คอลัมน์ประจำ
คอนเซพท์พิคอัพสายพันธุ์อเมริกัน ขนานแท้
ย้อนกลับไปเมื่อปี คศ. 1947 รถขุดและรถปั้นจั่นสำหรับงานก่อสร้างสีเหลืองแสบสัน ที่ใช้ชื่อว่า "ทนกา" (TONKA)
ได้ถูกออกแบบและผลิตขึ้นด้วยฝีมือของ เมาน์ด เมทัลคราฟท์ คัมพานี (MOUND METALCRAFT COMPANY)
แล้วนำไปขายตามโรงเรียนเล็กๆ แถบทะเลสาบมินเนทนกา (LAKE MINNETONKA)
รัฐมินเนโซทา (MINNESOTA) ต่อมาในปี คศ. 1949 ไมที ทนกา ดัมพ์ (MIGHTY TONKA DUMP)
รถบรรทุกดินรุ่นแรกของ ทนกา ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดของ ทนกา
จนชื่อของมันถูกบันทึกไว้ในหอเกียรติยศ (HALL OF FRAME) ในฐานะ "ของเล่น" ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
และเป็นส่วนช่วยให้ "เด็กวัยเตาะแตะ" เรียนรู้ได้เร็วยิ่งขึ้น !
ฟอร์ด "ไมที เอฟ-350 ทนกา" (MIGHTY F-350 TONKA) รถแนวคิดที่สามารถถ่ายทอดความทรงจำในวัยเด็ก
ผ่านรถบรรทุกของเล่นคันจิ๋วเมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว มาสู่พิคอัพขนาดยักษ์คันนี้ได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ ฟอร์ด
ยังเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบสุดไฮเทค แบบ วี 8 DOHC 32 วาล์ว ความจุ 6.0 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุดถึง 350
แรงม้า มาเป็นขุมพลังให้กับมัน และออกแบบภายในห้องโดยสารให้ดูล้ำสมัยสุดขั้ว
ก่อนนำออกไปอวดโฉมครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ นอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล จนทำให้บรรดาผู้คลั่งไคล้
"ตัวลุยร่างยักษ์" ทั้งหลาย น้ำลายไหลไปตามๆ กัน
ภายนอก
ดุดันสุดขั้ว
เอฟ-350 ทนกา ถูกออกแบบขึ้นมา เพื่อรอสืบทอดตำแหน่ง "พิคอัพที่ขายดีที่สุดในอเมริกา" ต่อจากรุ่นพี่ "เอฟ-ซีรีส์"
ทั้งหลาย ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับ ฟอร์ด ตั้งแต่ครั้งอดีต และ ทนกา ก็ยังไม่ทิ้งความแข็งแกร่ง
ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของพิคอัพตระกูล เอฟ ไปแม้แต่น้อย สังเกตได้จากเส้นสายรอบคัน ที่สะท้อนความดุดัน
บึกบึน ออกมาได้อย่างชัดเจน และนอกจากสีเหลืองแสบสันของมันแล้ว ทีมออกแบบของ ฟอร์ด
ยังนำโครเมียมมาตกแต่งส่วนต่างๆของตัวรถได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า กันชนรอบคัน บันไดข้างทรงเท่
รวมทั้งชิ้นส่วนกระจุกกระจิกอีกหลายชิ้น
ส่วน"ความล้ำสมัย" ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถแนวคิดทั้งหลาย เจ้า เอฟ-350 ทนกา ก็มีมาให้เพียบพร้อมเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น ชุดไฟรอบคันแบบ แอลอีดี (LED: LIGHT EMITTING DIODES) ที่ให้แสงสว่างได้มาก
และคมชัดกว่าหลอดฮาโลเจน พร้อมระบบกล้องวีดีโอ ที่ช่วยเป็น "ตาหลัง" ในขณะถอยรถเข้าจอด
รวมทั้งคอยส่งสัญญาณเตือน เมื่อผู้ขับ ขับรถเข้าใกล้ขอบทางมากเกินไปได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เอฟ-350 ทนกา ยังมีประตูแบบเปิดแยกออกจากเสาบี (B-PILLAR) หรือที่เรียกว่า "ประตูฆ่าตัวตาย"
(SUICIDE DOOR) ที่ช่วยให้ก้าวเข้า/ออกห้องโดยสารสะดวกขึ้น เช่นเดียวกับที่รถแนวคิดส่วนใหญ่ใช้กัน
และจากความสูงของตัวรถ ฟอร์ด จึงออกแบบให้ส่วนกลางของฝากระบะ ต่ำกว่าขอบทั้งสองข้าง
เพื่อให้ผู้ขับมองเห็นพื้นถนนขณะถอยหลังได้มากขึ้น
