วิริยะประกันภัยฯ ประกาศแผนการดำเนินงานปี 2565 ด้วยกลยุทธ์ “Data-Driven Innovation : เข้าใจ เข้าถึง เคียงข้างคุณทุกความเสี่ยงภัย” หวังรักษาความเป็นเบอร์ 1 ธุรกิจประกันวินาศภัยอย่างยั่งยืน ด้วยการเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย ครอบคลุมทุกความเสี่ยงภัย เผยด้านประกันภัยรถยนต์จะออกผลิตภัณฑ์สนองรับความต้องการผู้คนในแต่ละภูมิภาคเป็นการเฉพาะ แตกต่างทั้งเงื่อนไขความคุ้มครอง และเบี้ยประกันภัย ขณะที่ประกันสุขภาพลงลึกการตลาดแบบ Personalization ผลิต ภัณฑ์ความคุ้มครองเฉพาะตัว และตรงข้อเท็จจริงของแต่ ละบุคคล ส่วนผลประกอบการในปีที่ผ่านมาบรรลุเป้า ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 38,800 ล้านบาท มีอัตราเติบโต 1.56 % ในขณะที่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง ด้วยทรัพย์สิน 77,500 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องสูงถึง 600.51 % มีเงินกองทุนประมาณ 41,400 ล้านบาท จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสินไหม COVID ที่ต้องจ่าย แถมมีเพียงพอที่จะจ่ายกรมธรรม์ประกันภัย COVID ทุกฉบับ ที่บริษัท ฯ ได้ให้ความคุ้มครองไว้
อมร ทองธิว กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งระบบต่างเจอโจทย์ที่ยากที่สุด เพราะต้องเผชิญกับอุบัติภัยใหม่ “โรค COVID-19” ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แต่ด้วยประสบการณ์ในการบริหารจัดการของ วิริยะประกันภัยฯ และการพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวทันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ วิริยะประกันภัยฯ สามารถบริหารจัดการ และก้าวผ่านโจทย์ที่ท้าทายนี้ไปได้อย่างเข้มแข็ง และมั่นคง ดั่งเห็นได้จากการได้รับความไว้วางใจจากผู้เอาประกันภัย ทำให้วิริยะประกันภัยฯ ยังคงเป็นผู้นำที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจประกันวินาศภัยมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 โดยในปี 2564 วิริยะประกันภัยฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้นประมาณ 38,800 ล้านบาท มีอัตราเติบโต 1.56 % แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) 33,400 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) 5,400 ล้านบาท และยังคงมีกำไรสุทธิประมาณ 500 ล้านบาท
“ต้องยอมรับว่าการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดก็คือ การบริหารจัดการการจ่ายสินไหมทดแทนประกันภัย COVID เจอ จ่าย จบ เพราะมีจำนวนของผู้เอาประกันภัยที่มาเปิดเคลมประกันภัย COVID มีปริมาณมาก และยื่นกันอย่างพร้อมเพรียงในคราวเดียวกัน หรือช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน บริษัทฯ ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้เอาประกันภัยได้รับทราบว่า การยื่นเคลมค่าสินไหมนั้น สามารถไปยื่นได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนของบริษัทฯ ที่มีอยู่ทุกที่ทั่วไทย และมีระบบเทคโนโลยีเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ส่งผลให้ภาวะกระจุกตัวในการทำเคลมได้ถูกกระจายไปยังแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้ผู้เอาประกันภัยได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็ว ตามกลยุทธ์ การยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลางให้บริการครบวงจรด้วยความยืดหยุ่น
ในปี 2565 แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น แต่ วิริยะประกันภัยฯ ได้มีการประเมินความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา และจากการประ มาณการในสถานการณ์การระบาดที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ วิริยะประกันภัยฯ ก็มีสินทรัพย์สภาพคล่อง และเงินกองทุน เพียงพอที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรมธรรม์ประกันภัย COVID ทุกฉบับ ที่บริษัทฯ ได้ให้ความคุ้มครองไว้ ด้วยปรัชญาในการทำธุรกิจของเรา นั่นก็คือ ความเป็นธรรม คือ นโยบาย” อมร กล่าว
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 วิริยะประกันภัยฯ มีสินทรัพย์รวม 77,500 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องสูงถึง 600.51 % มีเงินกองทุนประมาณ 41,400 ล้านบาท ในขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย อยู่ในระดับสูงเกินกว่ามาตรฐานที่สำนักงาน คปภ. กำหนดไว้ถึง 170 %
