ผลทดสอบ
นิสสัน มูราโน เอสยูวีหรูดีไซจ์นล้ำจากสตูดิโอ นิสสัน ดีไซจ์น อเมริกา (NDA: NISSAN DESIGN AMERICA) สร้างชื่อในอเมริกาเหนือและเป็นที่รู้จักกันดีในยุโรป ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่ผสมผสานความหรูหราและโฉบเฉี่ยวกับภายใน ที่รับอิทธิพล มาจาก 350 เซด รถสปอร์ทตัวแรง
นิสสัน มูราโน เอสยูวีหรูดีไซจ์นล้ำจากสตูดิโอ นิสสัน ดีไซจ์น อเมริกา (NDA: NISSAN DESIGN AMERICA) สร้างชื่อในอเมริกาเหนือและเป็นที่รู้จักกันดีในยุโรป ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่ผสมผสานความหรูหราและโฉบเฉี่ยวกับภายใน ที่รับอิทธิพล มาจาก 350 เซด รถสปอร์ทตัวแรง
ชื่อ มูราโน มีที่มาจากชื่อของเกาะแห่งหนึ่งในเวนิศ ประเทศอิตาลี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการผลิตเครื่องแก้ว จนเป็นที่รู้จักกันในนาม VENETIAN GLASSES
หลังจากเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2548 บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบ นิสสัน มูราโน ในเส้นทางกรุงเทพ ฯ-อุบลราชธานี-ขอนแก่น ซึ่ง 4 WHEELS ได้ร่วมสัมผัสสมรรถนะของเครื่องยนต์และระบบรองรับของรถอย่างเต็มที่ พร้อมนำรถมาวัดสมรรถนะกับเครื่องดาทรอน อีกด้วย
ภายนอก
ดีไซจ์นหรู สะดุดตา
รูปทรงของ มูราโน มีเอกลักษณ์ทั้งภายนอก ที่งดงาม ประณีต และเส้นสายรอบคันที่ลงตัวให้ความโดดเด่น และดูล้ำสมัยกว่าเอสยูวีหรู รุ่นอื่นๆ
การออกแบบภายนอกทุกชิ้นส่วนของ มูราโน ดูกลมกลืน ไล่ตั้งแต่ชุดกระจังหน้าลายซี่แบบโครเมียม ขนาดใหญ่ โคมไฟส่องสว่างขนาดใหญ่แยกส่วนชุดไฟหรี่ ไฟเลี้ยว และไฟหน้าจากกัน ไฟหน้าให้แสงสว่างแบบซีนอน ด้านข้างออกแบบรับกับตัวรถ ซุ้มล้อขนาดใหญ่พร้อมเส้นสายด้านข้างยาวจรดท้าย
ด้านหลังดูบึกบึนใหญ่โต ไฟท้ายทรงโค้งมนขนาดใหญ่ ออกแบบรับกับเส้นสายด้านข้างของตัวรถอย่างลงตัว ไฟถอยแยกส่วนมาอยู่ตรงป้ายทะเบียน ช่วยให้ด้านท้ายของ มูราโน ดูหรูหรา และสวยงามมากขึ้น สปอยเลอร์หลังออกแบบเป็นชิ้นเดียวกับฝากระโปรงท้ายพร้อมไฟเบรค ใต้กันชนล่างติดตั้งท่อไอเสียแบบท่อคู่ สไตล์สปอร์ท
ภายใน
กว้างขวาง และล้ำสมัย
ภายในให้ความรู้สึกที่ล้ำสมัย ด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์นอาร์ท กว้างขวาง และน่าประทับใจ นิสสัน เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่แตกต่าง พร้อมกับออกแบบขึ้นมาใหม่ ในหลายๆ ส่วน
เบาะนั่งคนขับมีการจัดตำแหน่งท่านั่งที่สบายสำหรับทุกรูปแบบของสรีระ ปรับความเอียงของพวงมาลัยได้ พื้นที่ทั้งด้านบน และพื้นที่ส่วนขา กว้างขวางเพียงพอ เบาะหลังสามารถรับผู้โดยสารได้ 3 คน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตรถึง 476 ลิตร สามารถเลือกพับได้ในสัดส่วน 40:60
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารมีให้เพียบ และหรูหรา ตั้งแต่การหุ้มเบาะ และอุปกรณ์ภายในด้วยหนังแท้ ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงจาก BOSE พร้อมซับวูเฟอร์
ติดตั้งอยู่ที่เดียวกับล้ออะไหล่ ให้เสียงกระหึ่มทั่วคัน
เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนขับ และผู้โดยสารภายในห้องโดยสาร ได้ติดตั้งถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยแบบม่าน พร้อมระบบความปลอดภัยควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบปรับแรงตึงเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ นอกจากนี้ มูราโน ยังผ่านการทดสอบการชน ตามมาตรฐาน EURO NCAP ในระดับ 4 ดาวอีกด้วย
จากการวัดเสียงภายในห้องโดยสาร ขณะรถจอดอยู่กับที่ สตาร์ทเครื่องยนต์ปิดแอร์วัดได้ 48.1 เดซิเบล ขณะรถจอดอยู่กับที่ สตาร์ทเครื่องยนต์เปิดแอร์ วัดได้ 51.6 เดซิเบล ขณะเปิดแอร์ที่ความแรงลมเบอร์ 1 ความเร็ว 60 กม./ชม. วัดได้ 68.6 เดซิเบล ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. วัดได้ 72.4 เดซิเบล ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. วัดได้ 72.4 เดซิเบล ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. วัดได้ 73.9 เดซิเบล
เครื่องยนต์
พลังแรง เร่งแซงดังใจ
เครื่องยนต์ของ มูราโน เป็นตัวเดียวกับที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรงของ 350 เซด แบบเบนซิน วี 6 สูบ 24 วาล์ว เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ความจุ 3,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 231 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 32.4 กก.-ม. ที่ 3,600 รตน. ระบบถ่ายทอดกำลังแบบซีวีที (CVT: CONSTANTLY VARIABLE TRANSMISSION) 6 จังหวะ ทำงานควบคู่กับระบบทิพทรอนิค เลือกอัตราทดด้วยการโยกคันเกียร์ขึ้นและลง ทำงานควบคู่กับระบบกระจายกำลังขับเคลื่อนแบบออลล์โหมด ที่จ่ายกำลังขับเคลื่อนสู่ล้อหน้าในสภาวะปกติ หากมีการลื่นไถล กำลังขับเคลื่อนจะถูกส่งออกไปยังล้อทั้งสี่ทันที
เมื่อลองขับพบว่า อัตราเร่งของ มูราโน ทำได้ดีมาก แรงบิดสูงที่รอบต่ำ ทำให้เร่งแซงและออกตัวได้รวดเร็วดังใจต้องการ เครื่องยนต์เดินเงียบ การทำงานของระบบเกียร์ซีวีที โดยรวมจัดว่านุ่มนวลดี นอกจากนี้ยังมีระบบแมนวลโฮลด์เกียร์ไว้ ซึ่งช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างต่อเนื่องได้ ทั้งยังสามารถใช้เอนจินเบรค ในการควบคุมรถในสภาพทุรกันดารแม้ใช้ความเร็วสูง เห็นได้ชัดว่ารอบเครื่องยนต์ต่ำ
ผลจากเครื่องมือวัดสมรรถนะดาทรอน พบว่าในตำแหน่ง "D" อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 9.1 วินาที ได้ระยะทาง 145.7 ม. อัตราเร่ง 0-160 กม./ชม. ใช้เวลา 22.8 วินาที ได้ระยะทาง 659.6 ม. อัตราเร่ง 0-400 ม. ใช้เวลา 17.2 วินาที และ 0-1,000 ม. ใช้เวลา 30.2 วินาที
การตอบสนองสม่ำเสมอ ของอัตราเร่งช่วงต้นและกลาง 60-100 กม./ชม. ใช้เวลา 5.2 วินาที 80-120 กม./ชม. ใช้เวลา 6.0 วินาที ในขณะที่ความเร็ว 40-120 กม./ชม. ใช้เวลา 10.2 วินาที ระยะทาง 241.4 ม.
และจากการวัดที่ความเร็วเข็มไมล์ 60 กม./ชม. ได้ความเร็วจริง 54.9 กม./ชม. ความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ความเร็วจริง 94.8 กม./ชม. ความเร็ว 140 กม./ชม. ได้ความเร็วจริง 134 กม./ชม.
