ทดสอบ(4wheels) 1 Nov 2015
FORD EVEREST 3.2 TITANIUM PLUS 4x4/MITSUBISHI PAJERO SPORT 4WD GT-PREMIUM/TOYOTA FORTUNER 2.8V 4WD
โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ (TOYOTA FORTUNER) ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (FORD EVERREST) และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท (MITSUBISHI PAJERO SPORT) เป็นเอสยูวี 3 บแรนด์ล่าสุดที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองไทย ในฐานะเป็นฐานการผลิต และส่งออกไปทั่วโลก ทั้ง 3 รุ่นใช้โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของรถพิคอัพเป็นหลัก ได้รับความนิยมในตลาดมาก ด้วยฟังค์ชันที่เหมาะกับกิจกรรมหลากหลาย บรรทุกผู้โดยสารมากถึง 7 ที่นั่ง ดีไซจ์นหรูหรา หน้าตาทันสมัย ให้ออพชันเทียบชั้นเอสยูวีหรู 4 WHEELS รีบจัดหนัก นำเอสยูวีตัวทอพ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ของทั้ง 3 บแรนด์ มาทดสอบด้วยเครื่องมือดาทรอน เพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะที่แท้จริงของรถ
EXTERIOR ภายนอก
เอเวอเรสต์ ใหม่ ตัวรถใหญ่โตโอ่อ่า หน้าตาสไตล์เดียวกับเอสยูวีหรูอย่าง ฟอร์ด เทอร์ริทอรี มิติภายนอก ยาว 4,893 มม. กว้าง 1,862 มม. และสูง 1,836 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. สัดส่วนตัวรถสั้นกว่า เอเวอเรสต์ เดิมถึง 167 มม. เพราะไม่มียางอะไหล่ที่ติดตั้งด้านท้าย ความกว้างมากขึ้นกว่าเดิม 74 มม. ส่วนความสูงตัวรถใกล้เคียงกัน และเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังมีความยาวตัวรถและระยะฐานล้อที่มากกว่าคู่แข่งอยู่เล็กน้อย
ภายนอกดูใหญ่โตบึกบึน และไฟหนาขนาดใหญ พรอมไฟเดย์ไทม์ รันนิงไลท์ แบบแอลอีดี ออกแบบรับกับชุดกระจังหนาทรงสี่เหลี่ยมคางหมู กันชนหนาแบบ 3 มิติ ที่โดดเด่น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ด้านข้างโดดเด่นด้วยซุมลอขนาดใหญ ไฟทายแบบแอลอีดี เข้ารูปรับกับฝากระโปรงท้าย ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว ยาง 265/50 R20
รูปทรงโดดเด่น เส้นสายลงตัว สวยล้ำนำสมัยขึ้นกว่าเดิม มิติภายนอก ยาว 4,785 มม. กว้าง 1,815 มม. และสูง 1,805 มม. ระยะฐานล้อ 2,800 มม. ยาวกว่า ปาเจโร สปอร์ท เดิม 90 มม. ขณะที่ความกว้างเท่ากัน ส่วนความสูงใกล้เคียงเดิม เทียบกับคู่แข่งในกลุ่มแล้ว ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ เพรียวกระชับกว่าคู่แข่งเล็กน้อย
ด้านหน้าออกแบบสไตล์ ไดนามิค ชีลด์ ไฟหน้าดีไซจ์นใหม่แบบพโรเจคเตอร์ ไบ-แอลอีดี พร้อมระบบปรับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบสเปคทรัม LED โดดเด่นล้ำสมัย ไฟท้ายแบบสเปคทรัม LED แนวตั้งดูแปลกตา กันชนหน้าโค้งมน ช่วยลดค่าแรงเสียดทาน และปกป้องทั้งผู้โดยสารและตัวรถได้ดี ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว สีทูโทน ยางขนาด 265/60 R18
ภายนอกของ ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ ยกระดับความสวยงามขึ้นจากรุ่นเดิมชัดเจน เส้นสายโฉบเฉี่ยวและพลิ้วไหว มิติตัวรถ ยาว 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. และสูง 1,835 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. เทียบกับรุ่นเดิม ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ ยาวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ความกว้างและความสูงใกล้เคียงกัน ส่วนระยะฐานล้อนั้นเท่ากันพอดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดแล้ว ใหญ่กว่า ปาเจโร สปอร์ท เล็กน้อย แต่ยังกระชับกว่า เอเวอเรสต์
ไฟหน้าแบบไบ-บีม ไฟแอลอีดี พโรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบแอลอีดี เสารับสัญญาณวิทยุแบบ SHARK FIN กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว และมีระบบเวลคัม ไลท์ ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า/หลัง ราวหลังคาทรงสปอร์ท สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED ไฟท้ายโดดเด่นแสงไฟแบบเส้นนำแสงแอลอีดีทันสมัย ล้อแมกลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 265/60 R18
INTERIOR ภายใน
ภายในเน้นความเรียบหรู ตามสไตล์ของ ฟอร์ด มาตรวัดหรือเรือนไมล์ ค่อนข้างโดดเด่นด้วยจอภาพแบบสีที่แสดงฟังค์ชันการทำงานต่างๆ ครบครัน มีระบบสั่งงานด้วยเสียงพูด (ภาษาอังกฤษ) รุ่นล่าสุด ซิงค์ 2 (SYNC 2) ควบคุมผ่านระบบเครื่องเสียง และยังสามารถควบคุมด้วยโทรศัพท์มือถือ แบบสมาร์ทโฟนได้ แสดงผลผ่านหน้าจอสีทัชสกรีนแบบบิลท์-อินคอนโซล ขนาด 8 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธได้ นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB 2 จุด และเอสดีคาร์ด รวมถึงช่องเสียบ AUX 3.5 มม. และลำโพงถึง 9 ตัว กับซับวูเฟอร์อีก 1 ตัว
ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน ด้านหน้าแยกอิสระซ้าย/ขวา ด้านหลัง สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 และแถวที่ 3 พร้อมช่องแอร์เหนือศีรษะ ช่วยให้เย็นสบายทั้ง 7 ที่นั่ง และช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 4 จุด (DC 12V) พร้อมปลั๊กไฟบ้าน (AC 230V)
ฟังค์ชันปรับพับเบาะ สะดวกสบายและทันสมัย เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบแยกส่วน 60:40 และเบาะแถวที่ 3 ปรับไฟฟ้า สามารถตั้งเบาะและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า แบบแยกส่วน 50:50 และยังพับเก็บให้แบนราบได้ทั้ง 2 แถว บรรทุกสัมภาระได้ถึง 2,010 ลิตร หลังคาบุด้วยผ้าสีดำ และยังโดดเด่นด้วยพาโนรามิคมูนรูฟขนาดใหญ่ ประตูท้ายรถเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ติดตั้งวัสดุซับเสียง พร้อมการใช้เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน ระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 56/59/63/67 เดซิเบล อยู่ในระดับพอใช้ ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท
ห้องโดยสารตกแต่งสีเงินผสมผสานกับสีดำแบบเพียโนบแลค ที่บริเวณแผงคอนโซลหน้า ยกคอนโซลกลาง เพิ่มความหรูหราและช่วยให้ใช้งานฟังค์ชันต่างๆ ได้สะดวก ทั้งเกียร์ ปุ่มปรับเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และปุ่มเบรคมือไฟฟ้า
เครื่องเสียง 2 DIN วิทยุ/ซีดี/ดีวีดี/เอมพี 3 พร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ขณะถอยจอดยังแสดงภาพจากกล้องมองภาพรอบคัน ด้วยกล้อง 4 ตำแหน่ง แสดงภาพเบิร์ด อาย วิว ผ่านจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นภาพรอบคันอย่างชัดเจน ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบนำทาง ติดตั้งจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 9 นิ้ว รองรับความบันเทิงแบบครอบครัว
พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน หุ้มหนังแบบ 4 ก้าน สามารถปรับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง มาตรวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ เบาะนั่งโอบรับกับสรีระของผู้นั่งมากยิ่งขึ้น เบาะคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง ด้วยระบบไฟฟ้า เบาะแถว 2 แยกพับแบบ 60:40 เบาะนั่งแถว 3 พับ 50:50 ให้ราบไปกับพื้นได้อย่างสะดวกสบาย
