ธุรกิจ
Great Wall Motor วางรากฐานสร้างขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
Great Wall Motor เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพ และการเรียนรู้ของเยาวชนไทย ประกาศจับมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษา ออกแบบ ตลอดจนสร้างอุปกรณ์ชุดฝึกยานยนต์สมัยใหม่จากรถยนต์จริงสำหรับใช้ในการเรียนการสอนเพื่อสร้างทักษะให้แก่นักเรียน นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยน แปลงในปัจจุบัน พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาต้นแบบจักรกลการเกษตรดัดแปลง ซึ่งใช้มอเตอร์ และแบทเตอรีจากยานยนต์ไฟฟ้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นในฐานะผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย (XEV Leader) ที่พร้อมพัฒนาทักษะบุคลากรคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการกำลังคนของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ
ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ Great Wall Motor จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้การสนับสนุนชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์สำหรับใช้ในโครงการฯ ตามความเหมาะสม สร้างทักษะการพัฒนา และการประยุกต์ดัดแปลงต้นกำลังจากยานยนต์ไฟฟ้าผ่านประสบการณ์จากการทดลองใช้ต้นแบบอุปกรณ์ชุดฝึก และการพัฒนาสร้างต้นแบบเครื่องจักรกลการ เกษตรดัดแปลงที่ใช้ต้นกำลังจากชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัทฯ โดยนอกจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครแล้ว โครงการยังครอบคลุมสถานศึกษาในโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์อีก 3 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาอีกด้วย ได้แก่ 1. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) 2. วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี (ช่าง และวิศวกร) และ 3. วิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยีลำพูน (ชีวภาพการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร)
หญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านที่สู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า และกระตุ้นให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญ ความจำเป็น และประโยชน์จากการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การพัฒนาอาชีวศึกษาในการศึกษา และพัฒนากระบวนการ คิดค้น ดัดแปลงเครื่องจักรกลการเกษตรซึ่งใช้ต้นกำลังมอเตอร์ และแบทเตอ รีจากยานยนต์ไฟฟ้า มาเพื่อเป็นต้นแบบใช้การเรียนการเกษตรให้มีความทันสมัย ให้มีความก้าวไกล จะเป็นอีกคำตอบของการพัฒนาประเทศ เพราะกำลังคนอาชีวศึกษา ซึ่งถือได้ว่า มีบทบาทสำคัญ ทั้งภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม รวมถึงในภาคธุรกิจบริการ ดังนั้น อาชีวศึกษาจึงต้องเร่งสร้างขีดความสามารถในการผลิต และพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็น เพื่อให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ ซึ่งในการพัฒนาผู้เรียน จึงต้องมีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรรายวิชาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย เพื่อนำไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วงาน หรือสถานประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างคนที่มีคุณภาพ ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะนำพาให้การจัดการอาชีวศึกษาบรรลุสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ในอนาคต
ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป Great Wall Motor (ประเทศ ไทย) กล่าวว่า Great Wall Motor เห็นศักยภาพในหลายๆ ด้านของประเทศไทยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือก หนึ่งในความมุ่งมั่น และความตั้งใจของเรา คือ การเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชนไทยทั้งในด้านทักษะสมัยใหม่ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมไปถึงการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักเรียน และนักศึกษารวมถึงคณะครูอาจารย์ ได้เก็บเกี่ยวองค์ความรู้เชิงลึกด้านยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และในอนาคต บุคลากรเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเติมเต็มความพร้อมให้กับระบบนิเวศทางยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟ ฟ้าของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง
สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ในสภาวะของพลังงานเชื้อเพลิงโดยเฉพาะน้ำมันราคาสูงขึ้น และประกอบกับรัฐบาลสนับสนุนในเรื่องของอุตสาหกรรมใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มของ S Curve New Curve ซึ่งมีกลุ่มของยานยนต์ไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการในเรื่องของการพัฒนาประเทศ และนโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้น ในการที่ปรับตัวเพื่อจะผลิต และพัฒนากำลังคนของอาชีวะ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีการปรับตัวเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และภาคอุตสาหกรรมซึ่งในส่วนของวิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยี ในสังกัดอาชีวศึกษา ที่ได้รับมอบนโยบายว่า ทำอย่างไรที่จะพัฒนา จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้าไปในเรื่องของการบริหารจัดการในสถานศึกษาเกษตรกรรม ประกอบกับ สอศ. มีสถานศึกษาซึ่งเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราเน้นที่ผลิต และพัฒนากำลังคนกลุ่มนี้ให้เป็นนวัตกรรม เพื่อเป็นผู้ผลิต คิดค้นนวัตกรรม และการดัดแปลง โดยจะเริ่มต้นกระบวนการศึกษานำร่องในวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ 1. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโน โลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) 2. วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี (ช่าง และวิศวกร) และ 3. วิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยีลำพูน (ชีวภาพการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร) และการที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ซึ่งมีองค์ความรู้เข้ามาเติมเต็ม ในเรื่องของการพัฒนาออกแบบ ซึ่งก็จะทำ ให้เกิดความสมบูรณ์ และได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม
ผศ. ดร. ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร มีความยินดีที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ Great Wall Motor เราเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่กระบวนการพัฒนาความรู้ และทักษะของนักศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเป็นอีกต้นแบบของการยกระดับแวดวงอุดมศึกษาของไทยอย่างก้าวกระโดด โดยทางมหาวิทยาลัยฯ จะทำงานร่วมกับ Great Wall Motor และ สอศ. ตลอดจนสถานศึกษาในโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาศักยภาพให้แก่กำลังคนที่มีคุณภาพ และตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่ทางภาครัฐกำลังเน้นผลักดันการเติบโตให้แก่ประเทศไทย
ความร่วมมือทางการศึกษาในครั้งนี้ เป็นอีกกิจกรรมเพื่อสังคมของ Great Wall Motor ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางสังคม การพัฒนาชุมชน การสืบสานความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของเยาวชน ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/417253