ตะลุยทางฝุ่นสุดโหด ! ศึกแรลลีโลก สนามที่ 3 จัดขึ้นที่ประเทศเมกซิโก ในทวีปอเมริกาเหนือ เส้นทางมีความกระชับ รัดกุม และน่าตื่นเต้นมากกว่า เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และผ่านภูเขาสูงบางช่วง รวมทั้งที่ราบรอบๆ ภูเขากูอานาฮูอาโต (GUANAJUATO) ในเมืองเลอน (LEON)

ศึกแรลลีโลก สนามที่ 3 จัดขึ้นที่ประเทศเมกซิโก ในทวีปอเมริกาเหนือ เส้นทางมีความกระชับ รัดกุม และน่าตื่นเต้นมากกว่า เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และผ่านภูเขาสูงบางช่วง รวมทั้งที่ราบรอบๆ ภูเขากูอานาฮูอาโต (GUANAJUATO) ในเมืองเลอน (LEON) ภูมิประเทศของเมกซิโกมีความหลากหลาย นอกจากต้องปีนป่ายขึ้นยอดเขาที่สูงชันแล้ว ยังมีการไต่ลงสู่ทางราบด้านล่าง และผ่านหุบเหวในบางช่วง แล้วย้อนกลับไปอีกฝั่งของภูเขา พื้นผิวถนนจะเป็นเส้นทางลูกรังแห้งๆ แถมมีก้อนกรวดเล็กใหญ่สลับเป็นบางช่วง นักแข่งต้องมีฝีมือ และอาศัยความระมัดระวังในการขับเป็นอย่างมาก เมืองเลอน ที่ใช้เป็นสนามแข่งแรลลีในครั้งนี้ เป็นเมืองใหญ่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวง ระยะทางประมาณ 400 กม. มีความทันสมัยมาก พรั่งพร้อมทั้งด้านสาธารณูปโภค และอุปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เอสเอส 1 เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG) อดีตแชมพ์ปี 2003 ออกสตาร์ทโดยทำเวลาได้ดีที่สุดในสเตจแรกของเลกแรก รถ ฟอร์ด โฟคัส ที่ขับโดย มิคโค ฮีร์โวเนน (MIKKO HIRVONEN) ทำเวลาตามหลัง 6.1 วินาที ขณะที่แชมพ์โลกคนปัจจุบัน เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) ที่ปีนี้หันมาทำทีมเอง โดยใช้ชื่อ คโรนอส โททาล ซีตรอง ทำเวลาตามหลังมาห่างๆ 12.1 วินาที ด้าน มาร์คุส โกร์นโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) แชมพ์สนามที่แล้ว ทำเวลามาเป็นที่ 4 ช้ากว่า โลบ์ เพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น แม้จะมีรถของ เฮนนิง โซลเบร์ก (HENNING SOLBERG) ที่ระบบเบรคมีปัญหาเล็กน้อย แต่รถทุกคันที่ลงแข่งจบการแข่งขันในสเตจแรกของวันได้อย่างไร้ปัญหา เอสเอส 3 ที่ ซูบารุ ของ โซลเบร์ก ยังคงรักษาผู้นำเป็นจ่าฝูง โดยนำหน้าทิ้งห่าง โกรนโฮล์ม ถึง 29.4 วินาที หลังจากที่เขาทำเวลาได้ดีที่สุดในอันดับที่ 3 ของสเตจนี้ ด้าน โลบ์ ที่โดน โกร์นโฮล์ม แซงหน้ามาในสเตจที่ 2 ก็ยังคงรั้งอันดับ 4 ต่อไป "เส้นทางโหดมาก แล้วก็ลื่นสุดๆ เลย" โลบ์ บ่นกับทีมงานผ่านทางวิทยุสื่อสาร เอสเอส 6 ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของวัน แม้จะต้องเจอกับเส้นทางสุดโหด จนรถของทีมต่างๆ พังไปหลายคัน แต่ โซลเบร์ก ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยมี ฮีร์โวเนน ตามหลังมา 5.8 วินาที ด้าน โลบ์ หลังจากที่คู่ปรับคนสำคัญ โกร์นโฮล์ม พลาดท่าทำรถคว่ำจนเพลาขับเคลื่อนหักในช่วงท้ายของเอสเอส 4 เริ่มทำเวลาตีตื้นขึ้นมาโดยทำเวลาดีที่สุดในช่วงสองเอสเอสสุดท้าย จนตอนนี้ทำเวลาตามหลังอันดับ 2 เพียง 8.1 วินาทีเท่านั้น เอสเอส 8 โลบ์ กลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากที่พยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะเป็นแชมพ์ของสนามที่เมกซิโก โดยขึ้นเป็นวินเนอร์ในสเตจแรกของเลกที่ 2 นี้ บนเส้นทางจาก เอล ซาอูโก