อมร ได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 วิริยะประกันภัยฯ จะดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “Data-Driven Innovation : เข้าใจ เข้าถึง เคียงข้างคุณทุกความเสี่ยงภัย” อันเป็นกลยุทธ์ที่เกิดจากคณะผู้บริ หารของบริษัทฯ เห็นพ้องกันว่าจากเหตุการณ์วิกฤต COVID ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก และยังส่งผลกระทบไปถึงภา วะเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะหดตัว กำลังซื้อลดลง วิริยะประกันภัยฯ จึงเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองผู้เอาประกันภัยให้ทันต่อสถานการณ์ โดยการนำ Data-Driven Innovation มาใช้
“วิริยะประกันภัยฯ เป็นบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่ เป็นอัน ดับ 1 ของตลาด ก่อตั้งมากว่า 75 ปี มีลูกค้าประมาณ 8 ล้านกรมธรรม์ เราจึงสามารถนำข้อมูลมากมายที่เก็บสะสมมาตลอด เพื่อคำนวณ และประมาณการหาความคุ้มครองที่เหมาะสมกับผู้เอาประกันภัยกลุ่มต่างๆ ได้เสมอ ด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม พร้อมให้ความคุ้มครองด้วยความเป็นธรรมตลอดอายุกรมธรรม์ แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของเราครอบคลุมความคุ้ม ครองทั้งชีวอนามัยของคน ทรัพย์สิน และความรับผิดชอบ รวมถึงผู้บริโภคสามารถนำมาใช้บริหารความเสี่ยงมากกว่า 60 ผลิตภัณฑ์ จนกล่าวได้ว่า วิริยะประกันภัยฯ เคียงข้างคุณได้ทุกความเสี่ยงภัย” นายอมรกล่าว
โดยในด้านประกันภัยรถยนต์นั้น อมร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหลากหลายผลิตภัณฑ์ด้วยกัน อาทิ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 (2+, 3+) ระยะสั้น ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองแบบไม่เต็มปีได้, ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 รวมความคุ้มครองความเสียหายต่อรถ กรณีรถชนรถฝ่ายถูก เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการทำประกันภัย ป. 3 เป็นหลัก แต่ไม่ต้องการมีปัญหาในการจัดซ่อมรถ และติดตามเรียกร้องจากคู่กรณีหากถูกชน โดยบริษัทฯ จะเป็นคนดูแลการจัดซ่อมรถให้ลูกค้า และสวมสิทธิ์ไปเรียกร้องจากคู่กรณีเอง, ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 (2+) ซ่อมห้าง เพื่อตอบสนองลูกค้าในช่วง COVID ที่ยังเป็นรถใหม่ อายุไม่เกิน 5 ปี แต่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันจากประกันภัยประเภท 1 ทำประกันแบบ 2+ แทน และผลิตภัณฑ์เพื่อสนองรับความต้องการผู้ คนในแต่ละภูมิภาคได้เป็นการเฉพาะ แตกต่างทั้งเงื่อนไขความคุ้มครอง และเบี้ยประกันภัย นอกจากนี้ภายในปีนี้ บริ ษัทฯ มีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ ซึ่งคิดราคาเบี้ยตามพฤติกรรมการขับขี่ หรือตามลักษณะการใช้รถ เพิ่มมาอีก 1-2 ผลิตภัณฑ์
ส่วนทางด้านประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยอุบัติเหตุ และสุขภาพนั้น ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ จะออกผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการรายบุคคล หรือเรียกได้ว่าสามารถสนองรับการตลาดแบบ Personalization ผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองเฉพาะตัว และตรงข้อเท็จจริงของแต่ละบุคคล
"จากกลยุทธ์ “เข้าใจ เข้าถึง เคียงข้างคุณทุกความเสี่ยงภัย ” ของเราในปี 2565 ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ เรามั่นใจว่าเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการ สร้างความพึงพอใจ สร้างความผูกพัน และทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าสามารถพึ่งพาบริษัทฯ เพื่อเป็นหลักในการจัดการความเสี่ยงของตนเองได้แม้ว่าจะเผชิญวิกฤตในหลายๆ ด้านด้วยกัน อันจะนำมาซึ่งความไว้ใจจากผู้เอาประกันภัยที่จะสนับสนุนให้ วิริยะประกันภัยฯ เติบโตอย่างยั่งยืนไปตลอดปีนี้"
สยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประ กันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงการความสำเร็จในการให้บริการสินไหมทดแทนว่า ในปีที่ผ่านมา วิริยะประกันภัยฯ ได้ขยายศูนย์บริการสินไหมทดแทนออกไปมากมาย ทั้งในศูนย์การค้า ปั๊มน้ำมัน อาคารพาณิชย์ตามย่านชุมชน และย่านการจราจรหนาแน่นที่มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ตลอดไปถึงการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาใช้อย่างเช่น การบริการเคลมออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือของลูกค้าเพียงเครื่องเดียว ด้วยระบบ VDO Call ( VClaim on VCall)
“อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญที่สุดของบริการสินไหมที่สร้างชื่อเสียงให้แก่เรา คือ พนักงานสำรวจอุบัติเหตุ หรือพนัก งานเคลมนั่นเอง ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำนำสมัยเพียงใด หัวใจของงานบริการก็ยังคงต้องพึ่งบุคลากรเป็นหลักสำ คัญ โดยเฉพาะงานบริการสินไหม ณ จุดเกิดเหตุบนท้องถนน ซึ่งเป็นสถานการณ์ยามคับขันที่ผู้เอาประกันภัยต้อง การความมั่นใจในการดูแลของพนักงาน สำหรับ วิริยะประ กันภัยฯ เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกระบวนการสรรหา และพัฒนาพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ เราพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กำหนดคุณสมบัติ การทดสอบ การคัดเลือก การฝึกฝนอบรมหลักสูตร ทั้งหลักสูตร พรบ. จราจร ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่ถ่ายทอด และพัฒนาจากประสบ การณ์โดยตรงของพนักงานเคลมรุ่นพี่ๆ ที่สั่งสมมายาวนาน ”
สยมกล่าวต่อไปอีกว่า ในเรื่องของการใช้ Big Data มาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสินไหมทดแทนนั้น วิริยะประกันภัยฯ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และได้สรรหานวัต กรรม และโมเดลที่ทันสมัยในการบริหารจัดการข้อมูลมาเพื่อยกระดับความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง มีการเชื่อมโยงโครงสร้างธุรกิจด้วยข้อมูล รวมถึงสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้บริหาร และพนักงานทุกฝ่าย ทุกระดับ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อประกอบการตัด สินใจในทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อบรรลุเป้าหมาย ของบริษัทฯ ไปด้วยกัน
“วิริยะประกันภัยฯ มีข้อมูลมากมายเนื่องจากเราให้บริการลูกค้ากว่าล้านกรมธรรม์/ปี ข้อมูลการทำประกันภัยของลูก ค้าที่สะสมมาต่อเนื่องกันหลายปี จึงมีจำนวนมากมายมหา ศาล โดยเฉพาะสถิติข้อมูลการเกิดเหตุ ลักษณะการเกิดเหตุ ช่วงเวลาเกิดเหตุ พื้นที่เกิดเหตุ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราบริหารจัดการงานสินไหมของบริษัทฯ ให้มีความแม่นยำ ลดระยะเวลา และขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็ว
อีกทั้งยังได้นำข้อมูลลักษณะการเกิดเหตุไปใช้ประโยชน์ทางสังคมผ่านหลากหลายโครงการ เพื่อรณรงค์ช่วยลดและบรรเทาความรุนแรงของอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนจัดทำโครงการกิจกรรมเพื่อสัง คม (CSR) ต่างๆ กับหน่วยงานราชการ และองค์กรสาธาร ณะต่างๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก เป็นต้น”
นอกจากนี้ สยมยังได้เปิดเผยถึงศักยภาพ และความพร้อมรองรับการรับประกันภัยที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่เห็นคนไทยให้ความสำคัญตื่นตัวกับการใช้รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ลดปริ มาณฝุ่นควัน และไอเสียในอากาศ ปัจจุบัน วิริยะประกันภัย ฯ รับประกันรถยนต์ EV อยู่แล้ว แต่ด้วยสัดส่วนการใช้รถ EV ของไทยยังมีจำนวนน้อย โดยข้อมูลรถยนต์ EV จดทะเบียนเดือน กพ. 65 เฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง มีจำนวน 5,400 คัน วิริยะประกันภัยฯ รับประกันไว้ประมาณ 700 คัน (13 %) อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มความนิยม และกระแสการตอบรับรถยนต์ EV ของผู้ใช้คนไทยเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายค่ายดังที่ทยอยเปิดตัวอีกนับ 10 แบรนด์ วิริยะประกันภัยฯ เราเตรียมความพร้อมรองรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ามาร่วม 4 ปี ตั้งแต่วิวัฒนาการมาจากรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด โดยร่วมมือกับผู้ผลิต และผู้แทนจำหน่ายชั้นนำ ในการเติมเต็มการให้บริการผู้ใช้รถยนต์ EV อย่างครบวงจร ด้วยการวางแผนจัดโครงสร้างเบี้ยประกัน จัดระบบสินไหมการซ่อม การจัดบริการอะไหล่ เพื่อให้ผู้ใช้รถ ยนต์ไฟฟ้ามั่นใจในการขับขี่ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสิ่งแวดล้อมสะอาดด้วยพลังงานไฟฟ้า