ระบบรองรับ
เซทไว้นุ่ม นั่งสบาย
ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมชอคอับ ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ และชอคอับ เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร วิศวกร นิสสัน ได้พัฒนาระบบ EXTRA DAMPING LIPS ขึ้นมาสำหรับ มูราโน ซึ่งเน้นการให้ตัวที่นุ่มนวลเป็นพิเศษ
ระบบห้ามล้อ สามารถสร้างความมั่นใจในระบบความปลอดภัย โดยติดตั้งระบบป้องกันล้อลอค เป็น อุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยระบบกระจายแรงบิด ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค (ELECTRONIC BRAKE-FORCE DISTRIBUTION) และระบบช่วยเบรค (BRAKE ASSIST)
จากการทดสอบในเส้นทางสายอีสาน กรุงเทพ ฯ-อุบลราชธานี-ขอนแก่น ในการเดินทางไป ไม่ได้ใช้เส้นทางหลัก วิ่งทางเลี่ยงเมือง ส่วนใหญ่เป็นถนนเลนเดียว พบว่าระบบรองรับที่เซทมาใน นิสสัน มูราโน เน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก เหมาะสำหรับใช้งานบนถนนปกติธรรมดา หรือในสภาพถนนดี แต่หากเดินทางในเส้นทางทุรกันดาร รถหรูระดับพรีเมียมคันนี้ ไม่ค่อยชอบถนนขรุขระมากนัก สังเกตได้จากการโยนตัวของรถ ที่มีให้เห็นบ้างเมื่อเจอถนนชำรุด
ขากลับใช้เส้นทางสายหลักจากขอนแก่น-กรุงเทพ ฯ สถาพถนนดี มูราโน สามารถโชว์สมรรถนะความนุ่มนวลของระบบรองรับและความเงียบในห้องโดยสาร ที่นั่งสบาย ทำให้ผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วยหลับสบายตลอดเส้นทาง แม้บางครั้งใช้ความเร็วถึง 180 กม./ชม. ส่วนเบรคยังไว้ใจได้ทุกสภาพความเร็ว ด้วยระบบห้ามล้อแบบจาน พร้อมรูระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและหลัง การขับด้วยความเร็วสูงบนไฮเวย์ มีเสียงกระแสลมเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากการออกแบบที่ให้ความสำคัญเรื่องอากาศพลศาสตร์มากที่สุด ทำให้การใช้ความเร็วสูงบนไฮเวย์ เต็มไปด้วยความมั่นใจ แม้มีลมปะทะด้านข้าง ก็มีอาการถึงผู้โดยสารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พลังจากเครื่องยนต์ วี 6 สูบ สามารถฉุดตัวถังหนัก 1,850 กก. ให้แล่นฉิวไปได้อย่างน่าประทับใจ
ผลการวัดประสิทธิภาพเบรคจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. หยุดนิ่งได้ในระยะ 16.2 ม. ในเวลา 1.8 วินาที คิดเป็นแรงจี 1.02 และความเร็ว 80 กม./ชม. หยุดนิ่งได้ในระยะ 29.4 ม. ในเวลา 2.5 วินาที คิดเป็นแรงจี 0.97 ตัวเลขที่เห็นบอกถึงประสิทธิภาพของเบรคที่ดีและมั่นใจได้ เมื่อเทียบกับน้ำหนักและขนาดตัวรถ
สรุป
มูราโน เป็นเอสยูวีหรู เลือดใหม่ของ นิสสัน ที่ดูดีมาก รูปทรงภายนอกหรูหรา ล้ำสมัย ด้วยดีไซจ์นที่แตกต่าง พร้อมสมรรถนะบนทางเรียบที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะกำลังเครื่องยนต์ที่เร่งแซงได้ดังใจ พร้อมระบบเกียร์ซีวีที ที่เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล รอบเครื่องยนต์ต่ำ ช่วยให้ยอมรับกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้ กับราคาที่ตั้งไว้ที่ 4.4 ล้าน น่าจะทำให้เศรษฐีเมืองไทยหันมาสนใจ เอสยูวีหรูล้ำคันนี้ ได้ไม่ยาก
ข้อมูลจำเพาะ นิสสัน มูราโน
ผู้จำหน่าย บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด โทร. 0-2257-4200
มิติและน้ำหนัก
กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,880/4,770/1,685
ความกว้างฐานล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) 1,620/1,620
ความยาวฐานล้อ (มม.) 2,825
น้ำหนัก (กก.) 1,850
เครื่องยนต์
ชนิด เบนซิน วี 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 3,498
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 95.5/81.4
อัตราส่วนกำลังอัด 10:3
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 234/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 32.4/3,600
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีด มัลทิพอยท์
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) ซีวีที 6
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท
หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง ชอคอับ
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟืองและตัวหนอน
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส และอีบีดี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน มีช่องระบายความร้อน
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน เมษายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/13573