ไปยัง เมซา (MESA) ระยะทาง 25.45 กม. ซีตรอง ของ โลบ์ สามารถทำเวลาได้เร็วกว่า ซูบารุ ของ โซลเบร์ก ถึงเกือบ 10 วินาที ในชั่วเวลาเพียงเอสเอสเดียวเท่านั้น ทำให้ตอนนี้ โลบ์ ขึ้นมากลายป็นผู้นำทันที เนื่องจากมีเวลารวมเร็วกว่า โซลเบร์ก อยู่ 0.7 วินาที ขณะที่ ฮีร์โวเนน ที่กำลังเร่งความเร็วเพื่อที่จะรักษาอันดับ 3 เอาไว้ ก็ต้องพลาดท่าหลุดโค้งไปอย่างน่าเสียดาย เอสเอส 9 ระยะทาง 23.75 กม. เป็นการขับเคี่ยวกันอย่างหนักระหว่างผู้นำและรองผู้นำ โซลเบร์ก ที่มีปัญหากับการเลือกยางผิดตั้งแต่เริ่มเลกที่ 2 กลับมาเร็วสุดอีกครั้ง ในขณะที่ โลบ์ กลับทำเวลาเร็วสุดได้แค่อันดับ 2 เท่านั้น ขณะที่อีก 2 เอสเอสถัดมา โลบ์ สามารถทำเวลาเร็วที่สุดอีกครั้ง เป็นเอสเอสที่ 5 ของการแข่งขัน ส่งผลให้ตอนนี้ ซูบารุ ของ โซลเบร์ก เร็วกว่า โลบ์ เพียง 1.7 วินาทีเท่านั้น แต่ดีกว่า แมนฟเรด สโตห์ล (MANFRED STOHL) ที่ทำเวลามาเป็นที่ 3 ทำเวลาโอเวอร์ออลล์ตามหลังผู้นำถึง 3 นาที 6 วินาที เอสเอส 12 สเตจนี้เป็นของ โลบ์ อีกครั้ง โดยทำเวลาเร็วกว่าคู่ปรับ โซลเบร์ก ไปอีก 6.5 วินาที ส่งผลให้ตอนนี้ โลบ์ กลายเป็นผู้นำอีกครั้ง โดยทิ้งห่างอันดับ 2 เป็นเวลา 4.8 วินาที เอสเอส 13 แชมพ์เป็นของ โลบ์ อีกครั้งแม้ว่า โซลเบร์ก จะพยายามควบรถ ซูบารุ ทำเวลาให้ดีที่สุด แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างเอาเสียเลย เนื่องจากระบบเพาเวอร์ของพวงมาลัยเกิดขัดข้องขึ้นมาอีก ทำให้ตอนจบเลก 2 โลบ์ ทิ้งห่างออกไปไกลเป็น 28.5 วินาที เอสเอสที่ 14-16 โลบ์ ยังคงขับแบบไร้ปัญหา แม้ว่า โซลเบร์ก จะทำเวลาเร็วที่สุดในเอสเอสที่ 16 แต่ยังไม่พอที่จะแซงหน้า โลบ์ ที่มีเวลานำอยู่เกือบ 50 วินาที ส่วน สโตห์ล นักขับสังกัดทีม เปอโฌต์ ชาวออสเตรีย ก็อาศัยการขับแบบประคอง เพื่อที่จะลุ้นเข้าเส้นชัย เป็นอันดับ 3 และได้ขึ้นโพเดียมเป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้ ผลการแข่งขันในเอสเอสที่ 17 ซึ่งเป็นเอสเอสสุดท้าย ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง หลังสิ้นสุดการแข่งขัน อันดับ 1 เป็นของ เซบัสเตียง โลบ์ แห่งทีม ซีตรอง ทำเวลารวมทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง 47 นาที 8.8 วินาที ตามติดมาด้วย เพทเทร์ โซลเบร์ก ทีม ซูบารุ ทำเวลาช้ากว่าแชมพ์ประจำสนาม 48.9 วินาที และทีม เปอโฌต์ คว้าอันดับ 3 ไปครอง และได้ขึ้นโพเดียมเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ผลการแข่งขันในครั้งนี้ทำให้อันดับคะแนนรวมประเภทผู้ขับของ เซบัสเตียง โลบ์ แซงหน้า มาร์คุส โกรนโฮล์ม 5 แต้ม ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 มี 26 แต้ม ขณะที่ แมนฟเรด สโตห์ล ที่ได้อีก 6 แต้มมาหมาดๆ รั้งอันดับ 3 มี 11 คะแนน ส่วนคะแนนสะสมประเภททีม เป็นทีม ซีตรอง เช่นเดียวกันที่แซงหน้าทีม ฟอร์ด ได้สำเร็จ โดยมี 34 แต้ม ขณะที่ เปอโฌต์ และซูบารุ รั้งอันดับ 3 และ 4 ต่อไป โดยมี 21 และ 20 คะแนน ตามลำดับ สรุปผลคะแนนการแข่งขัน สนาม 1-3 ประเภทผู้ขับ อันดับ ผู้ขับ คะแนนรวม ชนะเลิศ เซบัสเตียง โลบ์ 26 รองอันดับ 1 เพทเทร์ โซลเบร์ก 21 รองอันดับ 2 แมนฟเรด สโตห์ล 11 สรุปผลคะแนนการแข่งขัน สนาม 1-3 ประเภททีมผู้ผลิต อันดับ ทีม คะแนนรวม ชนะเลิศ ซีตรอง 34 รองอันดับ 1 ฟอร์ด 30 รองอันดับ 2 เปอโฌต์ 21