ทดสอบ
เรนเจอร์ ใหม่ ถ่ายทอดความโดดเด่นของกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง ในตระกูล "เอฟ ซีรีส์" มาไว้ในตัว แถมยังขับสนุกยิ่งขึ้นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล แรงบิดสูง "ดูราทอร์ค"
เรนเจอร์ ใหม่ ถ่ายทอดความโดดเด่นของกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง ในตระกูล "เอฟ ซีรีส์" มาไว้ในตัว แถมยังขับสนุกยิ่งขึ้นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล แรงบิดสูง "ดูราทอร์ค"
ฟอร์ด พัฒนา "เรนเจอร์" กระบะนิรภัยคันแรกของไทยใหม่หมด ตั้งแต่หัวจรดท้าย รูปลักษณ์ภายนอกสวยแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกสบาย และความทันสมัย มีให้เลือกถึง 14 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ขับเคลื่อน 2 ล้อ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ 12 วาล์ว 84 แรงม้า และดูราทอร์ค (DURATORQ) ดีเซลคอมมอนเรล 16 วาล์ว ทั้งขนาด 2.5 ลิตร 143 แรงม้า ขนาด 3.0 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 38.8 กก.-ม.
สำหรับการทดลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ (FORD RANGER) ใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทบ ที่จัดขึ้นโดย บริษัท ฟอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด บนเกาะสมุย เน้นไปที่เครื่องยนต์ "ดูราทอร์ค" ซึ่งประกอบด้วย รุ่นแคบเปิดได้ เอกซ์แอลเอส และเอกซ์แอลที ขับเคลื่อน 4 ล้อ 3.0 ลิตร และขับเคลื่อน 2 ล้อ ทั่วไป และยกสูง หรือ ไฮ-ไรเดอร์ (HI-RIDER) ทั้ง 2.5 ลิตร กับ 3.0 ลิตร
ภายนอก
แกร่ง พร้อมใช้งาน
กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มาแบบเต็มๆ และเหลี่ยมสันบนฝากระโปรงและกันชนหน้าที่เด่นชัด ของ เรนเจอร์ ใหม่ ช่วยเสริมให้ตัวรถที่เรียบง่าย ดูสวยแกร่ง และทรงพลัง กว่ารุ่นเดิม
ความเรียบเนียนไร้เส้นแนวข้างตัวรถ กระบะท้ายที่สูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม และขอบล้อขนาดใหญ่ คล้ายกับเจ้า เอฟ 150 กระบะยอดนิยมของคนอเมริกัน ทำให้ เรนเจอร์ ใหม่ ดูทันสมัย ไม่ตกยุค ขณะที่ เรนเจอร์ ใหม่ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ยังคงเสริมหล่อขอบล้อด้วยคิ้วพลาสติคหนาแบบเดิม ช่วยให้ตัวรถดูเต็ม แต่ที่น่าสนใจที่สุด ล้อแมกแบบ 6 ก้าน ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางแบบออลล์ เทอร์เรน 245/70/16 พร้อมใช้งาน
กระจกมองข้างบานใหญ่สมดุลกับขนาดตัวเช่นเดียวกับโคมไฟหน้าทรงเหลี่ยม และไฟท้ายสีแดงเจาะขาวขนาดใหญ่ ที่โตตามความสูงของขอบกระบะ
สิ่งที่ยังดูขัดตาไม่ลงตัวอยู่บ้าง ได้แก่ การตกแต่งกระจกมองข้างด้วยโครเมียมเพิ่มความหรูหรา และป้องกันการขีดข่วน ในรุ่น 3.0 เอกซ์แอลที ที่ติดมาให้เพียงครึ่งบน กับโลโก ฟอร์ด ชิ้นใหญ่ วางแทรกเหนือที่เปิดฝาท้าย ทั้งๆ ที่มีหลายจุดว่างอยู่ ดูแล้วอึดอัด
ภายใน
สปอร์ทหรู ทันสมัย
