ธุรกิจ
กรมการขนส่งทางบก ขยายเวลาอายุรถแทกซี
กรมการขนส่งทางบก เคาะ รถแทกซีที่จดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี โดยต้องผ่านการตรวจสภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด ย้ำ !!! สภาพรถต้องมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยต่อการให้บริการ และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เริ่มนำรถแทกซีเข้าตรวจสภาพเพื่อขยายอายุการใช้งานได้แล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายอายุการใช้งานของรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน หรือรถแทกซีที่จดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ให้สามารถขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี โดยต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสภาพตามที่กรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษร่วมกันกำหนดเงื่อนไข ทั้งการตรวจสภาพเพื่อขยายอายุการใช้งาน และการตรวจสภาพเพื่อรักษามาตรฐานสมรรถนะรถไปจนสิ้นอายุการใช้งาน เพื่อให้มีความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยในการใช้งาน มีคุณภาพ และความเรียบร้อยในการให้บริการรับจ้าง มีการตรวจสภาพมลพิษทางอากาศ และเสียงอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันผลกระทบซึ่งอาจเป็นสาเหตุของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยรถแทกซีที่ได้รับการขยายอายุการใช้งานต้องผ่านการตรวจสภาพรถตามรายการที่กำหนดในระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการตรวจสภาพรถ และเกณฑ์การวินิจฉัยผลการตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พศ. 2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการตรวจสภาพรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนเพื่อขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี พศ. 2564 ซึ่งจะมีรายการที่ต้องตรวจสภาพเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
1. ตรวจแกสคาร์บอนมอนอกไซด์ และแกสไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสีย โดยใช้เครื่องวิเคราะห์แกสในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา และไม่มีภาระ และให้ตรวจทุกชนิดเชื้อเพลิงในกรณีมีการใช้เชื้อเพลิงมากกว่า 1 ชนิด โดยค่าแกสคาร์บอนมอนอกไซด์ต้องไม่เกินร้อยละ 0.5 โดยปริมาตร และค่าแกสไฮโดรคาร์บอนต้องไม่เกิน 100 ส่วนในล้านส่วน
2. โครงสร้าง และตัวถังรถ ต้องมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรองรับการทำงานของรถขณะมีน้ำหนักเต็มอัตราบรรทุกได้ในทุกสภาพการใช้งาน ไม่ชำรุด ผุกร่อน จนมีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของรถ เป็นต้น
3. ประตู และพื้นรถ ต้องไม่ชำรุด ผุกร่อน จนมีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของรถ และความปลอดภัยในการใช้งาน สะอาด ไม่มีคราบเปื้อน คราบสกปรก หรือขยะ
4. ที่นั่งผู้ขับรถ ที่นั่งคนโดยสารและพนักพิงศีรษะ ไม่ชำรุดทรุดโทรม หรือเสียหาย ที่นั่งต้องยึดติดกับโครงสร้างรถ และตัวถังรถอย่างมั่นคงแข็งแรง
5. ตรวจเข็มขัดนิรภัย และจุดยึดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงตรวจการลอค และปลดลอคของเข็มขัดนิรภัยโดยการกระตุก หรือกระชากต้องทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. สีรถ ภายนอกตัวรถ ไม่มีรอยแตกร้าว รอยด่าง คราบสนิม หรือรอยหลุดลอกชำรุดจำนวนมาก หรือขนาดใหญ่ และสีรถถูกต้องตามเอกสารหลักฐาน หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด
7. เครื่องปรับอากาศ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถปรับอากาศภายในรถ และภายในห้องโดยสารได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ปรับทิศทาง และแรงลมได้ ไม่มีน้ำรั่วซึมออกจากระบบปรับอากาศภายในรถ หรือภายในห้องโดยสาร ไม่มีเสียงดังรบกวน มีกลิ่นเหม็น หรือกลิ่นอับชื้น
8. ที่เก็บสัมภาระท้ายรถสำหรับผู้โดยสารต้องมีสภาพดี ไม่ชำรุด หรือเสียหาย ผนังทุกด้านปิดทึบมั่นคงแข็งแรง และถาวร รวมถึงมีความสะอาด เรียบร้อย ไม่มีสิ่งของที่จะเป็นอุปสรรคในการวางสัมภาระของผู้โดยสาร
สำหรับเจ้าของรถที่มีความประสงค์จะขยายอายุการใช้งานรถแทกซี กรณีรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครยื่นความประสงค์ได้ที่สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก ส่วนรถที่จดทะเบียนต่างจังหวัดยื่นความประสงค์ได้ที่กลุ่มวิชาการ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถนั้นจดทะเบียนครั้งแรก และรถนั้นต้องยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ไปยังบุคคลอื่น โดยมีหลักฐานประกอบการดำเนินการ ดังนี้ ใบคู่มือจดทะเบียน หรือภาพถ่าย หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ หรือใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกในประเภทที่ใช้แทนกันได้ที่ยังไม่สิ้นอายุ และหลักฐานการจัดให้มีประกันภัยคุ้มครองบุคคลที่ 3 และประกันภัยเพิ่มเติมที่ให้การคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายต่อคนในแต่ละครั้ง และความเสียหายต่อทรัพย์สินในวงเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายในแต่ละครั้ง เมื่อผ่านการตรวจสภาพได้รับความเห็นชอบให้ขยายอายุการใช้งานของรถให้ดำเนินการทางทะเบียน และภาษีรถให้เรียบร้อยภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากนายทะเบียน
ทั้งนี้ สำหรับรถแทกซีที่ได้รับการขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปีทุกคัน กรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษได้กำหนดเงื่อนไขการตรวจสภาพระหว่างการใช้งาน ปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้รถมีสภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยเพียงพอต่อการให้บริการรับส่งผู้โดยสารตลอดอายุการใช้งาน โดยให้นำรถเข้าตรวจสภาพล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนถึงวันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี วันครบกำหนด 3 เดือน, 6 เดือน และ 9 เดือน ณ สำนักงานขนส่งในเขตจังหวัดที่รถนั้นจดทะเบียน
นอกจากนี้ กำหนดให้สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรายเดือนเป็นเครื่องสื่อสารแทนการใช้วิทยุสื่อสารได้ โดยให้เจ้าของรถแจ้งหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อนายทะเบียน และแสดงหมายเลขโทรศัพท์ไว้ภายในห้องโดยสารบริเวณที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และบริเวณประตูตอนหลังด้านนอกรถทั้ง 2 ด้าน และด้านบนของกระจกกันลมด้านหลังรถ หากมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ต้องดำเนินการเปลี่ยนหมายเลขที่แสดงไว้ให้ตรงตามความเป็นจริงด้วย เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ทั้งยังเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของรถ และผู้ประกอบอาชีพ