ธุรกิจ
Bentley ฉลอง 40 ปี อัครยนตรกรรม Bentley Turbo
ครูว์-Bentley Motors เฉลิมฉลองครบรอบ 4 ทศวรรษ แห่งการผลิตอัครยนตรกรรม Grand Tourer รุ่น Turbo Charge ด้วยขบวนอัครยนตรกรรม Bentley กว่า 10 คัน ณ งาน Goodwood Festival of Speed โดยเมื่อ 40 ปีที่แล้ว Bentley Motors ได้เปิดตัวอัครยนตรกรรมรุ่น Turbo Charge Mulsanne Turbo เป็นครั้งแรก ณ งานเจนีวามอเตอร์โชว์ โดยอัครยนตรกรรม 4 ประตูรุ่นนี้ ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของบริษัทฯ ด้วยสมรรถนะในการขับ ขี่ที่ดีเยี่ยม
ในช่วง 40 ปี นับตั้งแต่อัครยนตรกรรม Bentley รุ่น Turbo Charge ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรก พละกำลัง และแรงบิดมหาศาล ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะของเครื่องยนต์จาก Bentley ได้วิวัฒนาการเป็นเครื่องยนต์แบบ Turbo Charge โดยเครื่องยนต์ W12, V8 และ V6 ในปัจจุบันล้วนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเครื่องยนต์แบบ Turbo Charge เพื่อการส่งมอบสมรรถนะ และประสิทธิภาพในการขับขี่
Bentley Motors จะจัดแสดงอัครยนตรกรรมรุ่น Turbo Charge 7 รุ่น จากคอลเลคชันอัครยนตรกรรมคลาสสิค ณ งาน Goodwood Festival of Speed ควบคู่ไปกับอัครยนตรกรรมรุ่นปัจจุบัน อาทิ Continental GT Mulli ner ที่มาพร้อมพละกำลังกว่า 650 แรงม้า และโมเดลรุ่น S รุ่นล่าสุดกับพละกำลัง 542 แรงม้า จากเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตร
แรงบันดาลใจผ่านข้อเสนอ
ในช่วงปี 2513 ยอดขายของ Bentley มีแนวโน้มลดลง โดยลูกค้าในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา ไม่รู้ถึงความเป็นมาของแบรนด์ แต่กับประธานบริษัท David Plastow ได้เสนอความร่วมมือกับหัวหน้าวิศวกร John Hollings ด้วยการบอกกับเขาว่า “Let’s Have Some Fun” โดยเสนอให้มีการเปิดตัวอัครยนตรกรรม Bentley รุ่น Turbo Charge เครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.75 ลิตร ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังระบบเดียวของ Bentley มาตั้งแต่ปี 2502
ขบวนอัครยนตรกรรม Bentley 10 คัน ที่เข้าร่วมขบวนเฉลิมฉลอง ณ Goodwood มีดังนี้:
2534 Turbo R
2544 Arnage Red Label
2546 Continental R Mulliner Final Series
2553 Brooklands
2553 Mulsanne
2554 Continental Supersports
2557 Continental GT V8 S
2565 Continental GTC S
2565 Flying Spur S
2565 Continental GT Mulliner
The Turbo R ผู้พลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่
Turbo R คือ ความสำเร็จด้านยอดขายครั้งสำคัญของ Bentley Motors ผู้รอคอยกว่า 9 เดือน พิสูจน์ให้เห็นว่า Bentley กำลังเข้าสู่ยุคฟื้นฟูในฐานะแบรนด์แห่งอัครยนตรกรรมสมรรถนะสูง โดย Turbo R กว่า 4,111 คัน ถูกผลิตขึ้นในช่วงระยะเวลา 9 ปี
ณ งาน Goodwood Festival of Speed Bentley Motors ได้จัดแสดง Turbo R รุ่นปี 2534 ในเฉดสีเขียว Brooklands Green พร้อมเส้นสายตัวถังในเฉดสีเหลือง
The Continental R กำเนิดแห่งอัครยนตรกรรม Grand Tourer
ด้วยความเร็วสูงสุดกว่า 241 กม./ชม. Continental R ซึ่งเปิดตัวที่เจนีวาในปี 2534 ถือเป็นอัครยนตรกรรม Grand Tourer ที่มีสมรรถนะสูงอย่างแท้จริง และเป็นอัครยนตรกรรม Bentley คันแรกที่มีการออกแบบที่เป็นเอก ลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ปี 2495 เครื่องยนต์รุ่น V8 เทอร์โบชาร์จขนาด 6.75 ลิตร ผลิตพละกำลังกว่า 355 แรงม้า ทำความเร็ว 0-99 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.6 วินาที แม้ตัวถังจะมีน้ำหนักกว่า รุ่น Turbo R แต่รูปทรงที่โฉบเฉี่ยว และแอโรไดนามิคสามารถทำความเร็วได้สูงสุดขึ้นกว่า 14 กม./ชม. ที่ความเร็วสูงสุด 244 กม./ชม.
สำหรับ Continental R Final Series ในเฉดสีเงิน Silver Pearl พร้อมการตกแต่งภายในด้วยหนังสีดำ คือ คอลเลคชันอัครยนตกรรมคลาสสิคของ Bentley รุ่นสุดท้าย
การกลับมาอีกครั้งของ Arnage Red Label V8
Arnage เปิดตัวครั้งแรกในปี 2541 มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่น BMW V8 ขนาด 4.4 ลิตร แต่จากข้อเรียกร้องของเจ้าของรถยนต์ Bentley ทั่วโลก และการเข้ามามีบทบาทของ Ferdinand Piech ประธานกลุ่ม VW Group ทำ ให้คณะผู้บริหารต้องพิจารณาใหม่ และไม่นานหลังจากที่บริษัทฯ กลายเป็นส่วนหนึ่งของ VW Group Bentley Motors ได้ประกาศเปิดตัว "Red Label" Arnage กับ Jack Phillips ด้วยเครื่องยนต์ V8 ความจุ 6.75 ลิตร
Brooklands ความงดงามที่อยู่เหนือกาลเวลา
ความงดงามของอัครยนตรกรรม Bentley เครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.75 ลิตร และความต้องการที่มีมากขึ้นสำหรับงานฝีมือชั้นสูง เป็นแรงบันดาลใจให้ Bentley นำเสนออัครยนตรกรรม Coupe รุ่น Limited Edition ด้วยการใช้ตัวถังเดียวกับรุ่น Arnage พร้อมด้วยเครื่องยนต์รุ่น V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 6.75 ลิตร ผลิตพละกำลังกว่า 530 แรงม้า ด้วยแรงบิด 107.1 กก.-ม. หรือ 1,050 นิวตัน-เมตร โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 296 กม./ชม. และ มีอัตราเร่ง 0-99 กม./ชม. ในระยะเวลาเพียง 5.3 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์หรูที่หนักกว่า 2.7 ตัน อัครยนตรกรรมรุ่น Brooklands จากคอลเลคชันอัครยนตรกรรมคลาสสิคของ Bentley คันสุดท้าย ออกจากสายการผลิตในเดือนมกราคม 2553 มาพร้อมตัวถังเฉดสีเทา Anthracite Grey
The Mulsanne อัครยนตรกรรมลีมูซีน
Mulsanne ปี 2553 จาก คอลเลคชันอัครยนตรกรรมคลาสสิคของ Bentley มาพร้อมกับขุมพละ 505 แรงม้า และแรงบิดกว่า 104.0 กก.-ม. หรือ 1,020 นิวตัน-เมตร ทำให้ Mulsanne ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 296 กม./ชม. และ 0-99 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.1 วินาที
โมเดลในคอลเลคชันอัครยนตรกรรมคลาสสิคของ Bentley ถือเป็นรุ่นที่ 2 ที่ผลิตขึ้นกับเลขตัวถัง 000002 ตกแต่งด้วยเฉดสีน้ำเงินภายนอก Imperial Blue และการตกแต่งภายในด้วยแผ่นไม้วีเนียร์แบบ Burr Walnut
2554 ยุคแห่งเครื่องยนต์ W12
Continental GT ซึ่งเปิดตัวในปี 2546 ถือเป็นอัครยนตรกรรมสปอร์ทคูเปรุ่นใหม่ล่าสุดคันแรกนับตั้งแต่รุ่น 3 ลิตร ในปี 2462 โดยไม่มีส่วนประกอบที่ยกมาจากรุ่นก่อน Continental GT ใหม่ใช้เครื่องยนต์ W12 ทวินเทอร์โบชาร์จ 48 วาล์ว ขนาด 6.0 ผลิตพละกำลังกว่า 552 แรงม้า ด้วยแรงบิด 66.3 กก.-ม. หรือ 650 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์รุ่น W12 จึงกลายเป็นขุมพลังหลักของ Bentley จนถึงปัจจุบัน โดยมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในแต่ละรุ่นเพื่อปรับปรุงพละกำลัง ประหยัดเชื้อเพลิง และลดการปล่อยมลพิษ สำหรับ Continental GT Super Sports รุ่นแรก ซึ่งเปิดตัวในปี 2552 ได้กลายเป็นอัครยนตรกรรมสปอร์ทคูเปรุ่นแรกที่สามารถใช้น้ำมันเบนซิน และไบโอเอธานอลผสมกันได้โดยไม่ลดทอนพละกำลัง ระบบการจัดการเครื่องยนต์ที่ปรับปรุงใหม่ และการจัดการกระแสลมที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มกำลังขับเป็น 621 แรงม้า โดยเมื่อรวมกับระบบเกียร์ Quick Shift ใหม่จะมอบความเร็ว 0-99 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที Continental GT Super Sports รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีการผลิตขึ้น
กระตุ้นความเร้าใจในการขับขี่ไปกับ Continental GT S
สำหรับงาน Festival of Speed ในปีนี้ อัครยนตรกรรมรุ่น S ใหม่ ของ Bentley อย่าง Continental GT S, Continental GTC S และ Flying Spur S พร้อมเปิดตัวทั่วโลก โดยทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตร ล่าสุดเพื่อเน้นสมรรถนะการขับขี่ และรูปลักษณ์ภายนอกอันโฉบเฉี่ยว
40 ปี แห่งอัครยนตรกรรมรุ่น Turbo Charge
ทุกวันนี้เทคโนโลยี Turbo Charge ได้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางตั้งแต่รถยนต์ในเมืองไปจนถึงซูเพอร์คาร์ โดย Bentley ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ตั้งแต่ปี 2525 และได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตามคำกล่าวของนักประวัติศาสตร์ด้านยานยนต์ Eric Dymock ที่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ได้ดึงจิตวิญญาณของ Bentley กลับคืนมา" สัมผัสจิตวิญญาณนี้กับเครื่องยนต์รุ่น W12, V8 และ V6 แบบไฮบริดกับอัครยนตรกรรม Bentley ได้แล้ว วันนี้
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/415215