่งให้ โตโยตา ในส่วนของเครือข่ายดีเลอร์ ซูบารุ อาจใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ โตโยตา ในประเทศญี่ป่น ซึ่งมีความเข้มแข็งมาก ในการขยายตลาด 4 WHEELS : มองความสำเร็จของ ซูบารุ ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา อย่างไร ? อภิชัย : สิ่งที่บริษัท ฯ ให้ความสำคัญตั้งแต่ต้น คือ การรักษาภาพลักษณ์ของบแรนด์ และรักษาความ สัมพันธ์ระหว่างบริษัทและกลุ่มผู้บริโภค ที่ผ่านมา บริษัท ฯ สามารถสร้างฐานลูกค้าที่ชื่นชอบรถ ซูบารุ ได้มาก และตอนนี้บริษัท ฯ ก็พร้อมที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการเติบโตของ ซูบารุ ในประเทศไทย จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