สำหรับแนวทางการพัฒนาช่องทางการขายของ วิริยะประ กันภัยฯ นั้น ดลเดช สัจจวีระกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวชี้แจงในประเด็นนี้ว่า ตัวแทน และนายหน้าประกันภัยที่มีอยู่ประ มาณเกือบ 10,000 คน ยังเป็นช่องทางขายที่สำคัญของบริษัทฯ เพราะเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาทั้งหมดกว่า 50 % ได้มาจากการทำงานอย่างหนักหน่วงของตัวแทน และนายหน้าประกันภัย ดังนั้นการส่งเสริมการพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ตัวแทน และนายหน้า สามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคของข้อมูลข่าวสาร และการเข้าสู่สังคมดิจิทอล และสามารถใช้เทคโน โลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการนำสื่อสังคมออน ไลน์เข้ามาใช้สนับสนุนงานขาย การประชาสัมพันธ์ การให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่ลูกค้า และประชาชนทั่วไป
“ปัจจุบันบริษัทฯ ได้สร้างเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อสนับสนุนการทำงาน และเชื่อมการทำงานร่วมกับตัวแทน และนายหน้าอย่างมากมาย อาทิ Facebook ตัวแทนสัมพันธ์ และ Line ตัวแทนสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนงานขายของตัวแทน/นายหน้า การสร้าง Facebook Group ห้องสมุดตัวแทนสัมพันธ์ เป็นที่รวบรวมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานขาย เพื่อให้สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ทันที เช่น โบว์ชัวร์ แผ่นพับ แบนเนอร์ ผลิตรายการ “รู้ไปด้วยกัน” ผ่าน Facebook Live เพื่อให้ความรู้ในเรื่องผลิตภัณฑ์ประกันภัย Update ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงสาระความรู้ที่จะเป็นประโยชน์กับตัวแทน/นายหน้าของบริษัท การจัดตั้งห้องสนทนาบน Line Open Chat เพื่อให้เกิดชุมชนตัว แทน/นายหน้าของบริษัทฯ ในการสอบถามข้อสงสัย แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบริษัทฯ กับตัวแทน/นายหน้า และระ หว่างตัวแทน/นายหน้าด้วยกันเอง ฯลฯ”
ดลเดชได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า ส่วนช่องทางการขายทั้งแบบออนไลน์ และแบบออฟไลน์อื่นๆ บริษัทฯ มีให้บริการอย่างครบครัน เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าตามวิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นจุดบริการในห้างสรรพสินค้า เพื่อรองรับวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองใหญ่ที่ชอบการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า www. Viriyah.com และ Platform ออนไลน์ต่างๆ สำหรับผู้ที่มีวิถีชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า ชาวดิจิทอล (Digital Native)
“ในปี 2565 นี้ เพื่อให้การให้บริการประกันภัยครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างแท้จริง บริษัทฯ จึงเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ ได้เข้ามาสู่การเป็นตัวแทนประกันวินาศภัยที่มีคุณ ภาพ ส่งเสริมให้ร่วมธุรกิจกับบริษัทฯ ในทุกพื้นที่ ซึ่งนับตั้ง แต่วันนี้ จำนวนตัวแทน และนายหน้าจะมีครอบคลุมทุกจัง หวัด ทุกอำเภอ และอาจจะครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศ” ดลเดช กล่าว
ส่วนแผนงานด้านการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ หรือ Non-Motor ฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า ถึงแม้บริษัทจะเจอภาวะวิกฤต COVID ที่หนักหน่วงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ผลการดำเนินงานของ Non- Motor ในปี 2564 ยังคงเติบโตได้ถึง 12.17 % ด้วยเบี้ยประกันภัย 5,400 ล้านบาท และบริษัทฯ ยังคงสามารถขยายอัตราส่วนประกันภัย Non-Motor เพิ่มเป็น 13.98 % ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