ภายใน
สุดยอดเทคโนโลยี
การออกแบบห้องโดยสาร ได้แรงบันดาลใจมาจากห้องควบคุมบนเครื่องบิน
ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย แถมอุปกรณ์หลายชิ้นยังเป็นแบบสแนพ-ออน (SNAP-ON)
ที่เจ้าของรถสามารถถอด/ประกอบได้ด้วยตนเอง เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
ฟอร์ด เลือกใช้สีน้ำเงินเข้มมาตกแต่งห้องโดยสารทั้งหมด
แล้วตัดด้วยอลูมินัมและสเตนเลสส์เพื่อไม่ให้ห้องโดยสารดูมืดทึบจนเกินไป คอนโซลหน้าขนาดใหญ่
ติดตั้งจอแสดงผลแบบดิจิทอลไว้ด้านบนสุดของคอนโซล ส่วนบริเวณคอนโซลกลาง เป็นที่อยู่ของด้ามเกียร์
และสวิทช์ควบคุมระบบ ทอร์ค มาสเตอร์ (TORQUE MASTER SYSTEM)
เหนือแผงหน้าปัด ติดตั้งมาตรวัดองศาเอียงของตัวรถ แบบทรงกลม 3 ชิ้น
ซึ่งสามารถบันทึกค่าสูงสุดและเรียกกลับมาดูได้ ส่วนมาตรวัดที่เป็นเข็มทิศ จะถูกเชื่อมต่อกับระบบนำทาง
เพื่อการทำงานที่สมบูรณ์แบบขึ้น นอกจากนี้ มาตรวัดรอบ ยังเชื่อมต่อกับระบบ ทอร์ค มาสเตอร์
เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรอบเครื่องที่ให้กำลังได้สูงที่สุด ประหยัดที่สุด
หรือรอบเครื่องที่เหมาะสมกับการขับขี่ทางวิบากมากที่สุด เป็นต้น
เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่ทำให้ง่ายต่อการควบคุมรถในทุกสภาวะ
พร้อมระบบความจำสมบูรณ์แบบ ส่วนเบาะหลังสามารถพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ ด้านใต้เบาะ
ออกแบบให้เป็นกล่องสำหรับเก็บเครื่องมือประจำรถ
เครื่องยนต์
ดีเซล วี 8 สุดไฮเทค
ขุมพลังขนาด 6.0 ลิตร วี 8 ไดเรคท์อินเจคชัน 32 วาล์ว เป็นเครื่องยนต์ดีเซลต้นแบบ ที่ทีมวิศวกรของ ฟอร์ด
ปลุกปั้นจนสามารถปั่นกำลังสูงสุดได้ถึง 350 แรงม้า ที่ 3,300 รตน. และให้แรงบิดมหาศาล 61.2 กก.-ม. ที่รอบต่ำแค่
2,000 รตน. จากผลงานของเทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค (EVRT: ELECTRONIC VARIABLE
RESPONSE TURBOCHARGING) ที่ช่วยให้เครื่องยนต์มีช่วงกำลังกว้างขึ้น
จากการแปรผันเทอร์ไบน์ให้ดูดอากาศได้เพียงพอ และเหมาะสมกับแต่ละรอบการทำงานของเครื่องยนต์
นอกจากนี้ ขุมพลังของ เอฟ-350 ทนกา ยังใช้รางหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ให้แรงดันสูงถึง 24,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว
ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ จึงส่งผลให้เครื่องยนต์ผลิตกำลังออกมาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และยังคายมลพิษต่ำอีกด้วย
เมื่อทำงานร่วมกับระบบหมุนเวียนแกสจากไอเสีย (EGR: EXHAUST GAS RECIRCULATION) ที่ส่งแกส
กลับมายังห้องเผาไหม้อีกครั้ง ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลของ ฟอร์ด กลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่คายมลพิษต่ำ
มากทีเดียว
อีกจุดเด่นของ เอฟ-350 ทนกา ก็คือระบบ เอชแอลเอ (HLA: HYDRAULIC LAUNCH ASSIST)
ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยระบบ เอชแอลเอ นึ้
จะทำหน้าที่สะสมพลังงานของเครื่องยนต์ไว้ในรูปแบบของแรงดันไฮดรอลิค ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังลดความเร็วลง
เพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้งตอนเร่งเครื่อง (ซึ่ง ฟอร์ด คุยว่า จะได้กำลังกลับคืนมาถึงร้อยละ 80 !)
