ด้วยกระแสรุมเร้าที่ไม่ค่อยจะเป็นใจเท่าไหร่นักกับสภาวะการลื่นไหลของตลาดรถยนต์ในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประจานความไม่เอาไหนของคุณภาพรถยนต์ที่ผลิตออกขายในตลาดเมืองไทย และการขาดความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคอย่างเหมาะสม ตลอดจนเรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถยนต์กำลังสร้างปัญหาอย่างหนักให้กับผู้ใช้รถโดยรวม ก่อนหน้านี้ผู้ใช้รถส่วนหนึ่งมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันเบนซินที่ทะยานพุ่งขึ้นสูงจนทาบกับราคาทองคำ ตอนนี้ไม่ว่าผู้ใช้รถในกลุ่มไหนก็ได้รับความเดือดร้อนเสมอภาคกันแล้ว เมื่อราคาน้ำมันดีเซลมีการปรับราคาครั้งสำคัญ ขึ้นราคาทีเดียวลิตรละ 3 บาท เล่นเอาผู้ใช้รถเครื่องดีเซลถึงขั้นเกิดอาการชอคไปตามๆ กัน แล้วก็ยังมีตัวแปรเด็ดๆ ผสมเข้ามาอีกเรื่องหนึ่งเสมือนเป็นการติดเบรคการซื้อการขายให้ชะงักลงไปชั่วขณะหนึ่งด้วย นั่นก็คือ งานมอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการ และการประชุม ไบเทค บางนา ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ใครๆ ก็คุ้นเคยกันอยู่ว่า งานในลักษณะนี้ จะเป็นช่วงที่บริษัทรถยนต์ทั้งหลายต่างก็พยายามสรรหาแคมเปญเด็ดๆ ชนิดที่ไม่ค่อยจะมีปรากฏให้เห็นบ่อยนัก มาเสนอสนองเป็นการจูงใจให้คนที่กำลังคิดอ่านจะซื้อรถมาใช้ต้องหยุดชะลอความต้องการเอาไว้ก่อนชั่วคราว ค่อยมาคิดอ่านเลือกซื้อเอาใหม่ในช่วงของงาน เท่ากับว่าเป็นการอดเปรี้ยวไว้กินหวานยังไงยังงั้น ด้วยเหตุนี้ ยอดขายรถในช่วงก่อนที่จะถึงงานมอเตอร์โชว์ เลยแย่ลงไปจากปกติธรรมดาบ้าง พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ถ้าจะมองภาพให้มันชัดเจนก็ต้องรีเพลย์ภาพของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปลายปีที่แล้วกันหน่อย ภาพมันออกมาคล้ายคลึงกัน ก่อนจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ น้ำทะเลตามชายหาดลดวูบวาบหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่อีกพักเดียวก็จะกลับมาอีกทีกลายเป็นคลื่นยักษ์ถล่มไม่เลี้ยงนั่นละ หลังงานมอเตอร์โชว์ จะเกิดคลื่นยักษ์ทางด้านยอดขายอย่างถล่มทลายเหมือนอย่างนั้นหรือเปล่า ต้องคอยตามดูกันอีกที ก็แค่ยอดขายรถในเดือนมีนาคม-เมษายน ที่จะปรากฏให้เห็นกันอีกที ถ้ายอดขายรถยังไม่หวือหวาก็แสดงให้เห็นว่า งานมอเตอร์โชว์ ไม่ใช่ตัวต้นเหตุต่อสภาพการขายแบบคลื่นยักษ์สึนามิแน่ ส่วนสาเหตุยอดขายรถกำลังจะเข้าสู่สภาวะซบเซาจะมีต้นตอมาจากเรื่องอะไรนั้น ค่อยมาว่ากันอีกที แต่ก็ขอบอกไว้หน่อยว่า คลื่นยักษ์สึนามิ เคยเกิดขึ้นกับวงการตลาดรถบ้านเรามาแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากงาน MOTOR EXPO นั่นไง ยอดขายรถพุ่งถล่มทลายให้เห็นกันมาแล้ว จากที่เคยปรากฏเดือนละประมาณ 4-5 หมื่นคัน กลายเป็น 7 หมื่นคันต่อหน้าต่อตาเชียวละ เอาเป็นว่ามาพูดถึงยอดขายรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ กันดีกว่า ในเดือนนี้มียอดขายรถยนต์ทั้งหมดเพียงแค่ 47,038 คันเท่านั้น ยอดขายระดับนี้เมื่อเทียบกับที่เคยทำยอดขายเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ยอดขายหดหายไปถึง 2,016 คัน หรือออกอาการเปลี้ยลงไปถึง