รายงานข่าวจากค่ายรถไฟฟ้า NIO จากประเทศจีน ซึ่งจัดตั้งสถานีเพื่อการสลับชุดแบทเตอรีที่หมด ให้เป็นชุดแบทเตอรีที่มีพลังงานเต็ม สำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า ES6 และ ES8 มีผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการใน 2 ปีที่ผ่านมา มากกว่า 500,000 ครั้งNIO ตั้งสถานีเพื่อการสลับชุดแบทเตอรีแห่งแรก เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2561 จนปัจจุบัน มียอดขายรถไฟฟ้าไปแล้วมากกว่า 38,900 คัน และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา NIO ก็จัดตั้งสถานีเพื่อการสลับชุดแบทเตอรีใน 58 เมือง ของประเทศจีน รวมทั้งมีแผนงานจะจัดตั้งเพิ่มอีกมากกว่า 50 แห่ง ภายในปีนี้ เพื่อตอบรับกับผู้บริโภคที่นิยมเดินทางไกล “การสลับชุดแบทเตอรี เป็นหัวใจสำคัญของรถไฟฟ้า เพราะช่วยเพิ่มความสะดวก สามารถชาร์จเองที่บ้านก็ได้ หรือนำมาสลับกับชุดแบทเตอรีที่ชาร์จแล้วก็ได้” เสียงจากประสบการณ์ของผู้บริโภค ซึ่งเข้ามาใช้บริการสลับชุดแบทเตอรี จะได้ชุดแบทเตอรีที่มีพลังงานเต็มเสมอ และยังได้รับการตรวจสอบระบบขับเคลื่อนและช่วงล่างของรถไปพร้อมกัน หรือสามารถสลับไปใช้ชุดแบทเตอรีที่มีความจุเพิ่มมากขึ้น อันทำให้ได้ระยะเดินทางเพิ่มขึ้น ก็สามารถกระทำได้ ผู้บริโภคที่ใช้งานรถไฟฟ้า NIO เกือบ 4 หมื่นคัน ไม่ได้เข้าใช้งานสลับชุดแบทเตอรีทั้งหมด เนื่องจากรถบางคันก็ไม่ได้อยู่ในเขตที่ให้บริการสลับชุดแบทเตอรี แต่จากข้อมูลล่าสุดระบุว่า 48.7 % เคยเข้าใช้บริการสลับชุดแบทเตอรี อย่างน้อย 1 ครั้ง สถานีบริการสลับชุดแบทเตอรี มีชุดแบทเตอรีให้เลือกหลายความจุ ตั้งแต่ 70 กิโลวัตต์ชั่วโมง, 84 กิโลวัตต์ชั่วโมง และในบางแห่งมีความจุถึง 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้เลือกใช้อีกด้วย ปัจจุบัน NIO กำลังอยู่ในขั้นพัฒนาการสลับชุดแบทเตอรี เจเนอเรชัน 2 ที่ไม่จำเป็นต้องยกตัวรถให้ลอยจากพื้น สามารถทำงานได้อย่างเรียบง่าย รวมทั้งมีราคาถูกกว่า และประหยัดเวลาสำหรับผู้บริโภคด้วย