ทดสอบ(4wheels) 1 Aug 2014
HONDA FREED EL/STEPWGN SPADA EL/ODYSSEY 2.4 EL
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นค่ายที่ให้ความสำคัญกับรถเอมพีวี ค่อนข้างชัดเจน และต่อเนื่องกว่าค่ายอื่นๆ 4 WHEELS นำรถครอบครัว 3 รุ่น 3 สไตล์ ของ ฮอนดา ได้แก่ ฟรีด (FREED) สเตพแวกอน สปาดา (STEPWGN SPADA) ออดิสซีย์ (ODYSSEY) มาทดสอบด้วยดาทรอน เอาใจผู้อ่านที่กำลังมองหารถครอบครัว หรือ เอมพีวี รวมถึงแฟนพันธุ์แท้ ฮอนดา ที่ยังลังเลรักพี่เสียดายน้อง ตัดสินใจง่ายขึ้น
EXTERIOR ภายนอก
ฟรีด ใหม่ มีขนาดตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,215/1,700/1,735 มม. และฐานล้อ 2,740 มม. มิติโดยรวมไม่ต่างจาก ฟรีด ตัวเดิม เทียบกับคู่แข่งในตลาดแล้ว ฟรีด มีรูปทรงแบบกล่อง ความสูงของหลังคาจึงสูงกว่าคู่แข่งอย่าง ปโรตอน เอกโซรา, ซูซูกิ แอร์ติกา, เชฟโรเลต์ สปิน และโตโยตา อวันซา ส่วนความยาวและความกว้างไม่แตกต่างกันมาก
ฟรีด เป็นรถที่มีความสูงโดดเด่น หน้าตาโฉบเฉี่ยวขึ้น กันชนหน้าทรงใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ กระจังหน้าโครเมียม เพิ่มความสปอร์ท กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ส่วนประตูสไลด์อัตโนมัติซ้าย/ขวา ยังคงเป็นจุดขายที่โดดเด่นของ ฟรีด รวมถึงไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม พร้อมสปอยเลอร์หลัง เติมความหรูหราด้วยล้อแมกขนาด 15 นิ้ว ลาย 7 ก้าน
สเตพแวกอน สปาดา มีมิติ ยาว 4,690 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,815 มม. ความยาวฐานล้อ 2,855 มม. จัดเป็นรถที่มีมิติความยาวค่อนข้างโดดเด่น คู่แข่งโดยตรงในตลาดมีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์นำเข้าอิสระ อาทิ นิสสัน เซเรนา, โตโยตา โนอาห์ และโตโยตา วอกซี
ภายนอกทรงกล่องเน้นเหลี่ยมสัน พร้อมแนวกระจกยาว โคมไฟ ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว กระจังแนวนอนขนาดใหญ่ กันชนสวยเข้ารูป พร้อมช่องไฟตัดหมอกดีไซจ์นสปอร์ท ช่องรับลมด้านหน้าขนาดใหญ่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไฟท้ายแบบ LED ในกรอบใส ดูสปอร์ทและโฉบเฉี่ยว สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ทติดตั้งไฟเบรคดวงที่ 3 ในตัว
มิติตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ยาว 4,830 มม. กว้าง 1,820 มม. และสูง 1,695 มม. ความยาวฐานล้อ 2,900 มม. สัดส่วนตัวรถค่อนข้างกระชับ ความสูงตัวรถน้อยกว่าคู่แข่ง ที่ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นำเข้า อาทิ นิสสัน เอลกแรนด์ และโตโยตา เอสตีมา
หน้าตาภายนอกหรูล้ำ เส้นสายต่อเนื่องตลอด กันชนหน้า แก้มข้าง และประตูหน้า เช่นเดียวกับแนวเส้นด้านหลังที่เด่นคมชัดเจน ตั้งแต่ประตูหลังต่อเนื่องไปถึงซุ้มล้อหลัง และกันชนท้าย
ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์คู่ เลนส์ใสทรงเหลี่ยม ไฟส่องสว่างเดย์ไลท์แบบแอลอีดี กระจังหน้าทรงสปอร์ทแบบโครเมียมทั้งชิ้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ชุดตกแต่งด้านข้างรถสไตล์สปอร์ท ประตูข้างซ้าย/ขวา เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบรีโมทสั่งงาน ติดตั้งสปอยเลอร์หลังเสริมอารมณ์สปอร์ทมากขึ้น มีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา
INTERIOR ภายใน
ห้องโดยสารเน้นความบันเทิงครบเครื่อง แผงหน้าปัดเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากขึ้น อาทิเช่น มาตรวัดเรืองแสง สวิทช์ควบคุมประตูสไลด์อัตโนมัติซ้าย/ขวา ด้านคนขับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เพิ่มช่องแอร์เพดาน 3 ช่อง พร้อมสวิทช์ควบคุมแรงลม ให้ความเย็นทั่วถึง
เครื่องเสียงขนาด 2 DIN เล่นวิทยุ/CD/DVD/MP3 พร้อมกล้องมองหลัง หน้าจอแอลซีดีระบบสัมผัส และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สายบลูทูธ ติดตั้งจอ LCD ขนาด 9 นิ้ว 2 ตัว บริเวณด้านหลังของเบาะนั่งคู่หน้าโดนใจลูกหลาน สามารถแยกกันรับความบันเทิงได้ พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันควบคุมเครื่องเสียง
อุปกรณ์อื่นๆ ยังมีให้ครบ เช่น ไฟอ่านแผนที่ กล่องเก็บของด้านหน้า พร้อมช่องเสียบบัตร ช่องเก็บของบริเวณแผงประตู เบาะนั่งพร้อมที่เท้าแขนแถว 2 ทั้งด้านซ้าย/ขวา ที่วางแก้วน้ำพับเก็บได้ ช่องเก็บของหลังเบาะที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมตะขอแขวนของ และอื่นๆ
ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 63/64/66/70 เดซิเบล ความเร็วต่ำ 60 กม./ชม. ระดับเสียงต่ำกว่าเกณฑ์ เสียงรบกวนช่วงความเร็วสูงขึ้น ทำได้ดีในระดับพอใช้
ห้องโดยสารดูโมเดิร์นและกว้างขวาง เบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ท สามารถปรับเบาะให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เบาะนั่งแถว 2 ปรับพับเอนได้สะดวก เบาะนั่งแถว 3 สามารถปรับพับได้ 60:40 และปรับพับแบนราบได้ในแถวที่ 3 เพิ่มพื้นที่เก็บของ หรือจะปรับเพื่อเชื่อมต่อกันเป็นที่นอนแบบคู่ก็ได้ พื้นห้องโดยสารทำจากลามิเนท ลายไม้ ให้ความหรูหราสะอาดตา และสามารถวางเท้าได้สบายมากขึ้น เมื่อนั่งเบาะแถว 2 อีกทั้งยังเหยียดเท้าได้โดยไม่สะดุด
ประตูด้านข้างสไลด์แบบอัตโนมัติซ้าย/ขวา ให้ความสะดวกสบายมาก มีสวิทช์ควบคุมทั้งจากฝั่งคนขับด้านหน้า และสวิทช์ไฟฟ้าที่ประตูทั้ง 2 บาน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศบนเพดานสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เครื่องเล่น DVD พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และกล้องมองภาพด้านหลัง ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ HONDA SMART KEY SYSTEM ปุ่ม ECON MODE ที่ช่วยให้การขับขี่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 66/67/69/71 เดซิเบล สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย อาจเป็นเพราะรูปทรงสไตล์กล่อง และหลังคาทรงสูง อีกทั้งด้านบนเป็นหลังคากระจกแนวยาว จึงมีเสียงรบกวนเข้ามาค่อนข้างมาก
ภายในตกแต่งหรูหรา เน้นความโอ่อ่า มีให้เลือกทั้งสีเบจ และสีดำ ผสมผสานกันทั้งหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ เสริมด้วยชุดตกแต่งลายไม้ เบาะนั่งแถวที่ 2 ระดับหรู ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ให้รองรับทุกสัดส่วนของสรีระ สามารถปรับได้ตามความต้องการมากสูงสุด 10 ทิศทาง ทั้งการเลื่อนไปทางด้านหน้า ด้านหลัง และยังปรับระยะความห่างของเบาะนั่งให้ชิด หรือห่างออกจากกัน พร้อมปรับองศาของเบาะรองขา และพนักพิงหลังช่วงบน รวมทั้งปรับให้รองรับต้นคอ เพื่อความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เสียที่ยังรู้สึกขัดๆ เมื่อวางเท้าเหยียดยาว เพราะปลายเท้าชนกับพื้นด้านหลังเบาะหน้า แถมพื้นยังไม่ราบเรียบนัก
ระบบอินโฟเทนเมนท์ ใช้เทคโนโลยีควบคุมสมบูรณ์แบบ มีฟังค์ชันที่สั่งการได้อย่างอัจฉริยะ ผ่านแอดวานศ์ ทัช ออดิโอ (ADVANCED TOUCH AUDIO) ระบบเครื่องเสียง หน้าจอสัมผัสแบบแอดวานศ์ ทัช โฮมสกรีน (ADVANCED TOUCH HOMESCREEN) แสดงเมนูหลักออดิโอ ดิสพเลย์ (AUDIO DISPLAY) แสดงผลในโหมดเครื่องเสียงแฮนด์ฟรี เทเลโฟน (HANDSFREE TELEPHONE) แสดงผลการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย SIRI EYES FREE MODE รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI* สำหรับ IPHONE รุ่น 4S ขึ้นไป HDMI รองรับการเชื่อมต่อภาพและสียงผ่าน HDMI เนวิเกชัน รองรับ ฮอนดา ลิงค์ เนวิเกชัน แอพพลิเคชัน HONDA LINK (เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น) และยังแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย รวมถึงขณะใช้งานอีกด้วย ขาดเพียงจอภาพสำหรับผู้โดยสารแถว 2/3 เพื่อให้รับชมความบันเทิงตามสไตล์รถครอบครัวได้เต็มที่
เทคโนโลยีใหม่ MULTI-VIEW CAMERA SYSTEM ระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ช่วยเปิดมุมมองรอบด้านแบบ 360 องศา เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นด้วยระบบช่วยจอดอัจฉริยะ เมื่อทำการเปิดระบบที่หน้าจอ ระบบจะมองหาช่องจอดและเตือนเมื่อเจอช่องจอด จากนั้นก็จะเตือนให้เราใช้เบรคเพื่อหยุดรถ และโอนเข้าไปสู่โหมดการควบคุมอัตโนมัติ โดยจะทำการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ และทำการควบคุมเบรค เพื่อให้หยุดรถในทิศทางที่ถูกต้อง ส่วนพวงมาลัย จะหมุนหาทิศทางเองโดยอัตโนมัติ หากทำผิดคำสั่ง ระบบจะยกเลิกการจอดแบบอัตโนมัติทันที
ระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารต่ำ วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. อยู่ที่ 58/62/65/66 เดซิเบล น่าจะเป็นเพราะรูปทรงความสูงของหลังคา รูปแบบหลังคา รวมถึงวัสดุที่บุและหุ้มภายใน ซึ่งช่วยให้ ออดิสซีย์ เงียบ สมกับเป็นเอมพีวี ที่มีภายในหรูหราแบบลักชัวรี
ENGINE เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว I-VTEC ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์ PGM-FI ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. ที่ 4,800 รตน. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิค GRADE LOGIC CONTROL
เครื่องยนต์บลอคนี้ เน้นประหยัด สมรรถนะไม่ร้อนแรง อยู่ในระดับพอใช้ ซึ่งก็เหมาะสมกับรูปร่างหน้าตา เหมาะกับการขับใช้งานในแบบครอบครัว อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 14.8/19.8 วินาที ตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 35.9 วินาที อัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. สมรรถนะอยู่ในระดับพอใช้ ทำได้ 8.2/10.9 วินาที เทียบกับบรรดาคู่แข่ง จัดว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับ เชฟโรเลต์ สปิน เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทำได้โดดเด่น แม้จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 25.5/20.0/15.7/12.5 กม./ลิตร อยู่ในเกณฑ์ที่ประหยัดทุกช่วงความเร็ว อัตราสิ้นเปลืองโดยรวมเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มนี้ ฟรีด ประหยัดกว่า
เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว I-VTEC ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 19.7 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน. ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชันบีม พร้อมระบบเบรคเอบีเอส แบบจานทั้ง 4 ล้อ ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HILL START ASSIST)
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร บลอคนี้ ให้สมรรถนะพอตัว อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 12.9/19.1 วินาที เช่นเดียวกับอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 34.1 วินาที อัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. สมรรถนะอยู่ในระดับพอใช้ ทำได้ 6.9/8.6 วินาที ลองเทียบกับเอสยูวีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พบว่าอัตราเร่งทำได้ใกล้เคียงกัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์พอใช้ เกียร์อัตโนมัติ CVT ช่วยให้มีรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดขึ้น วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 21.1/16.9/13.1/10.5 กม./ลิตร ในช่วงความเร็วต้น 60/80 กม./ชม. ประหยัดค่อนข้างดี ส่วนที่ความเร็วสูง 100-120 กม./ชม. กินขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังทำได้ในเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ที่เคยทดสอบ
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC I-VTEC 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. มาพร้อมเทคโนโลยี EARTH DREAMS เกียร์อัตโนมัติ CVT ได้รับการพัฒนาใหม่ให้มีน้ำหนักเบา ทำงานร่วมกับลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า DRIVE-BY-WIRE ซึ่งเกียร์ CVT จะตอบสนองการทำงานแบบเรียลไทม์
เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร บลอคนี้ให้สมรรถนะพอตัว อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 12.0/18.6 วินาที เช่นเดียวกับอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 33.1 วินาที อัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. สมรรถนะอยู่ในระดับพอใช้ ทำได้ 6.3/7.8 วินาที เทียบกับ มิตซูบิชิ สเปศแวกอน และโตโยตา เวลไฟร์ เอมพีวีคู่แข่ง เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร พบว่าอัตราเร่งทำได้พอๆ กัน มีช่วงเร่งแซง ที่ทำได้เหนือกว่าคู่แข่งค่อนข้างชัดเจน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์พอใช้ เกียร์อัตโนมัติ CVT มีรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดขึ้น วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 21.2/17.7/14.3/11.8 กม./ลิตร อัตราสิ้นเปลืองโดยรวมทำได้ประหยัดดีในทุกช่วงความเร็ว
SUSPENSION ระบบรองรับ
ช่วงล่างหน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีม แบบ H-SHAPE พร้อมคอยล์สปริง และชอคอับหน้า/หลัง ระบบเบรคด้านหน้าแบบจาน ด้านหลังแบบดุม มาพร้อมระบบป้องกันล้อลอค เอบีเอส และอีบีดี ระบบพวงมาลัยแบบฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ระบบกุญแจนิรภัยอิมโมบิไลเซอร์ หรูหรา สะดวกสบาย ด้วยชุดกุญแจที่สามารถเปิด/ประตูสไลด์ซ้าย/ขวา ได้ด้วยรีโมท
ระยะเบรคที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. จนถึงจุดหยุดนิ่ง 15.8/28.2/43.9 ม. เบรคที่ความเร็วต่ำถือว่าดี ส่วนเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย เทียบกับคู่แข่งแล้ว ระยะเบรคของ ฟรีด ดีกว่าคู่แข่งในตลาดเล็กน้อย
ระบบรองรับหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบรองรับหลังเป็นทอร์ชันบีม เซทมาได้นุ่มแน่น นั่งสบายตามสไตล์รถครอบครัว พวงมาลัยเพาเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า เซทมาค่อนข้างเบา ใช้งานคล่องตัวในเมือง แต่น้ำหนักพวงมาลัยยังเบาไปนิด ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน มีระบบป้องกันล้อลอค เอบีเอส ระบบควบคุมการทรงตัว วีเอสเอ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน เอชเอสเอ ระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านนิรภัย ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ
ผลทดสอบเบรค ระยะเบรคในช่วง 60/80-0 กม./ชม. ค่อนข้างดี เบรคมั่นใจโดยมีระยะหยุดที่ 16.3/29.8 ม. ส่วนเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่ง ทำได้ในเกณฑ์เฉลี่ย 46.5 ม. แม้ตัวรถจะดูสูงเพรียว แต่ประสิทธิภาพเบรคดีพอใช้ ลองเทียบกับเอสยูวี 2.0 ลิตร สเตพแวกอน มีระยะเบรคที่ยาวกว่าเล็กน้อย
ระบบรองรับหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบรองรับหลังเป็นทอร์ชันบีม เซทมาได้นุ่มนวล นั่งสบาย ตามสไตล์รถครอบครัวที่หรูหรา พวงมาลัยเพาเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า เซทมาค่อนข้างลงตัว หนึบน้ำหนักดี ควบคุมได้มั่นใจทุกการขับขี่
ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน มีระบบป้องกันล้อลอค เอบีเอส และระบบกระจายแรงเบรค อีบีดี ระบบควบคุมการทรงตัว วีเอสเอ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน เอชเอสเอ ระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านนิรภัย ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ
จากผลทดสอบเบรค นั้นพบว่าระยะเบรคในช่วง 60/80-0 กม./ชม. ทำได้ค่อนข้างดี เบรคมั่นใจโดยมีระยะหยุดที่ 15.9/27.3 ม. ส่วนเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. ประสิทธิภาพเบรคจนรถหยุดนิ่ง ทำได้พอใช้ ทำไว้ 44.5 ม. จัดเป็นรถครอบครัวระดับหรูที่มีประสิทธิภาพเบรคที่ไว้ไจได้ เทียบกันแล้ว มีเพียงระยะเบรค 100-0 กม./ชม. ที่ยาวกว่าคู่แข่งค่อนข้างชัดเจน
FREED EL
ฮอนดา ฟรีด 1.5 อีแอล เอมพีวีขนาด 7 ที่นั่ง แม้จะมีคู่แข่งในตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น แต่ด้วยความอเนกประสงค์ สารพัดประโยชน์ ออพชันบันเทิงครบเครื่อง โดดเด่นด้วยประตูไฟฟ้าทั้ง 2 บาน สมรรถนะเครื่องยนต์ และเบรคดี เหมาะมากกับครอบครัวยุคใหม่ ที่ต้องการรถใช้งานได้หลากหลาย สะดวกสบาย และประหยัด
STEPWGN SPADA EL
สเตพแวกอน สปาดา อีแอล เอมพีวีทรงกล่อง หลังคาทรงสูง แต่งโมเดิร์น ภายในมีกระจกพาโนรามายาว สวยทันสมัย แต่เสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ เบาะนั่งปรับเป็นที่นอนได้ เน้นความครบเครื่องเรื่องการพักผ่อน