ห้องโดยสารเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง และลดการสั่นสะเทือนในส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 55/57/62/67 เดซิเบล จากการพัฒนาให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลง ทำให้ ปาเจโร สปอร์ท มีเสียงรบกวนระดับใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์
ห้องโดยสารตกแต่งหรูหรา ทันสมัย ใช้วัสดุชั้นดี มาตรวัดเรืองแสงแบบออพทิทรอน พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ หน้าจอสี คมชัดทุกรายละเอียด แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ตลอดการเดินทาง อาทิ ข้อมูลการขับขี่ ข้อมูลระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ข้อมูลการขับขี่แบบอีโค ข้อมูลระบบนำทาง ฯลฯ
พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน มีระบบควบคุมการเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนทโรล ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ ติดตั้งปุ่ม PUSH START สตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ประตูท้ายเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ติดตั้งเครื่องเล่นดีวีดี หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทาง รองรับที คอนเนคท์ และเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ควบคุมแรงลมอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เหมาะสม มีช่อง USB, IPOD และ AUX เชื่อมต่อความบันเทิงหลากหลาย
ประตูท้ายสั่งงานง่ายด้วยรีโมท หรือสวิทช์บริเวณที่นั่งคนขับและประตูท้าย เบาะนั่งหุ้มหนัง ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะแถวที่ 2 ปรับพับแบบวันทัช บริเวณคอนโซลกลางด้านหลังมีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ DC 12 โวลท์ และกระแสไฟฟ้า AC 220 โวลท์
ระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 49/52/57/63 เดซิเบล จากการพัฒนาให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลง และติดตั้งวัสดุซับเสียงรอบคัน ทำให้ ฟอร์ทูเนอร์ มีระดับเสียงรบกวนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ทั้ง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท อยู่พอสมควรทุกช่วงความเร็ว
ENGINE เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 3.2 ลิตร ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ แบบ 5 สูบ 20 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รตน. และแรงบิดสูง 47.9 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน. ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดสปอร์ทบวก/ลบที่เกียร์
ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ฟูลล์ไทม์ พร้อมระบบ TERRAIN MANAGEMENT SYSTEM เลือกปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ คือ NORMAL สำหรับพื้นถนนทั่วไป SAND สำหรับพื้นทราย SNOW OR MUD สำหรับพื้นหิมะ โคลน หรือทุ่งหญ้า และ ROCK CRAWL สำหรับพื้นหินขรุขระ พร้อมโหมด 4L และระบบลอคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
เอเวอเรสต์ ใช้เครื่องยนต์ความจุมากที่สุด ให้กำลังสูง ทำอัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 12.8 วินาที และ 0-400 ม. ใน 18.6 วินาที แรงขึ้นกว่า เอเวอเรสต์ เดิม แรงพอๆ กับ ฟอร์ทูเนอร์ อัตราเร่งช่วงความเร็วปลาย ขณะทำความเร็วสูง 0-1,000 ม. เอเวอเรสต์ ทำได้ 34.2 วินาที สูสีกับ ปาเจโร สปอร์ท และฟอร์ทูเนอร์
จังหวะเร่งแซง ในเมือง 60-100 กม./ชม. และนอกเมืองช่วง 80-120 กม./ชม. ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทำได้พอใช้ อยู่ที่ 6.7 และ 9.0 วินาที ใกล้เคียงกับ ปาเจโร สปอร์ท ในช่วง 60-100 กม./ชม. และฟอร์ทูเนอร์ ในช่วง 80-120 กม./ชม.
