Nissan เปิดเผยผลการดำเนินงานในรอบปี 2561 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2562 ในหลายภูมิภาคยอดขายลดลง อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงคุณภาพการขายในสหรัฐอเมริกา และการเพิ่มระยะการรับประกันคุณภาพ ซึ่งจะกระทำสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นรายงานระบุว่า ในรอบปี 2561 มีผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 318.2 พันล้านเยน ด้วยเงินรายได้ทั้งสิ้น 11.57 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลง 57.3 % และยอดขายลดลง 4.4 % เหลือเพียง 5.516 ล้านคัน แต่กระนั้น ยอดการขายในญี่ปุ่น ก็ยังเพิ่มขึ้น 2.1 % เป็น 596,000 คัน หลังจาก Note และ Serena ซึ่งได้รับการบรรจุเทคโนโลยีล่าสุด อย่าง e-Power และ ProPilot โดย Note ทำยอดขายอันดับ 1 ของรถยนต์ที่จดทะเบียนในญี่ปุ่น และ Serena ก็มียอดขายนำในกลุ่มมีนีแวน ส่วนในประเทศจีน ซึ่งคำนวณตามปีปฏิทิน ได้ยอดขายจาก Kicks, X-Trail และ Sylphy ทำให้ยอดโดยรวมเพิ่มขึ้น 5.9 % เป็น 1.564 ล้านคัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.9 % ในสหรัฐอเมริกา Nissan ขายลดลง 9.3 % เหลือเพียง 1.4 ล้านคัน ส่วนแบ่งตลาด 8.4 %, ในยุโรป รวมทั้งรัสเซีย ก็ลดลง 17.8 % เหลือเพียง 536,000 คัน ส่วนแบ่ง 3 % อย่างไรก็ตามในตลาดแห่งอื่น อย่าง เอเชีย และ โอเชียเนีย, ละติน อเมริกา, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ก็ขายลดลง 0.4 % เหลือ 815,000 คัน ในปีนี้ 2562 Nissan วางแผนว่าจะขายให้ได้ 5.54 ล้านคัน จากปีก่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยตั้งเป้าให้สำนักงานวางแผนการขาย และทำกำไรให้ได้อย่างคงที่ ในระยะกลาง โดยปรับปรุงการดำเนินงานภายใน ด้านการลงทุนและดำเนินงาน ขณะเดียวกันก็สร้างความเชื่อมั่นในบแรนด์ ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่มเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility