ผู้บริหารระดับสูงของ ฟอร์ด (FORD) ตัดสินใจไม่ขายทอดตลาดกิจการในส่วนของ โวลโว (VOLVO) หลังจากการประกาศปิดฐานการผลิตที่โรงงาน พีเอจี (PAG: PREMIER AUTOMOTIVE GROUP) ในอังกฤษไปแล้ว

ผู้บริหารระดับสูงของ ฟอร์ด (FORD) ตัดสินใจไม่ขายทอดตลาดกิจการในส่วนของ โวลโว (VOLVO) หลังจากการประกาศปิดฐานการผลิตที่โรงงาน พีเอจี (PAG: PREMIER AUTOMOTIVE GROUP) ในอังกฤษไปแล้ว ทาง ฟอร์ด ได้พยายามผลักดันให้ โวลโว มีความเป็นอิสระมากขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับให้ โวลโว อยู่ในตำแหน่งรถพรีเมียมของโลก โวลโว ใช้เวลากว่าทศวรรษ ในการสร้างความยอมรับในระดับโลกด้วยความเยี่ยมยอดทางวิศวกรรม ด้วยการใช้เทคโนโลยีร่วมกับ ฟอร์ด ซึ่งกลุ่มรถนั่งของ ฟอร์ด ในสหรัฐอเมริกา ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ กับการใช้โครงสร้างตัวถัง รหัส P2X ร่วมกับ โวลโว โดยเฉพาะในกลุ่มรถ เอสยูวี ที่สามารถเพิ่มยอดขายทำกำไรให้กับ ฟอร์ด อย่างมหาศาล ส่วน โวลโว ก็ได้รับเทคโนโลยีจาก ฟอร์ด ไปด้วยเช่นกัน ทั้งด้านความปลอดภัย และการออกแบบ ปัญหาใหญ่ของ ฟอร์ด คือต้นทุนการผลิตของ โวลโว ในสวีเดน ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ทำให้ โวลโว มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เมื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ฟอร์ด จึงมีการปรับแผนในการย้ายฐานการผลิต ซาบ 9-3 และ 9-5 ไปยังประเทศเยอรมนี ส่วน ซาบ 9-4 จะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเมกซิโก แทน ส่วน โวลโว ยังไม่มีความแน่นอนว่า จะย้ายฐานการผลิตมายังประเทศจีนหรือไม่ ? ส่วนการประกาศขายกิจการของ แจกวาร์ (JAGUAR) และ แลนด์โรเวอร์ (LAND ROVER) ให้กับ ทาทา (TATA) และ มาหินทรา (MAHINDRA) 2 ผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดียนั้น ใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว