Deepal S07
ลองขับ e:N1 รถไฟฟ้า 100 % ในร่าง Honda HR-V
Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ ราคา 799,000 บาท ลองขับทั้งทางเรียบ/ทางลุย ระบบไฮบริดขนาดเล็ก แต่ลงตัว
New Mitsubishi Pajero Sport เปลี่ยนเครื่อง และเกียร์ใหม่
Toyota Majesty กลับมาแล้ว
Lexus NX โฉมล่าสุด เพิ่มรุ่นย่อย Overtrail ในรุ่น 450h+ (ราคา 4,180,000 บาท)
Aion Y Plus 490 Premium / Mitsubishi Xpander Cross HEV / Suzuki XL7 Hybrid รวม 3 ครอสส์โอเวอร์สไตล์ MPV น่าพาไปเที่ยว !
Toyo Tires คว้ารางวัล Red Dot Design Award 2023
ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่งฯ ฉลองครบรอบ 30 ปี
Mercedes-Benz ส่ง “Night Edition” แชร์ตลาดพรีเมียม
Apple เผยโฉม iPad Pro ใหม่ พร้อมจอภาพล้ำ, ชิพ M4 และ Apple Pencil Pro
INFINIX NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จไว ชาร์จได้หลากหลาย
Redmi Note 13 Pro Plus 5G
ช่วงล่างระดับเทพ ! Lamborghini ปรับมุมล้ออัตโนมัติ | X-RAY
มุมล้อ 101 : ตั้งมุม Camber มุม Toe อย่างไรถึงจะขับดี | X-RAY
รีวิว ! สงกรานต์ 2024 อุบัติเหตุลด ! ผลงานเยี่ยม แนะ ! เมาแล้วขับ กับความเชื่อผิดๆ
ฮิโรชิ ฟูจิวาระ เป็นผู้นำทเรนด์ที่โด่งดัง เปี่ยมด้วยอิสระในการสร้างสรรค์ และเป็นผู้บุกเบิกแฟชันเครื่องแต่งกายแนวสตรีทในโตเกียวช่วงปี 1980 อีกทั้งยังเป็นดีเจคนแรกๆ ที่นำดนตรีฮิพฮอพมาสู่แดนอาทิตย์อุทัย และเคยร่วมงานกับหลายศิลปินชื่อดังในฐานะพโรดิวเซอร์ และนักดนตรี เขามีความเชี่ยวชาญในการสื่อถึงมุมมองต่างๆ ผ่านอารมณ์แบบคนเมือง พร้อมศักยภาพในการฟันฝ่าอุปสรรคด้วยความกล้า บ้าบิ่น เหมือนกับรถยนต์ Maserati ภายใต้แนวคิดแบบ ITANJI ในภาษาญี่ปุ่น หรือการผสมผสานระหว่างอิตาเลียนดีไซจ์น และความสมบูรณ์แบบในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของ Operanera และ Operabianca
สไตล์ของ Maserati และบุคลิกของ ฟูจิวาระ ล้วนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การมาบรรจบกันระหว่างรูปลักษณ์ของ Maserati และวัฒนธรรมแบบสตรีทของแบรนด์ Fragment ก่อให้เกิดความร่วมมือในการรังสรรค์งานศิลป์ ที่สื่อถึงความหมายของ Maserati Meets Fragment ได้ดีที่สุด
Operanera และ Operabianca คือ 2 ยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่เปรียบเสมือน เพลงติดล้อ (A Song on Wheels) มาพร้อมตัวถังสีดำและขาวตามลำดับ ใช้พื้นฐานจากรุ่น Ghibli Gran Lusso (กีบลี กรันลุซโซ) ผลิตจำกัด 175 คันทั่วโลก
ภายนอกตกแต่งตามสไตล์ของ ฟูจิวาระ ด้วยกระจังหน้าแบบพิเศษ พร้อมโลโกดีไซจ์นใหม่ ติดตั้งบริเวณเสาซี พร้อมล้อแมก Urano สีดำด้านขอบ 20 นิ้ว มือจับประตู และล้อแมกพ่นสีเดียวกับตัวถัง ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียม และอัลคันทารา สอดแทรกด้วยตะเข็บแนวตั้งสีเงินบนเบาะ พร้อมโลโกตรีศูลบริเวณพนักพิงศีรษะสีเดียวกัน และใช้เข็มขัดนิรภัยสีน้ำเงินเข้ม
ปิดท้ายด้วยการเพิ่มรหัส M157110519FRG บริเวณช่องลมด้านข้าง โดย 4 ตัวแรกเป็นรหัสตัวถังของ Maserati Ghibli ขณะที่เลข 6 หลักถัดไป แสดงถึงวันที่มีการนัดพบกันครั้งแรก ระหว่าง ฮิโรชิ และ Centro Stile Maserati (5 พฤศจิกายน 2019) ส่วน 3 ตัวสุดท้าย คือ อักษรย่อของ Fragment
นอกเหนือจากการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ ก็มีการผลิตเครื่องแต่งกายคอลเลคชันเฉพาะกิจ (Capsule Collection) ที่ผ่านการออกแบบร่วมกับ ฟูจิวาระ ด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่เช่นเดียวกับตัวรถ
บทความแนะนำ
Follow Motor Expo Club Network