Mazda CX-5 2.5 Turbo SP นอกจากได้แรงม้าเพิ่มขึ้น แล้วได้อะไรอีก ? .. มาดูกัน

 

Mazda CX-5 เพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.5 ลิตร ไปหมาดๆ มาดูกันว่าครอสส์โอเวอร์มาดสปอร์ท ตัวทอพรุ่นนี้ จะให้อะไรเพิ่มเติมมาบ้าง เมื่อเทียบกับรุ่นย่อยก่อนหน้านี้

 

• ได้แรงม้ามากขึ้น

หนึ่งในสิ่งที่มากขึ้นอย่างชัดเจน คือ กำลังสูงสุดที่ 231 แรงม้า ที่ 5,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 42.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. เมื่อเทียบกับรุ่นย่อยอื่นๆ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. และดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน.    

• แน่นอน.. ได้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากขึ้นด้วย

สเปคที่ทางผู้ผลิตระบุมา แสดงตัวเลขของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.5 ลิตร คือ 12.0 กม./ลิตร ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร มีตัวเลขที่ 13.9 กม./ลิตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ทำได้ที่ 18.2 กม./ลิตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ คือ 16.1 กม./ลิตร   คลิคที่รูปเพื่อดูตารางสเปคแบบเต็มๆ  

• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อควบคู่ระบบ Drive Selection

ปกติแล้วระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา i-Activ AWD จะอยู่ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ เท่านั้น ขณะที่ระบบ Drive Selection จะมีติดตั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น แต่สำหรับรุ่น 2.5 Turbo SP มีทั้ง 2 ระบบอยู่ด้วยกัน นั่นคือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ท   คลิคที่รูปเพื่อดูตารางสเปคแบบเต็มๆ  

• การตกแต่งภายในเฉพาะรุ่น 2.5 Turbo SP

ความแตกต่างด้านเครื่องยนต์กลไกที่อยู่ภายใน อาจสังเกตเห็นได้ยาก แต่จุดที่แตกต่างทางสายตายังพอมีให้เห็นจากห้องโดยสาร ได้แก่ เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa เดินด้ายสีน้ำตาลเข้ม บริเวณพวงมาลัย ก้านพวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ และส่วนแป้นพวงมาลัยใช้วัสดุโครเมียม ขณะที่วัสดุตกแต่งส่วนอื่นๆ ภายในห้องโดยสาร ใช้วัสดุลายไม้แท้ Real Wood และสีเงินซาติน วัสดุตกแต่งสวิทช์ปรับเบาะ และที่เปิดลิ้นชักเก็บของด้านหน้า เป็นวัสดุสีเงินซาติน และวัสดุตกแต่งด้านข้างคอนโซลกลาง และฝาปิดช่องใส่ของ ใช้วัสดุสีแดง Deep Red และด้ายสีน้ำตาลเข้ม     นอกจากนี้เพดานหลังคาใช้สีดำ และเบาะนั่งคู่หน้าเพิ่มระบบระบายอากาศของตัวเบาะ และเฉพาะรุ่นทอพรุ่นนี้ มีการเพิ่มระบบไฟส่องสว่างแบบใหม่ โดยไฟอ่านแผนที่ และไฟในห้องโดยสารเป็นแบบแอลอีดี ไฟบริเวณคอนโซลหน้าแบบ Down Light ไฟบริเวณที่วางเท้าหน้า/หลัง ไฟในกล่องเก็บของด้านหน้า และระบบเครื่องเสียงของ Bose   คลิคที่รูปเพื่อดูตารางสเปคแบบเต็มๆ  

• ภายนอกเทียบเท่ารุ่นทอพเดิม นั่นคือ XDL (เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)

รูปทรงภายนอกอาจสังเกตจุดแตกต่างได้ยาก เพราะเทียบเท่ากับรุ่น XDL (หลายอุปกรณ์มีติดตั้งในรุ่นย่อยอื่นๆ ด้วย) นั่นคือ ซันรูฟไฟฟ้า ไฟหน้าพโรเจคเตอร์แบบ แอลอีดี ไฟหน้าปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ และระบบเปิด/ปิดอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบแอลอีดี สปอยเลอร์หลัง และท่อไอเสียคู่   คลิคที่รูปเพื่อดูตารางสเปคแบบเต็มๆ  

• ระบบความปลอดภัยเทียบเท่ารุ่น XDL เช่นกัน

ในส่วนของระบบความปลอดภัยของรุ่นทอพ 2.5 Turbo SP พบว่าเทียบเท่ากับรุ่น XDL (และรุ่นย่อยอื่นๆ บางรุ่น) ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 6 ใบ กล้องแสดงภาพรอบคัน 360 องศา ระบบครูสคอนทโรลแปรผันความเร็ว ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรคอัตโนมัติ ระบบช่วยเบรคที่ความเร็วต่ำ และระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถแล่นมาจากด้านหลังขณะถอยรถ ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่เจตนา พร้อมระบบรักษารถให้อยู่ในเลน ระบบเตือนการเมื่อยล้าของผู้ขับ ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน   คลิคที่รูปเพื่อดูตารางสเปคแบบเต็มๆ  

• สุดท้าย.. ราคาสูงที่สุดในกลุ่ม

แต่ละรุ่นย่อยมีราคาตามนี้ โดยรุ่น 2.5 Turbo SP มีราคาสูงที่สุดตามสไตล์ตัวทอพ เพิ่มเงินจากรุ่น XDL 60,000 บาท

รุ่น 2.0 C	1,300,000 บาท
รุ่น 2.0 S	1,410,000 บาท
รุ่น 2.0 SP	1,560,000 บาท
รุ่น XD	1,570,000 บาท
รุ่น XDL	1,790,000 บาท
รุ่น 2.5 Turbo SP	1,850,000 บาท

  ข้อมูลเพิ่มเติม: Mazda Thailand