Quattroruote ทดสอบ
CHEVROLET CORVETTE
การพัฒนารถยนต์ 1 รุ่น จำเป็นต้องมีขีดความสามารถขั้นสุด จนบางครั้งดูราวกับว่าทุกอย่างไม่สามารถทำให้ดีกว่านี้ได้แล้ว การรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมเสมอไป ทางออก คือ การคิดใหม่ทำใหม่ เปรียบได้กับการวางเดิมพันครั้งใหญ่ที่อาจมีความเสี่ยง เพื่อผลลัพธ์ที่แตกต่างจากเดิม สิ่งที่กล่าวมากำลังเกิดขึ้นที่เมือง BOWLING GREEN มีที่ตั้งอยู่ใจกลางรัฐ KENTUCKY เป็นสถานที่ที่พัฒนา และให้กำเนิด CHEVROLET CORVETTE (เชฟโรเลต์ คอร์เวทท์) มานานถึง 67 ปี ต่อเนื่องกันมาถึง 7 รุ่นด้วยกัน และล่าสุดกับทายาทลำดับที่ 8 ของสายพันธุ์ CORVETTE (รหัส C8 (ซี 8) ตามที่ CHEVROLET ระบุเอาไว้) กับความทันสมัยที่ถูกบรรจุเข้ามาอย่างอัดแน่น เครื่องยนต์วางกลางลำ เป็นสิ่งแปลกใหม่ในปัจจุบัน แต่จะกลายเป็นความน่าหลงใหลได้ในอนาคต การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงตำแหน่งการวางเครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ห้องโดยสารมีตำแหน่งอยู่ถัดไปด้านหน้าของตัวรถ ทำให้ฝากระโปรงหน้ามีรูปทรงที่สั้นลงด้วย ผลลัพธ์ คือ เส้นสายที่คล้ายกับเครื่องบินรบ โดยไม่ละทิ้งอารมณ์ความเป็น CORVETTE แต่อย่างใด ขณะที่ห้องโดยสารมีการออกแบบให้คล้ายกับห้องนักบิน ปุ่มใช้งานต่างๆ ถูกจัดวางโอบล้อมรอบผู้ขับ ไม่ว่าจะเป็น จอภาพแบบดิจิทอลสำหรับแผงหน้าปัดมีขนาดใหญ่ถึง 12 นิ้ว ระบบแสดงผลสะท้อนแสงบนกระจกหน้า และจอ แสดงผลขนาด 8 นิ้ว องค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่รอบผู้ขับบ่งบอกบุคลิกของตัวรถได้เป็นอย่างดี ปุ่มใช้งานมีความแปลกใหม่ ให้ความรู้สึกเร้าใจเต็มพิกัด แทนที่บุคลิกที่แฝงความเรียบง่ายของตัวรถเอาไว้ เห็นได้จากพวงมาลัยมีทรงเหลี่ยมหักมุมราวกับรถแข่งขนานแท้ เบาะนั่งอยู่ในระดับต่ำลงมา อาจไม่ลงตัวสำหรับผู้โดยสารที่มีความสูงค่อนข้างมาก การหาตำแหน่งของเบาะที่เหมาะสมต้องใช้เวลาเล็กน้อย โดยเฉพาะตำแหน่งบริเวณข้อศอก แต่มีจุดที่น่าชื่นชม คือ คุณภาพการประกอบที่เหนือกว่ามาตรฐานของรถสปอร์ทสัญชาติอเมริกันหลายรุ่น มีการใช้วัสดุชั้นดี เช่น ชุดหนังแท้ วัสดุโลหะ และผ้ากำมะหยี่ หรือหากต้องการ สามารถติดตั้งวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพิ่มเติมได้
ราคาที่ต้องแลกมาเพื่อสมรรถนะ
รถสปอร์ทที่เราทดสอบเป็นสไตล์ COUPE (คูเป) แต่มีรูปแบบที่คล้ายกับสปอร์ทหลังคากระจก TARGA (ทาร์กา) (หรือเรียกได้ว่า กึ่งเปิดประทุน) ส่วนหลังคาเหนือผู้โดยสารสามารถถอดออกได้ และแม้จะมีรูปทรงลิ่มคล้ายกับ FERRARI F8 TRIBUTO (แฟร์รารี เอฟ 8 ตรีบูโต) หรือ LAMBORGHINI HURACAN (ลัมโบร์กินี อูรา-กัน) แต่รถสปอร์ทสัญชาติอเมริกันรุ่นนี้ยังไม่ถึงกับเป็นซูเพอร์คาร์เต็มตัว ยังถือเป็นรถสปอร์ทที่มีสมรรถนะดุดัน ใกล้เคียงความเป็นซูเพอร์คาร์ขนานแท้ และมีระดับราคาที่น่าสนใจ โดยในบ้านเกิดอย่างประเทศสหรัฐอเมริกามีราคาที่ 59,995 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,900,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) ถือเป็นรถสปอร์ทชั้นดีที่มีราคาใกล้-เคียงกับ BMW X5 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5) ก็ว่าได้ !
