Audi (เอาดี) ยังคงพัฒนารถเอสยูวีสไตล์ Sportback อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว Q5 Sportback (คิว 5 สปอร์ทแบค) รถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นล่าสุด เพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งอย่าง BMW X4 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 4) และ Mercedes-Benz GLC Coupe (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี คูเป)Audi Q5 Sportback ถูกออกแบบใหม่ด้วยสไตล์เรียบหรูมากขึ้น โดยส่วนท้ายที่ได้รับการออกแบบให้มีความสปอร์ทมากกว่า Q5 รุ่นธรรมดา ที่ Minor Change ไปแล้วก่อนหน้านี้ กระจังหน้า Sportback สไตล์รังผึ้งแบบใหม่ ซึ่งทาง Audi นำมาใช้ร่วมกับตัวแรงอย่าง S Performance ไฟหน้าแบบ LED ได้รับการติดตั้งไว้เหนือช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ที่เป็นเอกลักษณ์บริเวณกันชนด้านล่าง โดยรุ่น Sportback จะมีลักษณะเด่นชัดที่สุด คือ เส้นหลังคาด้านท้ายที่ลาดเอียงกว่ารุ่นธรรมดา ตั้งแต่จากเสา B ไปด้านหลัง และหน้าต่างด้านหลังที่เรียวขึ้น ในขณะที่เส้นตัวถังด้านล่างถูกดึงขึ้น เพื่อให้รถดูยาว ชุดล้ออัลลอยลาย Sportback ขนาด 21 นิ้ว ลายใหม่ และไฟท้าย OLED แบบใหม่ ที่ยื่นยาวออกมากว่า Q5 รุ่นปกติเล็กน้อย ทำให้ความยาวโดยรวมของ Sportback เพิ่มขึ้น 7 มม. โดยมีออพชันเสริมที่สามารถเลือกลายไฟท้ายที่แตกต่างกันได้ถึง 3 แบบ และระบบเตือนรถที่ขับตามหลัง โดยไฟท้ายจะส่องสว่างทั้งหมด หากมีรถคันอื่นเข้ามาในระยะใกล้กว่า 2 เมตร ด้านขุมกำลังมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร TFSI ระบบ Mild Hybrid 12 โวลท์ ให้กำลังสูงสุด 261 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 201 แรงม้า พร้อมระบบ Mild Hybrid 48 โวลท์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่แบบ 7 จังหวะ ในอนาคตคาดว่าจะมีเครื่องยนต์ดีเซล V6 TDI ขนาด 2.0 ลิตร และเบนซิน TFSI 4 สูบ Plug-in Hybrid (TFSI-E) รวมถึง SQ5 Sportback ที่วางเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 349 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร มาด้วย ซึ่งเครื่องยนต์ 6 สูบ จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro แบบตลอดเวลา ในขณะที่รถยนต์ 4 สูบ ระบบจะส่งกำลังไปที่เพลาล้อหลังเมื่อจำเป็นเท่านั้น และตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลระดับเริ่มต้น จะมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น Q5 Sportback ได้รับการติดตั้งช่วงล่างแบบสปอร์ท และสามารถอัพเกรดช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive Air Suspension ที่สามารถปรับความสูงของตัวรถได้ 60 มม. เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนน และการขับขี่ โดยควบคุมผ่านระบบ Audi Drive Select พร้อมพวงมาลัยปรับอัตราทดตามความเร็ว ภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่จะเหมือนกับ Q5 รุ่นธรรมดา แต่พื้นที่ด้านหลังจะลดลงเล็กน้อยตามแนวหลังคาที่ลาดเอียงลง ส่งผลให้พื้นที่ Headroom ของผู้โดยสารด้านหลัง ลดลง 2 ซม. ความจุของห้องด้านท้าย ลดลงจาก 550 ลิตร เป็น 510 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,480 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ห้องโดยสารรองรับระบบ Third-Generation Modular Infotainment System (MIB 3) จอแสดงผลแบบ Audi virtual cockpit plus มาพร้อมกับมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว Q5 Sportback สามารถติดตั้งเบาะนั่งด้านหลังแบบ plus ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม ที่ช่วยให้เบาะหลังปรับเอนได้ และสามารถเลื่อนหน้า/หลังได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านท้ายรถ ในรุ่น Advance และ S Line ภายนอกเสริมแต่งด้วยชุดแต่งสีดำที่ตัดกัน อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ จอแสดงผล Head-up display, ระบบเสียง Bang & Olufsen, เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ระบบช่วยหักเลี้ยว และระบบช่วยข้ามแยกสัญญาณไฟ