สัมผัสแรกเมื่อเปิดประตูเข้าไปใน เรนเจอร์ พบความประทับใจกับสิ่งที่ทีมออกแบบ ฟอร์ด ได้ทำการบ้านมา คือคอนโซลแบบสปอร์ท ทันสมัย มาตรวัดและช่องแอร์ทรงกลมด้านข้าง พร้อมระบบปรับอากาศใหม่ เย็นเร็วกว่าเดิม อุปกรณ์มาตรฐานครบ เครื่องเล่นซีดีคุณภาพสูง ที่สามารถเล่นไฟล์เพลง เอมพี 3 ในรถทุกรุ่น และสะดวกสบายไม่ได้ด้อยกว่ารถเก๋งรุ่นใหม่ๆ โดยรุ่น 3.0 เอกซ์แอลที ที่มีพวงมาลัยแบบ 4 ก้าน
ส่วนเรื่องการตกแต่งภายในห้องโดยสารของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ดูแล้วงานประณีตน่าใช้ทั้ง 2 โทนสี ไม่ว่าจะเป็นสีครีม ซึ่งช่วยห้องโดยสารหรูสบายตา และโทนสีเทาเข้ม รับกับคอนโซลหน้าที่เน้นความสปอร์ท
เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ทออกแบบมาให้รับกับสรีระของผู้ขับ และผู้โดยสาร พนักพิงศีรษะใหญ่ พร้อมที่เท้าแขนช่วยให้นั่งสบายขึ้น และยังใช้เป็นกล่องเก็บของและซีดีได้ถึง 10 แผ่น
และที่พิเศษกว่ากระบะทั่วไป ลิ้นชักเหนือช่องเก็บของด้านหน้า ที่สามารถดึงออกมาเป็นโต๊ะขนาดเล็กสำหรับวางกล่องอาหาร วางแผนที่ หรือจัดเก็บเอกสารได้สะดวกไม่ต้องรื้อค้น
เครื่องยนต์
ทรงพลัง และประหยัด
เครื่องยนต์ดีเซล รุ่นใหม่ "ดูราทอร์ค 380 คอมมอนเรล" ใน เรนเจอร์ ใหม่ เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีหัวฉีดแรงดันสูงเข้ากับเทอร์โบแปรผัน และมีระบบอินเตอร์คูเลอร์ช่วยระบายความร้อน กล่องควบคุมแบบ 32 บิท ของโบช (BOSCH) จากประเทศเยอรมนี ฉีดจ่ายน้ำมัน 3-5 จังหวะ ทำให้ได้แรงบิดสูง แต่ประหยัดน้ำมัน
เครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดถึง 38.8 กก.-ม. หรือ 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 รตน. ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มรถกระบะบ้านเรา และกำลังสูงสุด 156 แรงม้า สำหรับ 2.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุด 33.7 กก.-ม. ที่ 1,800 รตน. พลังสูงสุด 143 แรงม้า ดีกว่าคู่แข่งในขนาดเดียวกัน และประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเดิม เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ พร้อมชุดลอคระบบส่งกำลังล้อหน้าแบบไฟฟ้า
การทดลองขับในสภาพถนนทั่วไป เครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูง ของ ฟอร์ด ทั้ง 2.5 และ 3.0 ลิตร ตอบสนองความต้องการในทุกช่วงความเร็ว และมีกำลังที่จะลากจูงและบรรทุกเหลือๆ ซึ่งครั้งนี้ ฟอร์ด ได้ใช้รถ เรนเจอร์ 3.0 เอกซ์แอลที ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมผู้โดยสารในกระบะท้ายอีก 6 คน ดึงเรือเร็วขนาด 4 ตันขึ้นจากน้ำ ได้อย่างสบาย และฟลายวีลแบบ 2 ชั้น (DUAL MASS FLYWHEEL) ช่วยให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล
ในเส้นทางลุย แรงบิดสูงที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้การเดินทางขึ้นเขาสูงชันเป็นเรื่องง่าย แม้ในสภาพทางทุรกันดาร หลังจากกดปุ่มลอคล้อหน้า เปลี่ยนมาขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4L และใส่เกียร์ 1 เรนเจอร์ 3.0 พาเราขึ้นสู่ยอดเขา ด้วยรอบเดินเบาเพียง 800 รตน. เครื่องยนต์ ดูราทอร์ค ให้แรงบิดมากกว่า 30 กก.-ม. โดยไม่ต้องใช้คันเร่งช่วยแม้แต่ครั้งเดียว