“เฉพาะประกันภัยสุขภาพในปี 2564 เราได้เติบโตขึ้น 102 % ในส่วนของเบี้ยประกันภัย 851 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ Market Share เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.7 % ซึ่งเติบโตจากปี 2563 ที่มี Market Share อยู่ที่ 3.3 % ก็ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ
ฐวิกาญจน์เปิดเผยต่อไปอีกว่า เป้าหมายหลักปี 2565 ของ Non-Motor ก็จะยังคงเพิ่มสัดส่วนประกันภัย Non-Mo tor เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้ โดยมุ่งเน้น พัฒ นาผลิตภัณฑ์ และการบริการด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงรายบุคคล รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ อย่างเช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งนอกจากการดูแลทางด้านผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ และการบริการลูกค้าด้านต่างๆ แล้ว บริษัทฯ ยังได้ขยายการดูแลต่อไปยังสุขภาพของรถ ยนต์ด้วย โดยเมื่อต้นปีนนี้เอง บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ “ประกันภัยการขยายเวลารับประกันสำหรับอะ ไหล่รถยนต์” หรือ “Extended Warranty” ด้วยแนวคิดที่ว่าหากประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอุบัติเหตุ ประกันภัยนี้ก็จะคุ้มครองสุขภาพของรถคุณ ซึ่งแผนนี้ออกแบบให้คุ้ม ครองต่อเนื่องได้ทันทีเมื่อระยะการรับประกันจากผู้ผลิตสิ้นสุดลง ซึ่งให้ความคุ้มครองสูงสุด 14 กลุ่มอะไหล่หลัก และชิ้นส่วน
ส่วนทางด้านการพัฒนาบริการ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาระบบ Core System เพื่อรองรับการเติบโตของประกันภัยสุขภาพ และอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาระบบ CRM และการใช้ Data-Driven เข้ามาช่วย เพื่อให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงมีการเปิดตัวแคมเปญ Get Healthy เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าของเราได้ให้ความสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ซึ่งมุ่งเน้นให้คำแนะนำการปรับพฤติกรรมการบริโภค ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของนักโภชนาการ และบุคลากรทาง การแพทย์ ซึ่งจากการดำเนินงานมาตั้งแต่ต้นปีได้รับการสนองรับเกินคาด ลูกค้าได้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก และผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจจากผู้เข้าร่วมโครงการ
นอกจากนี้ เรายังมีโครงการ Healthy Life ได้วางแผนต่อ ยอดในการให้คำแนะนำด้านสุขภาพ หรือประเด็นโรคที่น่าสนใจในหัวข้อต่างๆ ผ่าน Doctor’s Talk ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมะเร็ง PM2.5 โอไมครอน และอีกหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจที่จะตามมา เช่น ออฟฟิศซินโครม Long Covid หรือ Mental Health Issues
“ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ด้วยความตั้งใจของเราที่จะดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มรูปแบบเพื่อประโยชน์สูงสุดของสุขภาพลูกค้าของบริษัทฯ ทุกคน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการพัฒนาเหล่านี้จะตอบโจทย์ และช่วยให้ลูกค้าของเราใช้ชีวิตด้วยความเบาใจ ไร้กังวล”
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/405452
BMW
ผู้ผลิตยานยนต์
บมจ.ยนตรกิจบาวาเรีย หรือ BMW เป็นบริษัทผลิตยานยนต์ของประเทศเยอรมนี บริษัทก่อตั้งในปีค.ศ. 1916 เมื่อแรกก่อตั้งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์อากาศยานสำหรับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
Gallery (10)
Promotions
Lorem ipsum dolor sit amet, consetetur sadipscing elitr, sed diam nonumy eirmod tempor invidunt ut labore et dolore magna aliquyam erat, sed diam voluptua. At vero eos et accusam et justo duo dolores et ea.
รุ่นรถเพิ่มเติม
Lorem ipsum dolor sit amet, consetetur sadipscing elitr, sed diam nonumy eirmod tempor invidunt ut labore et dolore magna aliquyam erat, sed diam voluptua. At vero eos et accusam et justo duo dolores et ea.
VDO
Lorem ipsum dolor sit amet, consetetur sadipscing elitr, sed diam nonumy eirmod tempor invidunt ut labore et dolore magna aliquyam erat, sed diam voluptua. At vero eos et accusam et justo duo dolores et ea.