ร้อยละ 4.1 ยอดขายรถในตลาดหลักแต่ละกลุ่มโงหัวไม่ขึ้นเกือบทั้งหมด ตลาดรถเก๋ง เจอเข้าหนักที่สุด จะเป็นเพราะปัญหาน้ำมันแพง หรือปัญหาวิกฤตศรัทธาที่มีต่อรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ก็ยังไม่สู้จะชัดเจนเท่าไรนัก ยอดขายรถเก๋งเดือนนี้ เหลือเพียงแค่ 12,714 คัน น้อยกว่าที่เคยขายได้ในเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 1,816 คัน หรือหดหายไป ร้อยละ 12.5 เก๋งโตโยตา ยังรักษาระดับความเป็นผู้นำตลาดเอาไว้ได้เหมือนเดิม ถึงแม้ยอดขายจะลดน้อยลงไปจากที่เคยขายได้ไม่น้อยก็ตามที ส่วนยอดขายของเก๋งฮอนดา นั้นลดวูบวาบจนถูก เก๋งโตโยตา ทิ้งห่างไปเกือบครึ่ง ยอดขายรถเก๋งในช่วงระยะเวลา 2 เดือนของปีนี้ ขายน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 4,176 คัน ยอดขายลดลง ร้อยละ 14.6 มียอดขายได้ทั้งสิ้นรวม 24,335 คัน ตลาดรถพิคอัพ 4x2 ซึ่งต้องถือว่าเป็นกำลังหลักของตลาดรถในปัจจุบัน และเป็นตลาดที่มีการต่อสู้เคลื่อนไหวกันค่อนข้างจะรุนแรงที่สุดระหว่างยักษ์พิคอัพ 2 ยี่ห้อ คือ โตโยตา กับอีซูซุ เดือนนี้ก็มีอาการแผ่วปรากฏให้เห็นเหมือนกัน มียอดขายทั้งหมด 24,839 คัน ขายน้อยกว่าปีก่อน 756 คัน หรืออัตราการเติบโตของตลาดลดลง ร้อยละ 3.0 พิคอัพ อีซูซุ ยังคงแสดงศักยภาพให้เห็นว่าเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง โตโยตา ตลอดกาล ในขณะที่พิคอัพ อีซูซุ ทำยอดขายได้ 10,222 คัน พิคอัพ โตโยตา ทำได้แค่ 6,126 คันเท่านั้น รวม 2 เดือนของปีนี้ ยอดขายของพิคอัพ 4x2 อยู่ที่ 55,271 คัน ยังขายได้มากกว่าปีที่แล้ว 7,027 คัน อนาคตการเติบโตยังอยู่ที่ ร้อยละ 14.6 ตลาดรถพิคอัพ 4x4 ยังคงรักษาเนื้อรักษาตัวได้ดีพอๆ กับเมื่อปีที่แล้ว เดือนนี้มียอดขายทั้งสิ้น 2,608 คัน ตลาดยังโตที่ ร้อยละ 1.6 พิคอัพ 4x4 ของ โตโยตา ยังเหนือกว่าพิคอัพยี่ห้ออื่นๆ อยู่หลายขุม ตลาดรถพิคอัพ 4x4 ในรอบ 2 เดือนของปีนี้ มียอดขายทั้งหมด 6,904 คัน ยังพอจะหวังได้ถึงอนาคตในวันข้างหน้า เพราะอัตราการเติบโตของตลาดมีถึง ร้อยละ 48.8 ตลาดรถเอสยูวี กลับมามีสีสันอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซามานาน ด้วยฝีมือของ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ยอดขายในเดือนนี้อยู่ที่ 2,776 คัน ขายมากขึ้นถึง ร้อยละ 95.6 โตโยตา ขยับขึ้นมานำขาดในตลาดกลุ่มนี้ ทำเอาเอสยูวียี่ห้ออื่นๆ ที่เคยผงาดอยู่ในท้องตลาดหงอยไปเลย ยอดขายรถเอสยูวี ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ทำได้แล้ว 4,547 คัน ตลาดโตขึ้นจากเดิม ร้อยละ 57.1 ตลาดรถเอมพีวี กลุ่มตลาดรถที่คาดหวังกันว่า จะมีอนาคตสดใสแทนที่ตลาดรถเอสยูวี แต่มาถึงเดือนนี้ ชักไม่แน่ใจเสียแล้ว มียอดขายแค่ 1,564 คัน ลดน้อยลงไปจากเดิมถึง ร้อยละ 35.8 เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ โตโยตา สยายปีกเข้ามาครอบครองได้อย่างเด็ดขาดเหนือชั้นยี่ห้ออื่นๆ รวมยอดขาย 2 ดือน มียอดขายได้แล้วทั้งหมด 3,130 คัน ตลาดลดลง ร้อยละ 31.2 ยอดรวมการขายรถทั้งหมดในระยะเวลา 2 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 98,932 คัน เฉียดที่จะขึ้นหลักแสนคันแล้ว ถึงจะมีอัตราการเติบโตให้เห็นถึง ร้อยละ 6.2 แต่ก็ยังไม่ค่อยน่าไว้ใจอยู่ดี !