คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Volvo ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยครึ่งปีแรกเติบโต 94 % ซึ่งเป็นผลจากที่ลูกค้าให้การตอบรับผลิตภัณฑ์รถยนต์ Volvo เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้ว่าขณะนี้จะต้องรอผลิตภัณฑ์เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องการขาดเซมิคอนดัคเตอร์ อย่างไรก็ตาม เราได้เร่งเรื่องการผลิตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ารถยนต์ที่ค้างส่งมอบให้แก่ลูกค้าจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงประมาณไตรมาส 3-4 โดยรถยนต์ที่ค้างส่งมอบมากที่สุด คือ Volvo C40 เนื่องจากเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว พร้อมกันนี้เตรียมพบกับรถยนต์ Volvo รุ่นใหม่ในปีหน้า
"ปัญหาของเซมิคอนดัคเตอร์ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เนื่องจากประสบปัญหาที่เซี่ยงไฮ้ ได้มีการปิดประเทศไประยะหนึ่ง แต่ด้วยการบริหารจัดการในระดับหนึ่ง ซึ่งหลังจากเซี่ยงไฮ้ ได้เปิดประเทศ และเริ่มการผลิต ทำให้บริหารจัดการได้ในระดับหนึ่ง เพราะหากไม่มีการปิดประเทศ คาดว่าจะบริหารจัดการตามแผนงานได้ดีกว่านี้"
สำหรับแผนการรุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง Volvo มุ่งเน้นการบริการลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมปรับภาพลักษณ์โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ อีกส่วนหนึ่ง คือ การส่งเสริม และฝึกอบรมพนักงานในส่วนต่างๆ ให้มีความรู้ ความสามารถที่จะตอบโจทย์ลูกค้าในทุกด้าน โดยเฉพาะความรู้เรื่องเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ที่ปัจจุบัน รถยนต์ Volvo ได้พัฒนานวัตกรรมรถยนต์ทุกรุ่นที่มาจำหน่ายเป็นพลังงานไฟฟ้า 100 % ซึ่งตามเป้าหมาย และวิสัยทัศน์ในปี 2030 รถยนต์ที่จำหน่ายทั่วโลกของ Volvo ทั้งหมดจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 %
ส่วนการขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการนั้น ขณะนี้ บริษัทฯ ยังไม่มีแผนที่จะขยายเพิ่ม เนื่องจากขณะนี้ โชว์รูม 13 แห่ง และศูนย์บริการ 15 แห่ง ยังเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า เพราะ Volvo ไม่ได้มียอดขายมากนักในแต่ละปี จึงยังไม่จำเป็นต้องลงทุนในขณะนี้ แต่ถึงอย่างไร Volvo ยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น บริษัทฯ จะมองถึงแผนการขยายอีกครั้งหนึ่ง
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ Volvo
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