ระเบียงรถใหม่
Lexus LF-Z Electrified Concept 2025 รถไฟฟ้าเทคโนโลยีขั้นสูง
Lexus LF-Z Electrified Concept ถูกออกแบบโดยใช้พแลทฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ จุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีการขับเคลื่อน 4 ล้อ Direct 4 ซึ่งจะส่งคำสั่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อควบคุมการกระจายกำลังของล้อแต่ละล้อได้อย่างอิสระตั้งแต่มีการเปิดตัว RX 400h ยานยนต์ระดับหรูรุ่นแรกของโลก ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีไฮบริด จากเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.3 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนที่ให้แรงบิดสูง แต่ทำงานอย่างนุ่มนวลไร้เสียงรบกวน ในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน รถยนต์ไฮบริดจาก Lexus ได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 2 ล้านคันทั่วโลก โดยปัจจุบัน Lexus มีรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน (BEV) ทั้งหมด 9 รุ่น ที่ทำตลาดในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก Lexus LF-Z Electrified เป็นรถยนต์คอนเซพท์ที่รวบรวมความเป็นที่สุด ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ ความนุ่มนวล และเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่เหนือระดับ มีการออกแบบภายนอกที่ล้ำสมัย สปอร์ทเร้าอารมณ์ จากการออกแบบเส้นสาย และรายละเอียดตัวรถ บานประตูลากจากล้อหน้าสู่ล้อหลังอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ ยังมีสัญลักษณ์ Lexus ทอดตัวตามแนวนอนบริเวณกระจังหน้า สำหรับช่องดักลมที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับรถไฟฟ้าได้หายไป โคมไฟหน้ารูปทรงปราดเปรียวได้รวมไฟสัญญาณต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เห็นสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lexus ในเจเนอเรชันถัดไป Lexus LF-Z Electrified Concept มาพร้อมมิติตัวถังความยาวxกว้างxสูง ที่ 4,880x1,960x1,600 มม. ความยาวฐานล้อ 2,950 มม. และน้ำหนักตัวรถ 2,100 กก. Lexus ได้เปรียบเทียบการควบคุมการขับขี่ของรถต้นแบบนี้ว่า "Tazuna" หรือภาษาญี่ปุ่น แปลว่า "บังเหียน" ด้วยแรงบันดาลใจจากการบังคับควบคุมของม้ากับเจ้าของม้า ที่สื่อสารกันผ่านบังเหียนเพียงเส้นเดียว สวิทช์ควบคุมต่างๆ ถูกติดตั้งอยู่ที่พวงมาลัย สามารถสั่งการระบบการนำทาง เครื่องเสียง และการขับขี่ต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน หน้าจอแสดงผลที่ออกแบบได้อย่างเรียบง่ายสวยงาม ไม่มีปุ่มสั่งการใดที่ซับซ้อน รูปแบบเปิดโล่งสไตล์ "มีนีมอลลิสต์" หมายถึง หลักการใช้ชีวิตด้วยการใช้แค่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ลดสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป เพื่อสร้างพื้นที่ให้กับสิ่งที่มีค่ากับเราเท่านั้น ตัวรถมาพร้อมหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่ ที่มีฟีเจอร์ระบบปรับลดแสงจากภายนอกด้วยระบบไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือรับแสงจากธรรมชาติได้ตามต้องการ Lexus LF-Z Electrified แสดงระบบลอคประตูอีเลคทรอนิคส์ (E-Latch) มือจับประตูแบบซ่อนได้ โดยจะยกตัวขึ้นเหนือพื้นผิวตัวถังรถอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารเข้าใกล้ตัวรถ และถือกุญแจไว้ในมือ จะสามารถลอค และปลดลอคประตูได้อย่างง่ายดาย โดยแตะที่เซนเซอร์บริเวณด้านในของมือจับประตู ขณะลงจากรถก็สามารถเปิดประตูรถได้โดยกดที่สวิทช์เปิดประตูเท่านั้น มีระบบเซนเซอร์ที่สามารถตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่ามีรถสวนมา หรือจะเข้ามาใกล้ก่อนที่ผู้โดยสารจะออกนอกตัวรถ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร และรองรับแอพพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาร์ทโฟน สั่งการลอค หรือปลดลอคประตูได้ และกุญแจดิจิทอลยังช่วยให้ครอบครัว และเพื่อนหรือบุคคลอื่น สามารถเข้าใช้งานขับรถออกไป โดยไม่ต้องมีการส่งมอบกุญแจเหมือนเดิม ระบบเครื่องเสียงจาก "Mark Levinson" ให้สัมผัสประสบการณ์ระดับคอนเสิร์ทฮอลล์ สามารถตัดเสียงรบกวน ช่วยสร้างสุนทรียภาพ และความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้โดยสาร Lexus LF-Z Electrified ถูกพัฒนาขึ้นด้วยพแลทฟอร์ม BEV ที่พัฒนาขึ้นใหม่ รองรับการออกแบบโครงสร้างตัวรถสำหรับจัดวางแบทเตอรี ระบบขับเคลื่อน และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างสมดุล และคงไว้ซึ่งการสนับสนุนการเค้นสมรรถนะ ความแข็งแรง จุดศูนย์ถ่วงที่เหมาะสม และความเงียบ นุ่มนวล สะดวกสบายที่เหนือระดับ ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมสูงสุด 536 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. โดยมีแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง วางอยู่ใต้ท้องรถ รองรับการชาร์จได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กม./การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐานการทดสอบจาก WLTP) อีกหนึ่งจุดเด่นของรถคันนี้อยู่ที่เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบใหม่ที่เรียกว่า "Direct4" ที่ตอบสนองได้อย่างฉับไว ระบบการควบคุมจะสั่งการล้อทั้ง 4 ให้ทำงานได้อย่างอิสระ และระบบบังคับเลี้ยวที่ไม่ได้เชื่อมต่อด้วยกลไกผ่านแกนพวงมาลัย หรือแกนเพลา ช่วยให้รถยนต์มีมุมบังคับเลี้ยวที่แคบลง การตอบสนองการขับขี่ท่ามกลางสภาวะต่างๆ ที่แม่นยำกว่าเดิม นอกเหนือจากการเปิดตัว LF-Z Electrified Concept แล้ว Lexus ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ โมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์ รถ 20 รุ่น ภายในปี 2568 โดยมากกว่า 10 รุ่น เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรี และ Plug-in Hybrid หรือ Hybrid ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละประเทศ และภูมิภาคทั่วโลก Lexus มุ่งมั่นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ซีดาน และเอสยูวี รวมถึงรถสปอร์ทที่ให้ความสนุกในการขับขี่อย่างต่อเนื่อง และจะเปิดตัวโมเดลใหม่ ซึ่งจะเป็นรถกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยตั้งเป้าที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าให้ครบทุกรุ่นภายในปี 2568 และต้องการให้ยอดขายรถ EV มากกว่ารุ่นที่ใช้น้ำมันเบนซิน ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า
ABOUT THE AUTHOR
พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)