การกลับมาของ "กระเบนพิฆาต" ! Chevrolet Corvette Stingray รุ่นล่าสุด รูปทรงสุดดุดัน เครื่องยนต์วางกลางลำแบบ V8 ขนาด 6.2 ลิตร 495 แรงม้า

https://youtu.be/9k8e0hso8Zo  

Chevrolet Corvette คือ รถสปอร์ทระดับซูเพอร์คาร์ที่เป็นหน้าเป็นตาของค่ายรถสัญชาติอเมริกันเสมอมา ทำตลาดมายาวนานตั้งแต่ปี คศ. 1953 จนถึงปัจจุบัน โดยรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ถือเป็นทายาทลำดับที่ 8 ของสายพันธุ์ พร้อมกับชื่อต่อท้ายที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นคือ "Stingray" (แปลว่า ปลากระเบน)

    จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Chevrolet Corvette Stingray รุ่นนี้ คือ การหันมาวางเครื่องยนต์กลางลำอีกครั้ง หลังจากที่รุ่นก่อนหน้านี้ใช้รูปแบบการวางเครื่องยนต์ด้านหน้า รูปทรงยังคงรักษาความดุดันตามแบบฉบับรถสปอร์ทสไตล์อเมริกัน รูปทรงส่วนหน้ายังดูคุ้นเคย คล้ายกับ Corvette รุ่นก่อนหน้านี้ ห้องโดยสารถูกขยับมาข้างหน้าเล็กน้อย ด้านข้างตัวถังมีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ส่วนท้ายมีสันเหลี่ยมที่ดุดันไม่น้อยหน้ากัน ตรงกลางเหนือเครื่องยนต์เป็นแผ่นกระจกใส โชว์ขุมพลังกันเต็มๆ ยางคู่หน้าขนาด 245/35 R19 และคู่หลังขนาด 305/30 R20 อัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า/หลังในอุดมคติที่ 50:50     ในช่วงแรกที่เปิดตัว Chevrolet Corvette Stingray ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 6.2 ลิตร กำลังสูงสุด 495 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 65.0 กก.-ม. เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 3 วินาที (หากติดตั้งชุดเสริมสมรรถนะ Z51) ระบบรองรับแปรผันการตอบสนองด้วยกระแสแม่เหล็กเป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้ง     สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากรูปทรงภายนอกแล้ว ภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Corvette Stingray ถูกออกแบบได้สุดล้ำ และเร้าใจ พวงมาลัยทรง 2 ก้าน มือจับแบบหักมุม ด้านบนเน้นการมองเห็นหน้าจอบนแผงหน้าปัดแบบดิจิทอล ขณะที่ถัดมาด้านข้างเป็นหน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว ทำมุมเอียงเข้าหาคนขับ พร้อมระบบเครื่องเสียงชั้นดี และระบบเชื่อมต่อต่างๆ เบาะนั่งทรงสปอร์ท เลือกระดับการตกแต่งได้หลากหลาย รถสปอร์ทรุ่นนี้ไร้คันเกียร์ แต่แทนที่ด้วยปุ่มใช้งานโหมดเกียร์ต่างๆ ตามแบบฉบับรถสปอร์ทสมรรถนะสูงยุคใหม่ เน้นการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ผ่านแพดเดิล ชิฟท์ จุดแปลกตา คือ บรรดาปุ่มใช้งานของเบาะนั่ง และระบบปรับอากาศถูกจัดเรียงเป็นแถวยาวบริเวณด้านข้างของคอนโซลเกียร์     Chevrolet Corvette Stingray ถูกเปิดตัวแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาในเบื้องต้นถูกระบุเพียงว่าจะไม่เกิน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,845,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) ขึ้นอยู่กับออพชัน และรุ่นย่อย แต่เชื่อว่าด้วยรูปทรงที่ดุดัน เครื่องยนต์วางกลางลำ สมกับการเป็นซูเพอร์คาร์ระดับสูง เหล่าแฟนๆ ผู้รักความแรงคงต่อคิวซื้อกันยาวเหยียดเรียบร้อย !