ธุรกิจ
สอท. เผยยอดผลิตรถเดือนเมษายน 2565
ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ร่วมเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนเมษายน 2565 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2565 มีทั้งสิ้น 117,786 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 12.87 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 31.79 เพราะวันทำงานน้อยกว่า ที่เพิ่มขี้นจากเมษายนปีที่แล้วเพราะผลิตรถยนต์นั่ง และรถกระบะขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.12 และ 26.39 ตามลำพัง ส่วนการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกยังคงลดลงร้อยละ 21.53 จากการขาดชิ้นส่วน และเซมิคอนดัคเตอร์ของรถบางรุ่น แต่ผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 จึงทำให้จำนวนผลิตรถยนต์เดือนเมษายนปีนี้เพิ่มขึ้นจากเมษายนปีที่แล้ว
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-เมษายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 597,864 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 4.85
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 36,516 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 10.07
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 มีจำนวน 172,980 คัน เท่ากับร้อยละ 29.34 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 14.73
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม- เมษายน 2564 ร้อยละ 100
รถยนต์บรรทุก เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 81,270 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 14.18 และตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 416,659 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 13.44
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 78,592 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 13.88 และตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 412,177 คัน เท่ากับร้อยละ 69.90 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 15.30 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 110,172 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 30.26
• รถกระบะ Double Cab 251,628 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 10.17
• รถกระบะ PPV 50,377 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 13.18
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 2,678 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 23.70 รวมเดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ 12,707 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม- เมษายน 2564 ร้อยละ 29.66
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 58,671 คัน เท่ากับร้อยละ 49.81 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 1.70 ส่วนเดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 303,821 คัน เท่ากับร้อยละ 50.82 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2564 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 8.04
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2565 ผลิตเพื่อการส่งออก 13,309 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 21.53 และตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 58,602 คัน เท่ากับร้อยละ 33.88 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งลดลงจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 43.15
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนเมษายน 2565 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 45,362 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 6.17 และตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 245,219 คัน เท่ากับร้อยละ 59.49 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 7.89 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 28,776 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 7.44
• รถกระบะ Double Cab 187,659 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 4.83
• รถกระบะ PPV 28,784 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 33.89
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 59,115 คัน เท่ากับร้อยละ 50.19 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 32.33 และเดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ 294,043 คัน เท่ากับร้อยละ 49.18 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 22.62
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 23,207 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 43.12 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ 114,378 คัน เท่ากับร้อยละ 66.12 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-เมษายน 2564 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.64
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนเมษายน 2565 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,230 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 26.39 และตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 166,958 คัน เท่ากับ ร้อยละ 40.51 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 28.23 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 81,396 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 40.84
• รถกระบะ Double Cab 63,969 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 29.49
• รถกระบะ PPV 21,593 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 6.16
รถจักรยานยนต์
เดือนเมษายน 2565 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 174,164 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 8.61 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 130,737 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 0.53 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 43,427 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 50.11
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-เมษายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 819,373 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.89 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 619,975 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 4.30 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 199,398 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 6.42
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเมษายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 63,427 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 27.30 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 9.11 จากการผ่อนคลายการลอคดาวน์ และการอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์ในวงจำกัด รวมทั้งการส่งมอบรถยนต์ให้ผู้จองรถยนต์ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ที่สิ้นสุดวันที่ 3 เมษายน เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา การผ่อนคลายข้อจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้มีความสะดวกมากขึ้น ทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาก และค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากในรอบหลายปีจะทำให้ต้นทุนสินค้าหลายอย่างเพิ่มขึ้นรวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจะทำให้อำนาจซื้อของประชาชนลดลง แต่
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 121,845 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 8.97 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 20.84
ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 รถยนต์มียอดขาย 294,616 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 16.79 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 569,992 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 0.12
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนเมษายน 2565 ส่งออกได้ 55,696 คัน โดยลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 40.65 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 5.33 ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในปีนี้จากรถกระบะเป็นหลัก จึงทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ โดยมีมูลค่าการส่งออก 33,480.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 11.34 อย่างไรก็ตาม ส่งออกเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ยังคงเติบโตดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,879.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 43.01
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 16,611.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 12.27
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 1,804.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 0.58
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนเมษายน 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 55,776.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน2564 ร้อยละ 12.97
เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 298,720 คัน โดยลดลงจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 3.94 แต่มีมูลค่าการส่งออก 177,646.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 2.68
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 15,321.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 27.18
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 72,406.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 5.93
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 8,005.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 5.32
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-เมษายน 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 273,380.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 4.74
รถจักรยานยนต์
เดือนเมษายน 2565 มีจำนวนส่งออก 70,278 คัน (รวม CBU+CKD) โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 18.09 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 21.08 โดยมีมูลค่า 4,874.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 6.77
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 127.68 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 32.27
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 141.73 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 14.27
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนเมษายน 2565 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,143.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 4.56
เดือนมกราคม-เมษายน 2565 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 336,376 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 2.25 โดยมีมูลค่า 23,365.81 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 20.12
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 622.45 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 25.13
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 811.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 11.35
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-เมษายน 2565 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 24,799.71 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-เมษายน 2564 ร้อยละ 19.51
เดือนเมษายน 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 60,920.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 12.20
เดือนมกราคม-เมษายน 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 298,180.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 2.18
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/410262