กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ สตาร์ทอัพ Betta EV เปิดตัวโครงการแทกซีไฟฟ้า Beta EV Lady Taxi สร้างอาชีพใหม่ให้แก่ผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการแทกซีไฟฟ้า Beta EV Lady Taxi เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้แก่ผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบโรค COVID-19 ด้วยบริการรถยนต์สาธารณะพลังงานไฟฟ้า 100 % สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้งประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สตาร์ทอัพ Betta EV และผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ได้แก่ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ Great Wall Motors (กเรท วอลล์ มอเตอร์ส) อีกทั้งยังมีแทกซีจิตอาสาที่ขับรถไฟฟ้าบริการฟรี ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการมีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคม ณ บริเวณโถงชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ จุติ ไกรฤกษ์ กล่าวว่า โครงการแทกซีไฟฟ้า Betta EV Lady Taxi เป็น Platform Taxi EV แนวคิดใหม่ ที่จะเปลี่ยนบริการรถยนต์สาธารณะ (Taxi) ให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % เพื่อยกระดับ และพัฒนาภาพลักษณ์วิชาชีพแทกซี ให้เป็นผู้ส่งความสุข ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ให้แก่ผู้โดยสารและสังคมในภาพรวม โดยได้เปิดรับผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้สามารถเข้าสู่วิชาชีพใหม่ ที่จะสร้างรายได้ที่เพียงพออย่างมั่นคง และที่สำคัญจะเป็นการช่วยลดปัญหามลพิษจากรถบริการสาธารณะที่วิ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 85,000 คัน นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เสนอสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ คือ การเช่าที่พักอาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ด้วยอัตราเพียงเดือนละ 999 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมีนักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่ตรวจสอบคัดกรองผู้สมัคร เพื่อให้ได้คนขับแทกซีรุ่นใหม่ที่มีความประพฤติดี และมีหัวใจบริการ ตลอดจนมีการพัฒนาฝึกอบรมให้ผู้ร่วมโครงการฯ มีศักยภาพในด้านต่างๆ ภายใต้แนวคิดการทำงานหลายหน้า (Multi-Task Working) เปลี่ยนผู้ขับแทกซีเป็นผู้ส่งความสุข และบริการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร เช่น บริการ Carpool รับส่งลูกหลานไปโรงเรียน รับส่งผู้สูงอายุ ผู้หญิงท้องไปโรงพยาบาล และรับส่งผู้พิการ เป็นต้น โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ผู้ที่ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19 โดยเฉพาะผู้หญิง ในเบื้องต้นจะเริ่มต้นที่ 200 คนแรก สู่เป้าหมาย 170,000 คน ด้วยรายได้เฉลี่ยคนละ 20,000 บาท/เดือนขึ้นไป โดยมีเป้าหมายภายใน 9 ปี จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ รวม 40,800 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ มีพันธมิตรทางธุรกิจหลักของโครงการฯ คือ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % หรือ BEV ในประเทศไทย และ Great Wall Motors (GWM) ซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านรถไฟฟ้า และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการเดินทางสมัยใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่จะจัดการทุกอย่างผ่านแอพพลิเคชัน ทำให้สามารถมีรถส่วนตัวใช้ และสร้างรายได้จากการบริการขับรถแบบ Part-time โครงการแทกซีไฟฟ้า Betta EV Lady Taxi มีการเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ จากนั้น จะมีการพิจารณาคัดเลือกและฝึกอบรม โดยคาดว่า Betta EV จำนวน 100 คัน จะพร้อมให้บริการในพื้นที่ กทม. ในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป และระหว่างนี้ จะมีรถไฟฟ้าทดลองให้บริการนั่งฟรีส่งถึงบ้าน โดยอาสาสมัครจากหลากหลายอาชีพ อาทิ คุณแก้ว บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชิญชวนผู้หญิงให้มาขับรถ Taxi เพื่อผลักดัน Lady Taxi ภายใต้แนวคิด Lady drive Lady First คุณป๊อป วิศวกรไฟฟ้า ผู้ทำธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) บิงซู เชิญชวนร่วมผลักดันนวัตกรรมรถไฟฟ้า Car-sharing และคุณไอซ์ที เภสัชกร และนักออกแบบ จิตอาสาขับรถส่งพระไปโรงพยาบาล รวมทั้งคนขับแทกซีจิตอาสารับ-ส่งคนไร้บ้านไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั้งนี้ สามารถเข้าไปกรอกใบสมัคร ได้ที่ www.bettaev.org หรือที่ Bettaevorg ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563