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา CORVETTE คือ รถสปอร์ทเครื่องยนต์วางด้านหน้า แต่ละรุ่นถูกเสริมความทันสมัยของแต่ละช่วงเวลาเอาไว้เต็มพิกัด จนแทบจะมาถึงขีดสุดของการพัฒนารถรุ่นนี้ ทำให้ต่อมามีข่าวลือของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กับการเปลี่ยนรูปแบบการวางเครื่องยนต์ หลายคนคาดหวังการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิม มากกว่าการปฏิวัติโดยสิ้นเชิง ความคาดหวังต่อรถรุ่นใหม่จึงมีสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างที่รู้กัน ยิ่งคาดหวังมาก โอกาสที่จะเจอความผิดหวังก็มีสูงขึ้นเช่นกัน การวางเครื่องยนต์กลางลำช่วยให้ตัวรถมีสมรรถนะที่ดีขึ้น และคุณลักษณะการขับขี่ที่แตกต่างจากเดิม อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีขึ้นทุกแง่มุม แต่ช่วยสร้างความแตกต่างได้ดี สมรรถนะที่ถูกพัฒนาให้ดุดันยิ่งขึ้น และมีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นพอสมควร และไม่ใช่การรังสรรค์ที่นำมาซึ่งรถสปอร์ทที่ดีขึ้น แต่ต้องมีบุคลิกที่แตกต่างด้วยเช่นกัน ถึงขนาดที่จะมาเทียบชั้นรถสปอร์ทของ FERRARI หรือจะเป็นเพียง CORVETTE ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
ลุยสนามแข่งกันเลย
เมื่อมาขับบนท้องถนน
รถสปอร์ทรุ่นนี้ใช้เครื่องแบบ วี 8 สูบ เป็นขุมพลังที่โดนเด่นของบแรนด์ CHEVROLET องค์ประกอบของขุมพลังโดยรวมอาจไม่ถึงกับล้ำสมัย และละเอียดอ่อนมากมาย แต่มีอัตราเร่งที่ทันใจ ตอบสนองได้รวดเร็ว ตำแหน่งการวางเครื่องยนต์กลางลำทำให้ CORVETTE C8 มีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน น่าเสียดายที่รอบเครื่องยนต์สูงสุดอยู่ที่ 6,600 รตน. เท่านั้น นอกจากนี้เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ถูกปรับแต่งให้ไม่สามารถเปลี่ยนจังหวะได้ในช่วงรอบเครื่องยนต์สูง อาจไม่มีปัญหาสำหรับการขับขี่บนท้องถนนทั่วไป แต่สำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง กลับเป็นข้อจำกัดพอสมควร รถสปอร์ทรุ่นนี้ถูกพัฒนาต่อยอด จากรุ่นก่อนหน้านี้ ทำให้มีความทันสมัยมากขึ้นในหลายส่วน ยิ่งขับขี่แบบเน้นอัตราเร่งมากเท่าไร การบังคับควบคุมกลับอยู่มือยิ่งขึ้น ความเฉียบคมอาจยังด้อยกว่า FERRARI การบังคับเลี้ยวอาจไม่ฉับไวแบบ McLAREN (แมคลาเรน) และไม่เร้าใจเท่า LAMBORGHINI (ลัมโบร์กินี) องค์ประกอบต่างๆ อาจยังไม่ลงตัวโดยสมบูรณ์แบบ แต่ก็ให้ความเร้าใจได้มากเกินพอ นอกจากนี้ CORVETTE รุ่นล่าสุด ยังมีความสะดวกสบายแฝงอยู่ในตัว มีการบังคับควบคุมที่สะดวกสบายเกินคาด อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน อาการท้ายปัดมีให้สัมผัสน้อยกว่าเดิมมาก การบังคับควบคุมมีความต่อเนื่องเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกมั่นคงไปจนถึงจุดสูงสุดที่ตัวรถสามารถรองรับได้ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับสนุกกับอาการไถล และการส่งผ่านพละกำลังไปยังล้อคู่หลังจนหมุนฟรีเพื่อความเร้าใจ พวงมาลัยตอบสนองได้อย่างฉับไว และแม่นยำ ควบคุมทิศทางได้ดังใจ จุดต้องติที่พอจะพบเจออยู่บ้าง คือ การตอบสนองที่สะท้อนจากการหักเลี้ยวของล้อมีน้อยไปถึงเล็กน้อย แรงกระแทกกระทั้นขณะทำอัตราเร่งไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนัก โดยรวมแล้ว รถสปอร์ท รุ่นนี้มีรูปทรงที่ใกล้เคียงกับซูเพอร์คาร์ แถมยังมีสมรรถนะ และความดุดันที่เหมือนกันด้วย
คุณลักษณะแบบรถสปอร์ทขนานแท้ และสมรรถนะที่ร้อนแรง มาพร้อมกับการขับขี่ที่สะดวกสบายเช่นกันสำหรับ CORVETTE รุ่นนี้ เป็นสิ่งที่ถูกแอบซ่อนเอาไว้ภายใต้บุคลิกที่ดุดัน การขับขี่บนท้องถนน ตลอดจนการบังคับควบคุมต่างๆ ทำได้อย่างง่ายดาย พวงมาลัยมีน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ที่มีเสียงรบกวนต่ำ ระบบเกียร์เปลี่ยนจังหวะได้อย่างเรียบเนียน และระบบรองรับที่มีความนุ่มนวลใกล้เคียงกับซีดานบางรุ่นด้วยซ้ำ โดยไม่ลืมความรู้สึกแบบสปอร์ท โดยรวมแล้ว รถสปอร์ทรุ่นนี้สามารถใช้งานทั่วไปได้ดี ไปได้ทุกที่ ที่ต้องการ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของ CORVETTE ที่จะสนองตอบความต้องการนั้นๆ
การลองรูปแบบใหม่
ณ เมือง BOWLING GREEN สถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดของ CORVETTE มีการพัฒนารุ่นเครื่องยนต์วางกลางลำมาตั้งแต่ครึ่งศตวรรษก่อนหน้านี้แล้ว กับแนวคิดของรูปแบบการวางเครื่องยนต์ที่แตกต่างจากเดิม แต่วิกฤตการณ์ด้านเศรษฐกิจของบริษัทแม่อย่าง GM (จีเอม) ทำให้แผนงานดังกล่าวถูกพับเก็บลงไปในปี 2009 ก่อนที่จะถูกนำมาพิจารณาอีกครั้งในปี 2014 กับรถต้นแบบ (ในรูป) ภายใต้ตัวถังแบบพิคอัพ ของรถยนต์สัญชาติออสเตรเลียน HOLDEN MALOO (โฮลเดน มาลู) กับการใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ ของ CORVETTE รุ่นก่อนหน้านี้ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ของ PORSCHE (โพร์เช) รหัสเรียกของโครงการนี้ คือ BLACKJACK (บแลคแจค) ถูกนำเสนอออกมาเป็นเวลาประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่ในที่สุดจะถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของค่าย GM
ข้อมูลจำเพาะ CHEVROLET CORVETTE STINGRAY
เครื่องยนต์
- ขนาด 6,126 ซีซี
- แบบ วี 8 สูบ (ทำมุม 90 องศา)
- วางกลางลำ ตามยาว
- แบบ เบนซิน
ระบบส่งกำลัง
- อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ
- ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
- กำลังสูงสุด 495 แรงม้า ที่ 6,450 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 47.9 กก.-ม. ที่ 5,150 รตน.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3 วินาที (โดยประมาณ)
- ความเร็วสูงสุด 312 กม./ชม.
มิติตัวถัง และน้ำหนักโดยรวม
- ระยะฐานล้อ 2,720 มม.
- ความยาว 4,630 มม.
- ความกว้าง 1,930 มม.
- ความสูง 1,230 มม.
- น้ำหนักโดยรวม 1,605 กก.