อัตราสิ้นเปลืองวัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 13.7/12.4/11.2/8.6 กม./ลิตร อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ตามสไตล์รถเครื่องยนต์ใหญ่ ความจุเยอะ แถมยังต้องตะกุย 4 ล้อแบบฟูลล์ไทม์ เทียบแล้วกินน้ำมันมากกว่าคู่แข่งอย่าง โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท
เครื่องยนต์ดีเซล ใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ MIVEC คลีนดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน วีจี เทอร์โบ ให้กำลังสูงในรอบต่ำ กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 43.8 กก.-ม. ที่ 2,500 รตน. ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมสปอร์ทโหมด และแพดเดิล ชิฟท์ แบบยึดที่คอพวงมาลัย ไม่หมุนตาม
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบซูเพอร์ ซีเลคท์ 4WD–II เลือกเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบออลล์วีลดไรฟ ทอร์ค ออนดีมานด์ ช่วยให้เกาะถนนมากขึ้นแม้ในทางลื่น และยังสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLC หรือ 4LLC แบบ 50:50 เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางลุย หรือทางทุรกันดารได้ตามต้องการ
ปาเจโร สปอร์ท ใช้เครื่องยนต์บลอคเล็ก กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะใหม่ ความจุไม่มาก แต่รีดกำลังเครื่องยนต์ได้เยอะ ทำอัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 12.4 วินาที และ 0-400 ม. ใน 18.7 วินาที อัตราเร่งช่วงความเร็วปลาย ขณะทำความเร็วสูง 0-1,000 ม. ทำได้ 33.8 วินาที อยู่ในระดับดี เทียบผลทดสอบกับคู่แข่ง จัดว่าถึงหัวใจเล็กแต่เรียกกำลังได้ไม่เป็นรองใคร ใกล้เคียงกับ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ โดยมี ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตามติด
จังหวะเร่งแซง ในเมือง 60-100 กม./ชม. และนอกเมืองในช่วง 80-120 กม./ชม. อยู่ที่ 6.4 และ 8.2 วินาที เครื่องบลอคเล็กแต่ผลงานโดดเด่นกว่าคู่แข่ง จัดเป็นเอสยูวีที่มีอัตราเร่งแซงที่ดี
อัตราสิ้นเปลืองของ ปาเจโร สปอร์ท วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 21.4/17.6/13.7/10.7 กม./ลิตร อยู่ในเกณฑ์ดี เครื่องยนต์แรง ได้เกียร์ 8 จังหวะ ของ ไอซิน ลูกใหม่ ช่วยให้การปรับเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล รอบเครื่องยนต์ต่ำ เทียบกับคู่แข่งแล้วพบว่า ประหยัดกว่าคู่แข่งทั้ง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และโตโยตา ฟอร์ทูเนอร์
เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV (HIGH) ขนาด 2.8 ลิตร ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รตน. แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 1,600-2,400 รตน. ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดสปอร์ท มีแพดเดิล ชิฟท์ ที่พวงมาลัย แบบหมุนตาม
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซิกมาโฟร์ ทำงานร่วมกับ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ A-TRC ใช้เซนเซอร์ตรวจจับล้อหมุนฟรีและตัดกำลัง เมื่อพบว่าล้อข้างใดข้างหนึ่งหมุนฟรี และส่งกำลังไปยังล้อที่เหลือแทน สามารถเลือกโหมดการขับ H2, H4, L4 ได้เหมาะกับสถานการณ์ ผสานการทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วลงทางลาดชัน และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
เครื่องยนต์บลอคใหม่ ขนาดเล็กลงเล็กน้อย แต่ให้กำลังที่โดดเด่นขึ้น อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 12.5 วินาที 0-400 ม. ได้ในเวลา 18.3 วินาที อัตราเร่งช่วงความเร็วปลาย ขณะทำความเร็วสูง 0-1,000 ม. ทำได้ 33.9 วินาที อยู่ในระดับที่ดี เทียบผลทดสอบกับคู่แข่งแล้วจัดว่าแรงพอๆ กับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท
จังหวะเร่งแซง ในเมือง 60-100 กม./ชม. และนอกเมืองในช่วง 80-120 กม./ชม. ฟอร์ทูเนอร์ มีอัตราเร่งแซง พอตัวที่ 7.0 และ 8.9 วินาที โดยเฉพาะช่วงเร่งแซง 60-100 กม./ชม. ไม่หวือหวาแค่ตามจี้ติด มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท และฟอร์ด เอเวอเรสต์
อัตราสิ้นเปลืองของ ฟอร์ทูเนอร์ 2.8 วี 4WD วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 20.3/16.5/14.4/10.5 กม./ลิตร อยู่ในเกณฑ์ประหยัด เทียบกับคู่แข่งแล้วประหยัดกว่า ฟอร์ด เอเวอเรสต์ แต่กินกว่า มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท ที่ให้เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเล็กน้อย เฉพาะช่วงความเร็วสูง 120 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองพอๆ กัน