ระบบรองรับ
ขับขี่ อย่างมั่นใจ
ช่วงล่างด้านหน้า แน่นหนึบคล้ายรุ่นเดิม แหนบหลังของ เรนเจอร์ ใหม่ ที่ ฟอร์ด ออกแบบให้ยาวขึ้น ลดความแข็งกระด้างของช่วงล่างหลังได้มากพอควร แต่ไม่ถึงกับนุ่ม ซึ่งน่าจะเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังเน้นการใช้งานบรรทุก
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถกระบะรุ่นเดียวในตลาดที่ติดตั้งเหล็กกันโคลงทั้งหน้า/หลัง ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น และเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แม้ในรถยกสูง
ส่วนเรื่องระบบเบรคนอกเหนือจากระบบ เอบีเอส 4 ช่องทาง อีบีดี และมี จี-เซนเซอร์ (G-SENSOR) เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน คอยคำนวณน้ำหนักบรรทุกและความเร็วของรถ ทำให้หยุดรถได้อย่างนุ่มนวลและมั่นใจมากขึ้นแม้ในสภาพถนนลื่น
สรุป
คุ้มค่า น่าใช้กว่าเดิม
ถ้าชอบกระบะมาดเข้ม หน้าดุ ตัวรถเรียบง่ายสไตล์อเมริกัน เรนเจอร์ ใหม่ ทำได้ดีไม่แพ้ เอฟ 150 ภายในห้องโดยสารก็ยังดูสวยสปอร์ทกว่ารถซีดาน อีกหลายรุ่น แถมยังสามารถเปิดแคบใส่ของชิ้นใหญ่ได้สะดวกทั้งซ้าย/ขวา ขอบกระบะสูงขึ้น 60 มม. บรรทุกของได้มากกว่ารุ่นเดิม และต้องการความแรง เครื่องยนต์ ดูราทอร์ค 3.0 ลิตร 156 แรงม้า ที่ให้แรงบิด 38.8 กก.-ม. ก็มีกำลังเหลือ
เรื่องราคา ฟอร์ด เขาตั้งไว้ไม่สูง แคบเปิดได้ 2.5 ยกสูง อยู่ที่ 616,000 บาท หรือถ้าอยากได้ขับเคลื่อน 4 ล้อ 3.0 เอกซ์แอลเอส ราคา 689,000 บาท
ข้อมูลจำเพาะ ฟอร์ด เรนเจอร์ โอเพน แคบ ไฮ-ไรเดอร์ 3.0 เอกซ์แอลที
ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ฟอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2686-5899
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,077/1,804/1,750
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,475/1,470
ฐานล้อ (มม.) 3,000
น้ำหนักรถ (กก.) 1,151
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 70
เครื่องยนต์
แบบ ดีเซล 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 2,953
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 96.0/102.0
อัตราส่วนกำลังอัด 18.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 156/3,200
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 38.8/1,800
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ธรรมดา (จังหวะ) 5
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ ปีกนกคู่ ทอร์ชันบาร์ พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง แหนบ ชอคอับไขว้ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ลูกปืนหมุนวน พร้อมเพาเวอร์
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี และจี-เซนเซอร์
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 672,000
เรื่องโดย : ธนสาร เสาวมล
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/13665