โดยปกติเราถือว่า บริษัทผู้ให้เช่าซื้อรถ หรือที่เรียกว่า "ไฟแนนศ์" ซึ่งมีคนเปรียบเปรยว่าพิษสงพอๆ กับไฟไหม้ เล่นเอาชาวบ้านจนลงอย่างเห็นๆ ถ้าขืนเป็นหนี้แบบส่งเดช เพราะขานี้คือ "เซียน" ไม่เป็นสองรองใครในการตามล้างตามเช็ดลูกหนี้

โดยปกติเราถือว่า บริษัทผู้ให้เช่าซื้อรถ หรือที่เรียกว่า "ไฟแนนศ์" ซึ่งมีคนเปรียบเปรยว่าพิษสงพอๆ กับไฟไหม้ เล่นเอาชาวบ้านจนลงอย่างเห็นๆ ถ้าขืนเป็นหนี้แบบส่งเดช เพราะขานี้คือ "เซียน" ไม่เป็นสองรองใครในการตามล้างตามเช็ดลูกหนี้ ไม่เชื่อก็ต้องบังคับให้เชื่อ สำหรับงานนี้คดีนี้ ไฟแนนศ์โดนเบี้ยว เล่นเอามึนตึ้บ มาดูสิว่า เขาแก้เกมยังไง ตามเชคบิลล์ใครได้บ้าง เรื่องของเรื่องเป็นการทำมาค้าขายตามปกติ ที่ผ่านๆ มาไม่มีปัญหา เมื่อมีคนหน้าแหลมมาขอผ่อนส่งรถกระบะยี่ห้อขาประจำของชาวบ้าน ไม่ใช่ขาประจำที่ทำให้นายกแม้วด่า "แม่ง" บริษัทไฟแนนศ์ ไม่ขัดข้อง ไปซื้อรถจาก "บริษัท คุณภาพดี จำกัด" ซึ่งเป็นตัวแทนช่วง ไปเอารถจาก "บริษัท เหนือชั้น จำกัด" มาขายอีกทอดหนึ่ง ราคาเกือบสี่แสนบาท ไฟแนนศ์นำมาให้ลูกค้าเช่าซื้อหาดอกเบี้ยตามลีลา ดูๆ แล้วไม่น่ามีปัญหา แต่มีจนได้ ถึงเวลาจดทะเบียน บริษัทคุณภาพดี ทำอะไรให้ไม่ได้ ไม่มีสมุดคู่มือจดทะเบียนเพื่อส่งมอบ บ่ายเบี่ยงโน่นนี่ไปตามเรื่องตามราว พอไล่เบี้ยเข้าจริงๆ ได้ความว่า เชคที่บริษัทคุณภาพดี เซ็นสั่งจ่ายให้บริษัทเหนือชั้น เป็นค่ารถเด้งดึ๋งๆ บริษัทเหนือชั้น จึงดึงเกม ไม่ยอมส่งมอบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ เกี่ยงงอนให้เคลียร์ค่ารถก่อน ลูกค้าที่ซื้อรถไปก้มหน้าก้มตาหาเงินผ่อนส่งอยู่ฮึดๆ เดือดร้อนจึงโวยวายใส่บริษัทไฟแนนศ์ ในทำนองว่า ห่วยแตก ขายรถแบบนี้ได้อย่างไร ? จะไปร้อง สคบ. ตอนนั้นยังไม่มีปรากฏการณ์เดือนเพ็ญ ไม่งั้นรถอาจโดนทุบก็เป็นได้ บริษัทไฟแนนศ์ เสียเชิง ขายรถไม่รู้เท่าไรไม่มึนขนาดนี้ ในที่สุดจึงยื่นฟ้องบริษัทคุณภาพดี เป็นจำเลยที่ 1 บริษัทเหนือชั้น เป็นจำเลยที่ 2 และลามไปถึงบริษัทใหญ่ผู้ผลิตรถเป็นจำเลยที่ 3 บังคับให้จดทะเบียนโอนรถให้ไฟแนนศ์ ส่งมอบเอกสารสำหรับรถมาด้วย ไม่จัดการให้คืนราคาค่ารถทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย เรียกค่าเสียชื่อเสียงอีก 1 แสนบาท บริษัทคุณภาพดี ซึ่งจ่ายเชคเด้ง หลบหน้าไม่สู้คดี ส่วนบริษัทเหนือชั้น สู้คดี ให้การว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับไฟแนนศ์ ไม่ได้ขายรถให้ไฟแนนศ์ เมื่อบริษัทคุณภาพดี เบี้ยว ปล่อยให้เชคเด้ง จะโอนรถให้ได้อย่างไรรถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ไฟแนนศ์ไม่มีอำนาจฟ้องข้ามชอท มาบังคับบริษัทเหนือชั้น ขอให้ยกฟ้อง สำหรับจำเลยที่ 3 เจ้าของค่ายรถยี่ห้อที่มีปัญหาในคดีนี้ คงพูดจากับบริษัทไฟแนนศ์ ว่าอั๊วไม่เกี่ยว พวกลื้อซื้อขายรถกันเองมาฟ้องได้อย่างไร บริษัทไฟแนนศ์ จึงขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 เล่นงานเฉพาะจำเลยที่ 1 และ 2 ศาลชั้นต้น พิจารณาแล้วตัดสินให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ส่งมอบเอกสารในการจดทะเบียนรถ และเอกสารประกอบการจดทะเบียนอื่นๆ ให้ไฟแนนศ์ ถ้าไม่ส่งมอบ ให้คืนราคาค่ารถทั้งหมด เมื่อไฟแนนศ์ได้เงินแล้วให้ส่งมอบรถคืนในสภาพเรียบร้อยเหมือนตอนที่ได้รับรถมา บริษัทคุณภาพดี นั้นหายหัวไปเลยอย่างที่บอก ส่วนบริษัทเหนือชั้น จำเลยที่ 2 ตกที่นั่งลำบาก ขายรถไปไม่ได้เงินแล้วยังต้องโอนรถให้เขาไป ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชนะคดีด้วยการยื่นอุทธรณ์ เถียงว่าไม่เกี่ยว ไฟแนนศ์ ฟ้องไม่ได้ ปรากฏว่า ได้เฮ ศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้ว พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องบริษัทเหนือชั้น ไล่ต้อนได้เฉพาะจำเลยที่ 1 บริษัทไฟแนนศ์ รู้ตัวว่าเอาอะไรจากบริษัทคุณภาพดี ไม่ได้ เจ๊งไปแล้ว จึงออกแรงเป็นยกสุดท้าย ยื่นฎีกาเพื่อมัดคอบริษัทเหนือชั้น ยี่ปั๊วตัวจริงให้ได้ ศาลฎีกา คว้าสำนวนคดีนี้มาพิจารณาอย่างสบายๆ เพราะไม่ใช่คดีใหญ่หรือยุ่งยาก แล้วชี้ขาดออกมาเป็นฉากๆ ว่า ข้อแรก กรรมสิทธิ์รถเป็นของใคร เมื่อได้ความว่าบริษัทเหนือชั้น ทำสัญญาขายรถให้บริษัทคุณภาพดี ส่งมอบรถแล้ว ได้เชคมาแล้ว ถือว่าเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เมื่อไม่มีเงื่อนไขเป็นอย่างอื่น กรรมสิทธิ์รถเปลี่ยนมือไปแล้ว จะอ้างเหตุว่า เชคไม่ผ่าน รถยังเป็นของบริษัทเหนือชั้น อ้างไม่ได้ ข้อสอง รถเป็นทรัพย์สินที่มีการควบคุมเรื่องทะเบียน นอกจากผู้ขายต้องส่งมอบรถให้ผู้ซื้อนำไปใช้สอยแล้ว ยังมีหน้าที่ส่งมอบเอกสารชุดจดทะเบียนให้บริษัทคุณภาพดี ที่ซื้อไป และบริษัทคุณภาพดี ต้องส่งเอกสารต่อให้บริษัทไฟแนนศ์ ที่ซื้อไปให้ลูกค้าผ่อนส่ง ข้อสาม แม้บริษัทไฟแนนศ์ ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับบริษัทเหนือชั้น แต่เมื่อเขาทวงถามให้โอนรถมายังบริษัททั้งสอง แล้วบริษัทคุณภาพดีเพิกเฉย ถือว่าบริษัทคุณภาพดีลูกหนี้ของบริษัทไฟแนนศ์ ไม่ใช้สิทธิ์เรียกร้องที่มีอยู่ เขาเสียประโยชน์ บริษัทไฟแนนศ์ จึงฟ้องร้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ เพื่อรักษาสิทธิ์ของเขา ศาลอุทธรณ์ ตัดสินยกฟ้องบริษัทเหนือชั้น ศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ นั่นคือให้จำเลยทั้งสองรับผิด เห็นหรือยังว่าเซียนอย่างไฟแนนศ์ ยังสะดุด โดนเบี้ยว ต้องออกแรงเสียเวลาเสียชื่อไม่น้อย งานนี้ผู้ตกที่นั่งซวย ปวดกะโหลกไปด้วยกับการเบี้ยวของบริษัทคุณภาพดี มีอยู่ 3 ฝ่ายคือ ผู้เช่าซื้อรถ ผ่อนแล้วคงต่อทะเบียนประจำปีใช้รถไปไหนมาไหนตามปกติไม่ได้ โดนตำรวจจับ ทางแก้ผู้เช่าซื้อต้องแยกเขี้ยวใส่บริษัทไฟแนนศ์ ถ้ามันเนิ่นนานมีการฟ้องร้องเสียเวลาเป็นปีๆ ไฟแนนศ์ ต้องหารถคันใหม่ให้เขา มันถึงจะถูกต้อง หมายความว่าไฟแนนศ์ ซวยกะเขาด้วย เสียชื่ออีกต่างหาก โดนมองว่าเอารถไม่มีทะเบียนไปขาย บริษัทเหนือชั้น เอเยนต์รถที่ปล่อยรถให้ตัวแทนช่วงอย่างบริษัทคุณภาพดี ก็ซวยเต็มๆ เสียรถทั้งคันได้แค่เชคเด้ง แสดงว่าไว้เนื้อเชื่อใจเขาเกินไปเลยโดนเต็มๆ จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2546 คดีรถ ตีพิมพ์ใน" โฟว์วีล" ส่งไป 28 กพ. 48