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับหน้าอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบคอยล์สปริง และระบบวัตต์ ลิงค์ ที่ช่วยให้หน้ายางตั้งฉากกับพื้นถนนเมื่อรถเข้าโค้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว อีเอสพี ให้รถเกาะถนนและทรงตัวดี ติดตั้งกล้องมองหลังขณะถอยจอด สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า ระบบตรวจจับรถในจุดบอด ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ มาให้ด้วย
ช่วงล่างของ เอเวอเรสต์ เชทมาได้หนึบ หนักแน่นดี ทั้งทางโค้งและทางตรง ด้านหลังมีอาการสะเทือนเล็กน้อย ขับสนุก พวงมาลัยไฟฟ้า ควบคุมได้ง่ายและแม่นยำมาก ใช้ในเมืองคล่องตัวจริงๆ
ผลทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. หยุดนิ่งได้ในระยะ 15.5/26.9/42.2 ม. อยู่ในเกณฑ์ดี เทียบกับคู่แข่งอย่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท และโตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ พบว่า เอเวอเรสต์ มีระยะเบรคที่สั้นกว่าพอสมควร และยังได้เปรียบด้วยล้อและยางที่ใหญ่กว่า (265/60 R20)
ระบบกันสะเทือนหน้า แบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์ปริง และเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลัง แบบธรีลิงค์ ทอร์คอาร์ม พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และเหล็กกันสะบัดเพลาหลัง
ระบบเบรคหน้าแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน คาลิเพอร์เบรคแบบ 2 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นจานเบรคแบบดรัมอินดิสค์ พร้อมระบบป้องกันล้อลอคเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรคแบบอีเลคทรอนิคส์ อีบีดี ระบบเสริมแรงเบรค บีเอ รวมไปถึงระบบเบรค โอเวอร์ไรด์ ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรค
นอกจากติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และระบบควบคุมการลื่นไถล ยังมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา ให้อย่างครบครัน เพิ่มความปลอดภัยเหนือคู่แข่งด้วยการติดตั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงรวดเร็ว
ช่วงล่างเซทมาค่อนข้างนุ่มนวล เน้นนั่งและขับสบาย โดยเฉพาะเดินทางไกล จังหวะจัมพ์เนิน หรือเบรค มีอาการยืดยุบของช่วงล่างเยอะ
ผลทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. หยุดนิ่งได้ในระยะ 17.0/31.0/46.7 ม. อยู่ในระดับพอใช้ พอๆ กับ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ แต่ยังเป็นรอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ระบบเบรคด้านหน้าแบบจาน ด้านหลังเป็นดุม พร้อมเอบีเอส ระบบป้องกันล้อลอค มีระบบกระจายแรงเบรค และระบบเสริมแรงเบรค ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เสริมด้วยระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ช่วงล่างเซทมาได้ดี นุ่มหนึบ ขับและนั่งสบาย ทั้งในโค้งกว้างและแคบ ทางขรุขระ บังคับควบคุมง่าย พวงมาลัยน้ำหนักดี
ผลทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. หยุดนิ่งได้ในระยะ 17.0/29.7/46.2 ม. อยู่ในระดับพอใช้ เทียบกับคู่แข่งแล้วพบว่า ทำได้ใกล้เคียงกับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท แต่ยังมีระยะหยุดที่ยาวกว่า เอเวอเรสต์ อยู่พอสมควร
FORD EVEREST 3.2 TITANIUM PLUS 4x4
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ หน้าตาโดดเด่นมีเอกลักษณ์ ใหญ่ บึกบึน ภายในเทียบชั้นเอสยูวีหรู เครื่องยนต์ใหญ่ ตอบสนองการขับขี่ได้ดี พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูลล์ไทม์ บังคับควบคุมมั่นใจ เบรคสั่งได้ แฟนพันธุ์แท้หรือขาลุยที่ต้องการสมรรถนะ คันนี้ตอบโจทย์ได้ครบ
MITSUBISHI PAJERO SPORT 4WD GT-PREMIUM
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท เป็นเอสยูวีที่ครบเครื่อง หน้าตาโดดเด่น ภายในทันสมัย สมรรถนะดี อัตราเร่งโดดเด่น ประหยัดเชื้อเพลิง ระบบความปลอดภัยเหนือคู่แข่ง แถมตั้งราคาขายในรุ่นทอพได้อย่างยั่วยวน แค่ 1,390,000 บาท (ช่วงเปิดตัว)
TOYOTA FORTUNER 2.8V 4WD
โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ หน้าตาทันสมัย เส้นสายลงตัว ในแนวเอสยูวียุคใหม่ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง เซท มาได้ดี ขับและนั่งสบายมาก ภายในให้ความรู้สึกหรู เบาะนั่งสบาย เสียงเงียบ เสียที่อ่อนออพชันกว่าคู่แข่งไปนิด แต่ถ้าเทียบเรื่องความลงตัวในด้านการใช้งาน ขับและนั่งสบาย ฟอร์ทูเนอร์ ไม่เป็นรองใคร