ทำให้เครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้แรงมากเมื่อต้องออกรถอีกครั้ง
ในส่วนของระบบถ่ายทอดกำลังก็ถูกพัฒนาจนมีสมรรถนะที่สุดยอดเหนือใคร ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ
ซึ่งออกแบบให้มีอัตราทดของเกียร์ 1 และ 2 ใกล้เคียงกันมากขึ้น ทำให้ได้อัตราเร่งที่กระฉับกระเฉงกว่าเดิม
ทำงานร่วมกับระบบควบคุมที่ ฟอร์ด เรียกว่า เพาเวอร์ทอร์ค (POWER TORQUE) ซึ่งจะคอยตรวจจับการทำงานของ
เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ความเร็วรถ และวิธีการขับของผู้ขับขี่
เพื่อเลือกเวลาและตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมที่สุด และยังมีระบบ เพาเวอร์ เทคออฟ (POWER TAKOFF)
ช่วยเพิ่มช่วงกำลังของเครื่องยนต์ให้กว้างขึ้นในทุกๆ เกียร์อีกด้วย
ระบบรองรับ
หมดยุคแหนบแผ่นแล้ว !
ฟอร์ด หันไปพัฒนาระบบรองรับแบบใช้อากาศ (AIR SUSPENSION) จนสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี
ทั้งยังให้ความนุ่มนวลไม่แพ้รถยนต์นั่งอีกด้วย นอกจากนั้น ระบบ แอร์สปริง ของ เอฟ-350 ทนกา
ยังสามารถลดระดับความสูงของตัวถังรถลงได้ 5 นิ้ว ทุกครั้งที่ประตูรถเปิดออก และจะยกกลับขึ้นไปสู่ตำแหน่งเดิม
เมื่อประตูทุกบานปิดสนิทแล้ว
ระบบเบรคใช้แบบจานทั้งสี่ล้อ พร้อมระบบป้องกันล้อลอคแบบ 4 แชนแนล ประกบไว้ด้วยล้อขนาด 22 นิ้ว
แล้วรัดไว้ด้วยยาง กูดเยียร์ ลายสุดโหด ขนาด 315/60 R22 แถมยังตอกย้ำความเป็น ฟูลล์ไซส์ ทรัค
ด้วยล้อหลังฝั่งละ 2 วง หรือถ้ารวมล้อทั้งหมดก็จะได้ถึง 6 วงทีเดียว !
ล้อมกรอบ
"ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่" ที่จะทำการเปลี่ยนโฉมใหม่ในเมืองไทยเร็วๆ นี้ จะเป็นรถพิคอัพคันแรก
ที่นำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยของ เอฟ-350 ทนกา มาใช้ เพื่อเปิดหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์อีกครั้ง
ด้วยการนำจุดเด่นจากกระจังหน้าที่ดุดัน บึกบึน ของ เอฟ-350 ทนกา มาเพิ่มความเท่และแข็งแกร่งให้กับ เรนเจอร์
ใหม่ พร้อมนำประตูแคบหลังแบบเปิดได้ มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า/ออกห้องโดยสาร
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กับพิคอัพของ ฟอร์ด มาเป็นเวลายาวนาน มาใช้กับ เรนเจอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรก
นอกจากนั้น ฟอร์ด ยังคงความเป็น "กระบะนิรภัย" ไว้ได้อย่างครบถ้วนเช่นเคย ด้วยโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง
และอุปกรณ์ปกป้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งช่วยให้คุณและทุกชีวิตที่อยู่ใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่
อุ่นใจได้ตลอดการเดินทาง...เตรียมตัวพบกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้ เร็วๆ นี้
ข้อมูลจำเพาะ ฟอร์ด ไมที เอฟ-350 ทนกา
ผู้ผลิต FORD MOTOR COMPANY
มิติ และน้ำหนัก
กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 2,365/6,154/2,136
ความกว้างฐานล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) 1,182/2,034
ความยาวฐานล้อ (มม.) 4,195
เครื่องยนต์ วี 8 สูบ
ชนิด ดีเซลเทอร์โบ DOHC 32 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 5,954
กำลังสูงสุด (พีเอส/รตน.) 350/3,300
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 61.2/2,000
ระบบขับเคลื่อน สี่ล้อ พาร์ทไทม์ พร้อมลิมิเทด สลิพ
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) เดินหน้า 5
ถอยหลัง 1
ระบบรองรับ
หน้า เพลาลอย พร้อมแอร์สปริง และเหล็กกันโคลง
หลัง เพลาลอย พร้อมแอร์สปริง
ระบบห้ามล้อ
หน้า จาน
หลัง จาน
ขนาดยาง (หน้า/หลัง) 315/60 R22
เรื่องโดย : สุรเชษฐ์ เทียนทอง
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : คอลัมน์ประจำ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/11496